สยบรัก นิยาย บท 75

[หน้าห้างสรรพสินค้า]

"ตื่น" ไม่ใช่แค่คุณนายแม่ที่เห็นคอนเท้นนั้นของเน็ตไอดอล เจ้าของห้างก็เห็นเช่นกัน จึงต้องได้รีบให้คนมาเชิญตัวผู้หญิงที่นอนอยู่หน้าห้างออกไปก่อน กลัวว่าจะเป็นข่าวเสียหาย

หญิงสาวถูกเขย่าจนรู้สึกตัว..รีบลุกขึ้นมานั่งแบบงัวเงีย

"ขอโทษค่ะ" จั๊กจั่นรีบลุกขึ้นยืนเพราะรู้สึกอาย ตอนนี้ใครหลายคนต่างก็มองมา ถึงแม้ที่นี่จะดึกแล้ว แต่คนก็ยังพลุกพล่านอยู่

"ผู้หญิงคนที่นอนอยู่หน้าห้างเมื่อสักครู่ไปไหนแล้ว" ลงรถได้ประไพก็รีบเดินมา เพราะจำห้างนี้ได้แม่น เวลาที่นั่งดูไลฟ์สด แน่นอนว่ามันคือเวลาปัจจุบัน

"เห็นรปภ.ของห้างมาไล่ให้ออกไปแล้ว" คนที่ยังอยู่แถวนั้นตอบออกไป

"แล้วเห็นไหมว่าเดินไปทางไหน"

"คนเยอะขนาดนี้ไม่เห็นหรอกป้า"

"ไอ้นกแก้วมันจะไปไหนของมันเนี่ย" ประไพแน่ใจว่าต้องเป็นจั๊กจั่นแน่

พอเดินตามหาแถวนั้นไม่เจอ นางก็เลยโทรไปหาลูกชาย ซึ่งวันนี้เขาขอพาภรรยาไปนอนที่บ้านแม่ยาย

{"อะไรนะครับแม่?"}

{"ตอนนี้แม่ยังอยู่ที่ห้าง เดี๋ยวแม่ส่งคลิปให้ดู"} นางก็เลยกดแชร์คลิปนั้นเพื่อให้ลูกชายได้ช่วยดู พอมิลานและเหนือตะวันเห็นก็แน่ใจเลยว่านั่นคือจั๊กจั่น

เหนือตะวันก็เลยรีบโทรกลับไปที่หมู่บ้าน

{"จั๊กจั่นไม่อยู่ที่บ้านใช่ไหม"}

{"อืม"} คนที่เขาโทรไปหาก็คือเสกสรร

{"แล้วไม่มีใครตามหาเลยเหรอ"}

{"ตาม..แต่ไม่เจอ"}

{"แล้วทำไมมึงไม่โทรมาบอกกูวะ!"} เขารู้สึกผูกพันกับคนที่นั่นมาก เหมือนกับเป็นครอบครัว

{"ก็ไม่อยากจะกวนมึงนี่หว่า"}

ได้ยินแค่นี้เหนือตะวันก็รีบตัดสายไป แล้วชวนมิลานไปหาแม่ที่ห้างนั้น

ใช้เวลาขับรถอยู่เพียงไม่นานก็มาถึง

"จั๊กจั่น??"

"มิลาน" พอจั๊กจั่นเห็นว่ามิลานมาด้วยก็รีบเดินเข้ามาสวมกอดเพื่อนไว้

"เจอที่ไหนครับแม่"

"ดีนะที่ยังไม่ไปไหนไกล" พอทางห้างไล่ให้ออกไป จั๊กจั่นก็เดินไปนอนที่ป้ายรถเมล์ต่อ เพราะยังง่วงอยู่มาก

"ทำไมมาถึงกรุงเทพฯ แล้วถึงไม่ไปหาฉัน" มิลานเริ่มตำหนิเพื่อน

"ไม่อยากรบกวนนี่"

"อย่าเพิ่งพูดอะไรกันเลยกลับบ้านก่อน" ประไพดูสภาพแล้วจั๊กจั่นคงยังง่วงนอนอยู่

ส่วนจั๊กจั่นเอง เธอไม่มีแม้แต่น้ำตาสักหยด ขณะที่กอดกับมิลานก็ยังไม่มี เพราะเธอต้องเข้มแข็ง ถ้ามีน้ำตานั่นคือคนอ่อนแอ

