"แม่รออะไรอยู่ล่ะ ไปเก็บของสิ" ภูธรหันไปพูดกับภรรยารักในขณะที่โอบกอดลูกสาวอยู่
"อะไรนะพ่อ" ดุจดาวคิดว่าตัวเองฟังผิด
"ไม่ได้ยินที่ลูกชวนเหรอ" พอเห็นสภาพของลูกสาวแล้ว มันสามารถดึงความเป็นคนในตัวของผู้เป็นพ่อกลับมาได้ ลูกสาวตัวเล็กๆ แค่นี้ ยังสามารถทำเพื่อพ่อที่แก่แต่ไม่มีความคิดแบบเขาได้ ทำไมเขาถึงจะทำเพื่อลูกบ้างไม่ได้
"คุณพ่อยอมไปกับลูกแล้วใช่ไหมคะ"
"ก็เราไม่เหลืออะไรแล้วนี่ หนูเลี้ยงตาแก่กับยายแก่แบบพ่อกับแม่ได้ไหมล่ะ" ผู้เป็นพ่อพูดพร้อมกับซับน้ำตาออกจากใบหน้าให้ลูกสาว
"ได้สิคะ เราจะไปอยู่ด้วยกัน" ในความโชคร้ายอาจจะเป็นโชคดีของเธอก็ได้ ที่ได้เห็นตัวตนของพ่ออีกครั้ง
ตั้งแต่ความโลภเข้ามาบังตา พ่อก็รีบกอบโกยเอาจนไม่เห็นหัวคนในครอบครัวเลย ทำได้แม้กระทั่งพาลูกสาวไปเสนอให้กับเสี่ยรวยๆ เพื่อทรัพย์สมบัติมหาศาลพวกนี้
แต่ครั้งนี้เธอสัมผัสได้ถึงพ่อคนเดิม คนที่ปลอบใจเวลาเธอหกล้ม เวลาถูกเพื่อนแกล้งมาจากโรงเรียน ก็ได้อ้อมกอดอันอบอุ่นของพ่อและแม่คอยปลอบ ..มิลานยอมรับว่าโหยหาอ้อมกอดนี้มาก จนเธอคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอมันอีกแล้ว
ทั้งสามเก็บข้าวของเครื่องใช้ โชคดีเธอยังมีเงินเก็บอยู่จำนวนหนึ่ง เพราะเธอยังใช้ไม่หมด และเงินพวกนี้ก็นอกเหนือจากที่ต้องโดนยึดทรัพย์สิน
หญิงสาวเอาเงินบางส่วนให้กับแม่บ้านเพื่อให้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ เพราะเธอคงไม่สามารถที่จะเลี้ยงได้ทั้งหมด ป้าแม่บ้านก็เข้าใจ ก็เลยยอมกลับบ้านนอกเพื่อไปหาลูกหลาน
"เราต้องนั่งแท็กซี่..แล้วไปขึ้นรถประจำทาง คุณพ่อไปได้ใช่ไหมคะ"
"พ่อเป็นผู้ชายนะลูก หนูควรจะถามแม่มากกว่า"
"แม่ไปได้สิจ๊ะ ขอให้มีหนูกับพ่อ ถึงแม้ว่าจะอยู่ที่ไหนแม่ก็อยู่ได้"
"ช่วงแรกอาจจะลำบากหน่อยนะคะ ลูกอยากจะให้พ่อกับแม่อดทนหน่อย เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง" ..หวังว่ามันคงจะดีขึ้นนะ
สองสามีภรรยาได้แต่มองหน้ากัน พวกเขาไม่คิดว่าลูกสาวที่เอาแต่เที่ยวเตร่ช้อปปิ้งไปวันๆ จะมีความคิดแบบนี้ได้ ..โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าทำไมเธอถึงทำไปแบบนั้น ..ที่เธอทำไปก็เพราะเธออยากจะเก็บศักดิ์ศรีของตัวเองไว้ แต่ก็อีกนั่นแหละฟ้าคงไม่เป็นใจ ทำให้ศักดิ์ศรีที่มีเหลืออยู่แค่สิ่งเดียวของเธอถูกทำลาย ..และเขาไม่ได้ทำลายแค่ความบริสุทธิ์ของเธอ เขายังแอบขโมยเอาหัวใจของเธอไปด้วยโดยไม่รู้ตัว
หญิงสาวออกมาหน้าปากซอยเพื่อที่จะเรียกแท็กซี่ ให้เข้ามารับพ่อกับแม่ และตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว
เช้าวันต่อมา..
{"กูยังไม่เห็นใครออกมาจากบ้านเลย..มึงจะอะไรนักหนา"} เมื่อคืนนี้ พอมกราขับรถตามมิลานมาจนถึงบ้าน เห็นว่าเธอเข้าไปด้านในนานพอสมควร ก็เลยคิดว่าคงจะนอนไปแล้วเขาถึงกลับ..
เช้ามาพอรับโทรศัพท์ของเพื่อนรัก มกราก็เลยต้องได้มาเฝ้าที่หน้าบ้านหลังนี้อีก และตอนนี้ในบ้านก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร เขาแค่สงสัยว่าทุกคนคงจะยังไม่ตื่น
{"มึงรออยู่ตรงนั้นถ้ามีอะไรก็รีบโทรมา.."}
"ลูกคุยโทรศัพท์กับใครเหรอ" เสียงที่แทรกเข้ามาในโทรศัพท์ก็คือเสียงของประไพ เหนือตะวันก็เลยต้องได้รีบวางสายไป
"คุยสายกับเพื่อนครับ คุณแม่แต่งตัวสวยจะไปไหนครับเนี่ย" เขาวางโทรศัพท์ไว้แล้วก็เดินมาโอบกอดผู้เป็นแม่ที่ยืนอยู่หน้าประตูห้อง
"ก็เรื่องที่เราคุยกันไว้เมื่อวานนี้ไง ลูกตกลงแล้วไม่ใช่เหรอที่จะไปทานข้าวกับครอบครัวของหนูวุ้นเส้น"
"แม่ครับ.."
