ฉินต้าซานไม่ได้พูดต่อแต่ก็พอเข้าใจถึงความหมายได้
โดยเฉพาะคุณย่าฉินที่รักษาหน้าตาเกียรติยศก็อ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้เป็นอย่างมาก
“ฉินต้าซาน คำพูดนี้จะเอามาพูดพล่อยๆไม่ได้ นายต้องมีหลักฐานถึงจะเอามาพูดได้”
หล่อนมองเข้าไปในตาของฉินต้าซานอย่างลึกซึ้ง ท่าทางน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก
ฉินต้าซานรีบพูด “แม่ แม่คิดให้ดีๆนะตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมาฉินปิงหลันก็เป็นคนแบบนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอทำอะไรมาบ้างพวกเราก็ไม่รู้ พูดได้เลยว่าเมื่อเจ็ดปีก่อนที่เธอประมาทจนได้เจ้าปีศาจสองตัวนั่นออกมา ใครจะไปรับประกันได้ว่าเมื่อแปดเก้าปีที่แล้วเธอจะไม่มีนิสัยแบบนี้?”
ต้องพูดได้ว่าฉินต้าซานนั้นมีพรสวรรค์ในด้านการพูดชักชวนคนในตระกูล พูดอะไรคนอื่นๆก็เชื่อตามไปกันหมดรวมไปถึงหลิวหลันผู้เป็นแม่และฉินปิงซินผู้เป็นน้องชาย
มีเพียงแต่ฉินต้าเจียงเท่านั้นที่ต้องการอธิบายแทนลูกสาวของตนแต่ก็ดันมาถูกคุณย่าฉินห้ามเอาไว้
“ที่แกพูดก็มีเหตุผล”
“แม่!”
ฉินต้าเจียงถึงกับรีบร้อน
เขาไม่คิดว่าเพียงคำพูดไม่กี่คำของฉินต้าซานจะทำให้ท่าทางของคุณย่าฉินเปลี่ยนไป
“ปิงหลันไม่ใช่คนแบบนั้น เธอเองก็เคยอธิบายมาก่อนว่าเมื่อเจ็ดปีที่แล้วเฉินอีมีปัญหาทางจิต ไม่อย่างนั้นคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเป็นแน่”
“มันเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด ไม่ใช่นิสัยที่แท้จริงของฉินปิงหลันซะหน่อย”
เขาต้องการที่จะอธิบายเพื่อตัวลูกสาวเขาสักหน่อย
แต่!
“ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแล้ว ฉันเห็นเรื่องพวกนี้และมันอยู่ในใจของฉัน เมื่อก่อนต่อให้ฉินปิงหลันจะไม่ได้ถูกยืนยันว่าทำเรื่องสกปรกๆแบบนี้ เธอก็เป็นคนแบบนั้นอยู่แล้ว”
“หวยจือ นายรับตำแหน่งเป็นประธานของฉินซื่อกรุ๊ปไป สำหรับการสืบทอดตำแหน่งอย่างเป็นทางการก็รอให้นายไปเจรจาคุยกับคนของวังซื่อกรุ๊ปก่อน”
คำพูดของคุณย่าฉินนั้นมีน้ำหนักและน่าเชื่อถือ
ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีกลิ่นอายแห่งการเสียดสีเข้าให้แล้ว
ฉินหวยจือไม่สนใจสิ่งนี้ เมื่อเขาได้ยินคำพูดของคุณย่าฉิน ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขพร้อมกับรีบพูดออกไปว่า “ขอบคุณคุณย่ามากเลยนะครับ คุณย่าวางใจได้เลย หวยจือจะทำให้งานนี้ออกมาอย่างเหมาะสมและไร้ซึ่งปัญหาใดๆเลย”
เขาตบไปที่หน้าพร้อมกับสาบาน หากไม่รู้คงคิดว่าเขาเป็นผู้นำทางด้านกองทัพเป็นแน่
หลังออกจากบ้านตระกูลฉิน ฉินหวยจือก็ได้เหลือบมองไปที่หลิวหลันอย่างภาคภูมิใจ
“คุณป้า คุณป้ารีบไปพูดชักชวนฉินปิงหลันและส่งเธอไปร่วมเตียงกับคุณชายหลี่เจ๋อเถอะ ไม่เช่นนั้นครอบครัวของคุณป้าก็จะเป็นแบบนี้ไปทั้งชีวิต”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ฉินโร่ซีเองก็ยังคงคอยพูดเติมเชื้อเพลิงอยู่เรื่อยๆ “หากพวกท่านจะโทษก็ต้องโทษลูกสาวที่ใจง่าย ไม่รู้ว่าไปนอนมากับผู้ชายกี่คนแล้ว เดาว่าคงดูไม่จืดเลยล่ะ”
คนของตระกูลฉินทุกๆคนที่เดินผ่านฉินต้าเจียงก็คอยแต่เข้ามาพูดเย้ยหยัน
ใบหน้าของหลิวหลันแดงด้วยความโกรธ
“ฉันไม่น่าคลอดฉินปิงหลันออกมาเลย ควรจะทำแท้งไปเลยถึงจะถูก ฉันผู้เป็นแม่แต่งงานกับคุณก็เพื่อที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่คิดเลยว่าคนเป็นพ่อก็มาพิการ ส่วนลูกสาวก็จะใจง่ายขนาดนี้”
เธอโกรธจัดจนดวงตาแดงก่ำ เธอนั่งยองๆบนพื้นพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด
ฉินต้าเจียงเองก็โกรธไม่แพ้กัน “หลิวหลัน พอได้แล้ว!”
“เธอบอกว่าฉันพิการ ไม่เป็นไร ถือว่าฉันทำให้เธอขาดทุนซึ่งเธอเองก็พูดแล้ว”
“แต่ทำไมถึงพูดถึงลูกสาวของตัวเองแบบนี้ นั่นคือเนื้อหนังที่หลุดออกมาจากตัวเธอเอง หรือว่าเธอที่แม้แต่เป็นแม่ก็ไม่เชื่อในตัวของลูกสาวตัวเองงั้นเหรอ?”
เขาโกรธจนยั้งอารมณ์แทบไม่อยู่
แต่ก่อนไม่ว่าฉินหวยจือจะพูดยังไง ฉินต้าเจียงก็ไม่เคยสนใจเพราะยังไงซะความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ได้แยกจากกันไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