สรุปตอน บทที่ 69 – จากเรื่อง สยบรัก โดย ชะนีติดมันส์
ตอน บทที่ 69 ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง สยบรัก โดยนักเขียน ชะนีติดมันส์ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
"ฉันว่าเข้าไปคุยกันข้างในดีกว่า จะมายืนคุยอะไรอยู่ตรงนี้ อายชาวบ้านชาวช่องเขา" ประไพยังได้เอ่ยพูดต่อ ที่จริงไม่มีใครมองเข้ามาเห็นหรอก เนื้อที่กว้างขวางขนาดนี้
และภูธรก็ยอมเดินตามเข้ามาแต่โดยดี
ในห้องรับแขก..
"ฉันจะเป็นคนพูดก่อนเลยแล้วกันนะ" ในฐานะที่เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ เพราะตอนนี้สามีได้โอนทุกอย่างที่นางควรจะได้ให้กับนางหมดแล้ว ..และทุกคนต่างก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างดี
"ในเมื่อเด็กเขารักกัน เราเป็นผู้ใหญ่แก่ใกล้จะลงโลงกันอยู่แล้ว ทำไมไม่ปล่อยให้เด็กเขาได้มีชีวิตอยู่ร่วมกันไป"
ถึงแม้คำพูดของแม่จะไม่มีความอ่อนโยนเลย แต่ทุกประโยคที่พูดออกมามันทำให้ลูกชายแทบจะน้ำตาไหล เพราะเหมือนแม่กำลังปกป้องความรักของลูกอยู่
"เรื่องผิดพลาดที่ผู้ใหญ่ได้ทำไว้ในอดีต ฉันจะไม่นำมันมาพูดให้มีผลกระทบต่อปัจจุบันและอนาคตของเด็ก คุณเห็นด้วยไหมคุณภูธร" ประโยคนี้ประไพหันไปมองพ่อของเธอโดยตรง
และบุคคลที่ถูกเอ่ยชื่อขึ้นมาถึงกับพูดไม่ออก เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ในเมื่อต้นต่อเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะอะไรภูธรรู้ดียิ่งกว่าใคร
"ในเมื่อตอนนี้เรากำลังจะเป็นปู่ย่าตายายกันแล้ว"
"..?.." ประโยคหลังมันทำให้แขกทั้งสองถึงกับสะดุ้ง "คุณหมายความว่ายังไง"
พอได้ยินคำพูดนี้สายตาของผู้เป็นแม่ก็หันมองไปที่ลูกชาย และมองลูกสะใภ้ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าพ่อกับแม่ของเธอคงยังไม่รู้เรื่องท้อง
"ก็อย่างที่ฉันพูด ตอนนี้เรากำลังจะเป็นปู่ย่าตายาย" ยังไงก็ได้เกริ่นออกมาแล้วคงต้องได้ไปให้สุด
"หนูท้องเหรอลูก" ดุจดาวหันไปพูดกับลูกสาว
"ยังไม่แน่ใจค่ะ" หญิงสาวตอบออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา
"เครื่องตรวจครรภ์ขึ้นสองขีดครับ" คนที่พูดต่อก็คือเหนือตะวัน
"เครื่องตรวจครรภ์? หนูตรวจแล้วใช่ไหมลูก" ดุจดาวยังคงถามลูกสาวต่อ
"ตรวจแล้วค่ะ ตรวจวันนั้น..วันที่คุณพ่อกับคุณแม่..เออ"
"วันไหนเหรอ"
"วันที่คุณเหนือเขา..วัดไข้นั่นแหละค่ะ"
"อย่าบอกนะว่านั่นคือเครื่องตรวจครรภ์" ภูธรถึงกับหันไปมองหน้าเหนือตะวัน เพราะเขาเห็นเต็มสองตาว่าเหนือตะวันทำอะไรกับเครื่องตรวจครรภ์นั้นบ้าง "หึหึหึ" ในความเครียดก็ยังมีอารมณ์อยากจะขำ ภูธรพยายามกลั้นไว้
"มีอะไรกัน"
"เปล่าหรอกครับแม่"
