"ฉันว่าเข้าไปคุยกันข้างในดีกว่า จะมายืนคุยอะไรอยู่ตรงนี้ อายชาวบ้านชาวช่องเขา" ประไพยังได้เอ่ยพูดต่อ ที่จริงไม่มีใครมองเข้ามาเห็นหรอก เนื้อที่กว้างขวางขนาดนี้
และภูธรก็ยอมเดินตามเข้ามาแต่โดยดี
ในห้องรับแขก..
"ฉันจะเป็นคนพูดก่อนเลยแล้วกันนะ" ในฐานะที่เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ เพราะตอนนี้สามีได้โอนทุกอย่างที่นางควรจะได้ให้กับนางหมดแล้ว ..และทุกคนต่างก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างดี
"ในเมื่อเด็กเขารักกัน เราเป็นผู้ใหญ่แก่ใกล้จะลงโลงกันอยู่แล้ว ทำไมไม่ปล่อยให้เด็กเขาได้มีชีวิตอยู่ร่วมกันไป"
ถึงแม้คำพูดของแม่จะไม่มีความอ่อนโยนเลย แต่ทุกประโยคที่พูดออกมามันทำให้ลูกชายแทบจะน้ำตาไหล เพราะเหมือนแม่กำลังปกป้องความรักของลูกอยู่
"เรื่องผิดพลาดที่ผู้ใหญ่ได้ทำไว้ในอดีต ฉันจะไม่นำมันมาพูดให้มีผลกระทบต่อปัจจุบันและอนาคตของเด็ก คุณเห็นด้วยไหมคุณภูธร" ประโยคนี้ประไพหันไปมองพ่อของเธอโดยตรง
และบุคคลที่ถูกเอ่ยชื่อขึ้นมาถึงกับพูดไม่ออก เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ในเมื่อต้นต่อเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะอะไรภูธรรู้ดียิ่งกว่าใคร
"ในเมื่อตอนนี้เรากำลังจะเป็นปู่ย่าตายายกันแล้ว"
"..?.." ประโยคหลังมันทำให้แขกทั้งสองถึงกับสะดุ้ง "คุณหมายความว่ายังไง"
พอได้ยินคำพูดนี้สายตาของผู้เป็นแม่ก็หันมองไปที่ลูกชาย และมองลูกสะใภ้ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าพ่อกับแม่ของเธอคงยังไม่รู้เรื่องท้อง
"ก็อย่างที่ฉันพูด ตอนนี้เรากำลังจะเป็นปู่ย่าตายาย" ยังไงก็ได้เกริ่นออกมาแล้วคงต้องได้ไปให้สุด
"หนูท้องเหรอลูก" ดุจดาวหันไปพูดกับลูกสาว
"ยังไม่แน่ใจค่ะ" หญิงสาวตอบออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา
"เครื่องตรวจครรภ์ขึ้นสองขีดครับ" คนที่พูดต่อก็คือเหนือตะวัน
"เครื่องตรวจครรภ์? หนูตรวจแล้วใช่ไหมลูก" ดุจดาวยังคงถามลูกสาวต่อ
"ตรวจแล้วค่ะ ตรวจวันนั้น..วันที่คุณพ่อกับคุณแม่..เออ"
"วันไหนเหรอ"
"วันที่คุณเหนือเขา..วัดไข้นั่นแหละค่ะ"
"อย่าบอกนะว่านั่นคือเครื่องตรวจครรภ์" ภูธรถึงกับหันไปมองหน้าเหนือตะวัน เพราะเขาเห็นเต็มสองตาว่าเหนือตะวันทำอะไรกับเครื่องตรวจครรภ์นั้นบ้าง "หึหึหึ" ในความเครียดก็ยังมีอารมณ์อยากจะขำ ภูธรพยายามกลั้นไว้
"มีอะไรกัน"
"เปล่าหรอกครับแม่"
"ถ้าไม่มีอะไรกันเราก็มาคุยต่อ" ประไพคิดว่ามันต้องมีอะไรแน่ แต่ถ้าทุกคนไม่พร้อมที่จะพูดก็ไม่เป็นไร "ฉันอยากจะทำให้ถูกพิธีรีตรอง ยังไงเด็กสองคนก็รักกัน และก็กำลังจะสร้างครอบครัวของเขาเอง เราก็จัดงานแต่งให้เขาตามประเพณี พวกคุณเห็นด้วยไหม"
จังหวะนี้เหนือตะวันแทบจะลืมหายใจ เพราะเขารอฟังคำตอบจากพ่อของเธออยู่
"ค่ะ" ดุจดาวไม่รอฟังความคิดเห็นของสามีเลย นางตอบออกไปอย่างมั่นใจ เพราะนางรู้ดีว่าลูกสาวรักผู้ชายคนนี้มาก และฝ่ายชายก็รักลูกสาวของนางไม่ต่างกัน
"เรื่องสินสอดทองหมั้นทางฉันยอมทำตามที่พวกคุณขอมา"
เหนือตะวันยังคงมองหน้าพ่อของเธออยู่ เพราะเขาอยากจะได้ยินสิ่งที่ท่านพูดมากกว่า..แต่ท่านก็ยังเงียบ
"ทางเราไม่ต้องการอะไรมากมายหรอกค่ะ ขอแค่ให้คุณ..?.." ดุจดาวอยากจะถามอยู่ว่าตกลงเขาชื่ออะไรกันแน่ คนระดับนี้คงเป็นไปไม่ได้ที่จะชื่อหำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สยบรัก