รถทั้งสองคันได้ขับตามกันเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่

"พาเพื่อนขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ถ้าง่วงก็นอน พรุ่งนี้เช้าค่อยคุยกัน" มันคือคำสั่งประมุขของบ้านหลังนี้

"ค่ะ" มิลานก็เลยพาจั๊กจั่นขึ้นห้องไป เธอยังไม่ถามอะไรเพราะมันต้องเป็นเรื่องที่หนักหนาแน่ จั๊กจั่นถึงได้หนีออกมาแบบนี้

"ร้อยวันพันปีผมไม่เคยเห็นแม่ดูอะไรแบบนี้" ส่วนเหนือตะวันยังนั่งคุยกับแม่อยู่ข้างล่าง

นางก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงอยากจะเลื่อนดูหน้าเฟซบุ๊ค แต่คงเพราะเหตุผลนี้ ถึงทำให้นางต้องดู

วันต่อมา..

จั๊กจั่นขอร้องไม่ให้เหนือตะวันบอกกับคนที่บ้านว่าเจอเธอ ..เหตุผลหนึ่งคงเพราะอยากรู้ว่าแม่จะเป็นห่วงไหม เพราะนอกจากแม่แล้ว คนที่เธอคิดถึงคงไม่เป็นห่วงหรอก

"คุณนายแม่จะพาหนูมาที่นี่ทำไมคะ" จั๊กจั่นมองดูร้านเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า

"ก็พาเด็กมอมแมมมาหาซื้อเสื้อผ้าไง"

"ทำไมต้องมาซื้อร้านแพงขนาดนี้ด้วยคะ" ร้านนี้เหนือตะวันเคยพามาซื้อแล้วเธอก็เลยรู้ดีว่ามันแพงมาก

"อยากได้ชุดไหนก็เลือกเอา เงินเก็บไว้เยอะๆ เดี๋ยวมันขึ้นรา"

"เหตุผลของคุณนายแม่ฟังขึ้นมากเลยค่ะ"

"ไอ้เด็กคนนี้ เมื่อวานยังทำหน้าซังกะตายอยู่เลย" จะไม่ให้นางเอ็นดูได้ยังไง สภาพขนาดนั้นยังไม่มีน้ำตาออกมาให้เห็นสักหยด แถมตอนนี้ยังยิ้มหน้าระรื่นได้

"ทำไมเสื้อผ้าแต่ละชุดเหมือนจะไปทำงานเลย" เพราะประไพมองดูชุดที่จั๊กจั่นเลือก ไม่เหมือนกับหญิงสาววัยรุ่นที่ชอบใส่ไปช้อปปิ้งเลย

"ใช่แล้วค่ะ หนูอยากจะไปหางานทำ" เธอไม่อยากจะรบกวนท่านให้มากไปกว่านี้ เพราะยังไงก็ไม่ใช่ลูกหลานของท่าน

"อยากทำงาน? แล้วบริษัทเขาจะไม่วุ่นวายกันเหรอ"

"คุณนายแม่ก็พูดไป หนูเรียนจบ ม. 6 ครึ่งเลยนะ"

"ม. 6 ครึ่ง? หมายความว่ายังไง"

"ตอนเรียนต่อ ปี 1 เรียนไม่จบก็เลยได้แค่วุฒิ ม. 6 ครึ่ง"

"ม. 6 ครึ่งไม่มีหรอก"

"ม. 6 ก็ได้ค่ะ อยากจะได้วุฒิ ม. 6 ครึ่งก็ไม่ได้ เรียนไปตั้งครึ่งเทอมแล้ว"

"ฮ่าาา ไอ้เด็กคนนี้"

เย็นวันเดียวกัน..

"อะไรนะครับแม่" เหนือตะวันถึงกับตกใจเมื่อได้ยินแม่พูดฝาก..