"ถ้าไม่มีอะไรกันเราก็มาคุยต่อ" ประไพคิดว่ามันต้องมีอะไรแน่ แต่ถ้าทุกคนไม่พร้อมที่จะพูดก็ไม่เป็นไร "ฉันอยากจะทำให้ถูกพิธีรีตรอง ยังไงเด็กสองคนก็รักกัน และก็กำลังจะสร้างครอบครัวของเขาเอง เราก็จัดงานแต่งให้เขาตามประเพณี พวกคุณเห็นด้วยไหม"
จังหวะนี้เหนือตะวันแทบจะลืมหายใจ เพราะเขารอฟังคำตอบจากพ่อของเธออยู่
"ค่ะ" ดุจดาวไม่รอฟังความคิดเห็นของสามีเลย นางตอบออกไปอย่างมั่นใจ เพราะนางรู้ดีว่าลูกสาวรักผู้ชายคนนี้มาก และฝ่ายชายก็รักลูกสาวของนางไม่ต่างกัน
"เรื่องสินสอดทองหมั้นทางฉันยอมทำตามที่พวกคุณขอมา"
เหนือตะวันยังคงมองหน้าพ่อของเธออยู่ เพราะเขาอยากจะได้ยินสิ่งที่ท่านพูดมากกว่า..แต่ท่านก็ยังเงียบ
"ทางเราไม่ต้องการอะไรมากมายหรอกค่ะ ขอแค่ให้คุณ..?.." ดุจดาวอยากจะถามอยู่ว่าตกลงเขาชื่ออะไรกันแน่ คนระดับนี้คงเป็นไปไม่ได้ที่จะชื่อหำ
ห้องทำงานเขาก็ให้คนจัดเตรียมไว้ก่อนแล้ว
"พ่อไม่ทำหรอก" พอเห็นทุกอย่างอยู่ตรงหน้าภูธรถึงกับปฏิเสธ
"ทำไมครับ"
"ไม่ทำไม" ถ้าเขารับตำแหน่งนี้ มันคงจะดูเป็นคนที่เห็นแก่เงินมาก เพราะเรื่องในอดีตเขาเคยทำผิดพลาดมาแล้ว ไม่อยากให้คนดูถูกลูกสาวตัวเองมากไปกว่านี้
แต่ดูเหมือนว่า เหนือตะวันจะเข้าใจความคิดของท่าน
"ตอนนี้ผมไว้ใจใครไม่ได้เลย แม้แต่พ่อของผมเอง คุณพ่อก็รู้ว่าท่านหลงผู้หญิงมากแค่ไหน ตอนนี้แทบจะประเคนทุกอย่างให้ผู้หญิงคนนั้น คุณพ่อช่วยผมด้วยนะครับ เรื่องนี้ผมยังอ่อนหัดมาก ถ้าไม่มีคนที่ไว้ใจได้ช่วย สมบัติทุกอย่างที่ผมคิดว่าจะเก็บไว้ให้ลูก ให้หลานของคุณตา คงไม่มีอีกแล้ว"
ภูธรจำเป็นต้องตกลงรับทำงานนี้ และมันก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง เพราะเป็นงานที่ถนัดอยู่แล้ว บริษัทเดิมของเขาถ้าไม่ถูกคนที่มีอำนาจกลั่นแกล้งคงไม่เป็นแบบนี้แน่
วันนี้เหนือตะวันขอกลับบ้านก่อน เพราะว่าจะพาภรรยาไปเช็คให้แน่ใจถ้าเธอท้องก็จะฝากท้องให้เรียบร้อย และก่อนที่จะออกไป ชายหนุ่มได้เรียกประชุมทุกฝ่าย เพื่อแนะนำผู้ช่วยให้กับทุกคนได้รู้จัก นั่นก็คือภูธรพ่อของภรรยาเขาเอง..
เที่ยงวันเดียวกัน..
ภูธรที่มีตำแหน่งรองแค่ท่านประธาน ได้ลงมาชั้นล่าง เพื่อที่จะออกไปทานข้าวร่วมกับผู้บริหารอีกหลายท่าน ที่ทุกคนพร้อมใจอยากจะเลี้ยงข้าว
พอเดินมาถึงที่หน้าแผนกต้อนรับ เขาก็ได้หยุด แล้วค่อยๆหันไปมอง..
หญิงสาวฝึกงานคนที่ประจำอยู่แผนกต้อนรับ ได้ส่งยิ้มให้กับชายวัยกลางคนที่มองเธออยู่ "ขะ..คุณลุง?" เธอพยายามเพ่งเล็งดูว่าเป็นลุงคนนั้นไหม
"มีอะไรเหรอครับท่าน" ผู้จัดการใหญ่เห็นว่าท่านผู้ช่วยหยุดมองเด็กสาวก็เลยถามดู
"เปล่าหรอกครับ" สายตาของภูธรไม่ได้หยุดอยู่แค่เด็กฝึกงานคนนั้น เขายังตวัดมองไปดูหัวหน้าแผนกต้อนรับ ที่ไม่กล้าสบตาเขาเลยด้วยซ้ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สยบรัก