"โอ๊ยแม่ปวดหัวจังเลยลูก" ได้ยินแค่น้ำเสียงของลูกชายก็รู้แล้วว่าเขาจะพูดอะไรต่อ นางก็เลยแกล้งเอามือขึ้นมากุมศีรษะไว้
"ผมขอเปลี่ยนชุดแป๊บหนึ่งก่อนครับ แม่ลงไปรอข้างล่างนะ"
"แม่เตรียมชุดไว้ให้แล้วนะ อยู่ในตู้เสื้อผ้าของลูกนั่นแหละ"
"ครับแม่"
"ก็มีแต่ลูกนี่แหละที่เข้าใจแม่" มือที่เริ่มจะเหี่ยวย่นของผู้เป็นแม่ยื่นขึ้นมาลูบผมของลูกชาย..ซึ่งตอนนี้เขาสูงมากถ้าไม่โน้มตัวลงมาคงจะลูบไม่ถึง
เหนือตะวันจะทำอะไรก็ทำยังไม่ได้ พ่อก็ไม่เปิดโอกาสให้คุย แม่ก็ใช้มารยาความเป็นแม่รั้งตัวลูกชายไว้
ชายหนุ่มเดินมาเปิดดูตู้เสื้อผ้า เห็นชุดที่แขวนอยู่เขาก็แอบสงสัย ทำไมต้องใส่ชุดอะไรเนี๊ยบขนาดนี้ด้วย แค่ไปทานข้าวกันเฉยๆ แต่เขาจำเป็นต้องได้ใส่เพราะไม่อยากขัดใจแม่
"คุณพ่อ?" เข้ามาถึงก็เห็นผู้เป็นพ่อกำลังยืนคุยกับใครหลายคนอยู่ในงานนั้น
และนักข่าวต่างก็รีบเข้ามาถ่ายรูปทำข่าว ..เหนือตะวันมองไปทั่วงานแบบงงงวย
"เรียนเชิญเจ้าบ่าวทางนี้เลยครับ" พิธีกรบนเวทีได้กล่าวขึ้น มันยิ่งทำให้เขางงหนักเข้าไปอีก เพราะตอนนี้สายตาของทุกคนในงานต่างก็หันมองมาที่เขา
ในขณะที่เขากำลังยืนสับสนอยู่นั้น สำราญผู้เป็นพ่อก็ได้เดินเข้ามาหา
"เราสมควรที่จะมีครอบครัวได้แล้วน่ะลูก"
"มีครอบครัวหมายความว่ายังไงครับ"
"แม่ได้หาผู้หญิงที่ดีและเหมาะสมกับลูกไว้ให้แล้ว" ประไพก็เอ่ยพูดขึ้นอีกคน
ชายหนุ่มมองหน้าพ่อและแม่ เขาไม่เคยเห็นพ่อกับแม่พูดด้วยกันดีๆ แบบนี้..จะเรียกว่าไม่เคยเห็นเลยก็ได้ เพราะพวกท่านไม่เคยมีความรักให้กัน ..แต่ครั้งนี้ทำไมถึงเห็นตรงกันนัก
ครื่นนน ครื่นนนนน
ในขณะที่เขากำลังมองพวกท่านแบบใช้ความคิด ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้น
"ก่อนแม่ตาย แม่อยากเห็นลูกเป็นฝั่งเป็นฝา อยู่กับผู้หญิงที่คู่ควรกับลูก" นางยังพยายามพูดเกลี้ยกล่อมลูกชาย และผู้เป็นแม่ก็หันไปยิ้มหวานให้กับสามีที่ยืนอยู่ข้างๆ เพื่อให้สามีพูดเกลี้ยกล่อมลูกอีกแรง และสำราญดูเหมือนว่าจะพร้อมใจกับภรรยามาก
ทำไมเขาจะไม่ดีใจที่เห็นพ่อกับแม่กลมเกลียวกัน แต่ถ้าเป็นสถานการณ์อื่นก็คงจะดีกว่านี้
"เจ้าสาวมาแล้ว" เสียงคนในงานพูดขึ้น และทุกคนต่างก็หันไปมองที่เจ้าสาว ซึ่งอยู่ในชุดวิวาห์แสนสวย
{"อะไรนะ"} มีแค่คนเดียวที่ไม่ได้สนใจเจ้าสาวแสนสวยคนนั้น นั่นก็คือเจ้าบ่าว เพราะตอนนี้เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย {"มึงดูดีหรือยัง"}
{"กูถามคนแถวนี้ดูแล้ว พวกเขาบอกว่าเห็นเรียกรถแท็กซี่ออกไปตั้งแต่เมื่อคืน..กูขอโทษจริงๆ ว่ะ เอ้าไอ้นี่มึงจะรีบวางไปไหนวะ"} มกราพูดยังไม่จบประโยคเลยด้วยซ้ำ ปลายสายก็ตัดสายทิ้งไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สยบรัก