"ก็น้องอยากจะไปทำงาน วันนี้ว่าจะออกไปหางานทำแม่ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจะให้ไปทำงานกับพี่"

"น้อง? พี่?" แม่ของเขาเปลี่ยนไปมากเมื่อรู้จักกับจั๊กจั่น นางไม่เคยเป็นคนที่ใส่ใจใครแบบนี้มาก่อน..นอกจากพ่อและตัวเขาเอง

"ถ้าเราไม่ฝากให้ แม่เข้าไปฝากเองก็ได้"

"เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอกครับแม่ แต่จั๊กจั่นจะทำงานได้เหรอ" เขาเคยเห็นแต่เดินเตะดินเตะหญ้าไปวันๆ ได้เรื่องหน่อยก็คงจะทำนาเกี่ยวข้าว

"ก็ให้น้องทำอะไรที่คิดว่าจะทำได้ไง ดีกว่าไปหางานทำที่อื่น"

บนห้องนอน.. ขึ้นมาถึงเหนือนตะวันก็เล่าให้ภรรยาฟัง

"จริงเหรอ"

"จริงสิ"

พอได้ยินว่าจั๊กจั่นอยากไปทำงาน มิลานก็ไม่ได้ขัดขวาง ยังขอร้องให้สามีช่วย เพราะว่าถ้าไปทำงานคงจะลืมเรื่องร้ายๆ ได้

เช้าวันต่อมา..

"แล้วอย่าไปชวนคนอื่นคุยจนเขาเสียงานเสียการกันล่ะ"

"คุณนายแม่เห็นจั๊กจั่นเป็นคนยังไงคะ"

"ก็เป็นนกแก้วนกขุนทองไง ยังไม่รู้ตัวอีก" ประไพมาส่งจั๊กจั่นขึ้นรถให้ไปทำงานพร้อมกับเหนือตะวัน

ส่วนมิลานยังนอนไม่ตื่น เพราะตั้งแต่ได้กินยาบำรุงเลือด ก็รู้สึกว่าสนุกกับการนอนมาก

[บริษัทอสังหาฯ]

"พี่เหนือจะให้ฉันทำงานอะไรเหรอ"

"ยังไม่รู้เข้าไปด้วยกันก่อน" เขารู้ดีว่าจั๊กจั่นเรียนจบวุฒิการศึกษาไหน แต่วุฒิที่จั๊กจั่นมี คงทำงานที่นี่ได้แค่ตำแหน่งล่างๆ

ทั้งสองเดินเข้ามาด้านในพร้อมกัน..

"คุณเกม" พอเข้ามาเหนือตะวันก็เจอหัวหน้าแผนกที่ชื่อเกม

"ครับ"

"เจอตัวคุณพอดีเลย ผมฝากเธอไปทำงานด้วยหน่อยนะ"

"ฝากผมเหรอครับ"

"ใช่..แล้วแต่คุณจะให้ทำตำแหน่งไหนเลยแล้วกันนะ"

"สวัสดีค่ะ" พอเหนือตะวันไปแล้ว จั๊กจั่นก็ยกมือขึ้นไหว้

"เราทำอะไรได้บ้าง" เกมพาจั๊กจั่นขึ้นมาที่แผนกชั้นสาม เพราะเขาเป็นหัวหน้าแผนกนี้

"ทำได้หลายอย่างเลยค่ะ" จั๊กจั่นก็เริ่มบรรยายตั้งแต่ สิ่งที่เธอทำอยู่ที่บ้าน

"ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เธอเรียนจบอะไรมา แล้วถนัดงานด้านไหน"

สายตาของจั๊กจั่นเริ่มมองไปทั่วแผนก เพราะตอนนี้ทุกคนที่อยู่ในแผนกนั้นต่างก็มองมาที่เธอ

"ฉันทำอะไรก็ได้ค่ะ" เสียงหญิงสาวเริ่มพูดเบาลง เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำงานบริษัท ก็เลยไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกันบ้าง "ฉันทำไอ้นี่ก็ได้นะคะ หญิงสาวรีบเดินไปแย่งไม้กวาดจากแม่บ้านที่กำลังทำความสะอาดอยู่"

"เออ..คุณคะ" แม่บ้านตกใจ

แต่พนักงานในแผนกกลับขำ

"ถ้างั้นเธอก็ช่วยแม่บ้านไปก่อนแล้วกัน" เกมไม่รู้จะเอายังไงดี เพราะฟังจากสิ่งที่เธอพูดมา เหมือนบ้านนอกเข้ากรุงเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สยบรัก