สยบรัก นิยาย บท 74

"กูล่ะสงสารจั๊กจั่นมัน มึงก็ไม่น่าไปทำน้องแต่ทีแรกเลย" สาครคือเพื่อนหมู่บ้านเดียวกัน แถมบ้านอยู่ใกล้จั๊กจั่น ถูกแม่ทำโทษทีไรสาครก็ได้ยิน แต่จะไปช่วยก็ไม่ได้ เพราะนั่นมันเป็นเรื่องในครอบครัวของเขา

"ถ้ามึงจะมาพูดเรื่องนี้อย่ามาหากูเลยดีกว่าไอ้คร"

"แล้วนี่มึงจะอยู่บ้านอีกนานไหม กูเห็นไปกรุงเทพฯ บ่อยกว่าไปนาซะอีก"

"ไปไม่ไปมันก็เรื่องของกู ไปหาเหล้ามาแดกดีกว่าว่ะ"

"นี่ยังหัววันอยู่เลย มึงอยากจะแดกอะไรนักหนา"

"กูไม่ให้มึงออกเงินช่วยหรอกน่า เงินกูมีเยอะแยะ" ทำไมเสกสรรจะไม่รู้สึกผิด เพราะเห็นตามเนื้อตัวที่เขียวช้ำของจั๊กจั่นแล้ว รู้ดีว่ามันคือผลงานของตัวเอง เขาถึงไม่ให้แม่ต่อรองราคาลงมากกว่านั้น

ในขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งกินเหล้าอยู่นั้น ตั๊กแตนก็ได้เดินเข้ามา

"พี่สาครก็อยู่นี่เหรอ"

"มีอะไรวะ อย่าบอกว่ามาตามหาจั๊กจั่นอีกแล้ว"

"ก็ใช่น่ะสิ.. ทำเรื่องให้ฉันปวดหัวได้ทุกวี่ทุกวัน ถ้าไม่ใช่น้องนุ่งนะ ฉันไม่สนใจหรอก" พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น นั่นแหละคือความถนัดของตั๊กแตนเลย

"คงจะลงไปเล่นปลายนากับป้าวรรณีมั้ง" คนที่พูดก็คือเสกสรร

"ฉันไปที่นั่นมาแล้ว"

"ถ้าไม่อยู่ที่นั่น ก็คงไปเล่นบ้านเพื่อนนั่นแหละจะตามหาทำไม"

"ถูกน้าอัมพรตีอีก"

"ตีอีกแล้วเหรอ" เสกสรรยังคงถามต่อ เพราะเรื่องน่าจะจบได้แล้ว เงินก็จ่ายไปแล้ว

"มันอยากปากดีทำไม แค่น้าพรเอามาเทียบกับฉันเฉยๆ" ที่จริงตั๊กแตนก็ได้ยินเพราะบ้านอยู่ใกล้กัน และก็แอบสะใจอยู่บ้าง ที่ถูกเอาไปเปรียบเทียบในทางที่ว่าตัวเองดีกว่า

22 : 09 น.

วงเหล้าของเสกสรรเริ่มมีเพื่อนมานั่งร่วมวงอีกหลายคน ไม่ใช่ว่าพ่อกับแม่จะไม่เอือมระอา แต่พูดมากก็ไม่ได้ เพราะมีลูกชายคนเดียว

"เห็นจั๊กจั่นมาทางนี้ไหม" มันคือเสียงของอัมพรแม่ของจั๊กจั่นที่มาตามหาลูก

"ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอน้า" สาครถามขึ้น เพราะเห็นว่าตั๊กแตนมาถามหาครั้งหนึ่งแล้ว

"ยังเลย" ที่อัมพรมาตามก็เพราะลงโทษลูกหนักเกินไป แถมใช้คำพูดที่รุนแรง สิ่งที่กลัวที่สุดก็คือกลัวลูกคิดสั้น

"กูว่าคงไปนอนกับผู้ชายคนไหนสักคนในหมู่บ้านแน่" หนึ่งในกลุ่มนั้นเอ่ยพูดขึ้นเพราะความเมา แต่ก็มีความคิดนั้นอยู่ในหัวบ้าง ขนาดกับเสกสรรยังยอมให้เลย

ตุ๊บ! เท้าเสกสรรลอยไปโดยไม่บอกกล่าว จนคนที่พูดหงายหลังลงไป

"มึงถีบกูทำไมวะไอ้เสก"

"มึงปากหมาทำไมล่ะ!"

"ก็ในเมื่อมึงไม่เอาแล้วทำไมมึงยังหวงก้างอยู่วะ!"

เริ่มมีการวางมวยในวงเหล้า เสกสรรจับขวดเหล้าขึ้นมาแล้วก็ฟาดลงที่หัวของคนที่พูดปากไม่ดี ..จนหลายคนต้องรีบเข้ามาเป็นกรรมการ และนำคนที่หัวแตกไปส่งโรงพยาบาล

เช้าวันต่อมา..

"กูจะเอายังไงกับมึงดีไอ้เสก วันก่อนเสียเงินเพราะผู้หญิง วันนี้เสียเงินเพราะมีเรื่องกับเพื่อนในวงเหล้า" พ่อกับแม่ได้แต่นั่งดมยา เพราะถูกเรียกค่าทำขวัญไปเยอะเลย

เสกสรรก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงทนไม่ได้ เขาว่าให้จั๊กจั่นได้ แต่พอได้ยินคนอื่นว่าให้บ้าง อารมณ์ขึ้นทุกที

ตัดมาที่จั๊กจั่นบ้าง.. เธอออกจากหมู่บ้านมา ด้วยเสื้อผ้าชุดที่ใส่ติดตัว เดินมาโบกรถขอติดเข้าไปในตัวเมือง

เธอต้องเดินออกมาไกลหมู่บ้านมาก เพราะถ้ายืนโบกอยู่แถวนั้น เดี๋ยวคนในหมู่บ้านเห็นก็เอาไปพูดกันอีก

กว่าจะมีรถกล้าจอดรับ ก็ยืนโบกอยู่แบบนั้นเป็นนานสองนาน เพราะรถส่วนมากกลัวว่าจะเป็นนางนกต่อก็เลยไม่กล้าจอดรับ

เงินติดตัวมาก็ไม่มาก แต่คงพอไปถึงกรุงเทพฯได้ ..ใช่แล้วเธอจะหนีเข้ากรุงเทพฯ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปหาพวกเขาไหม เพราะไม่อยากจะให้ใครเป็นทุกข์ใจไปกับเธอด้วย

หญิงสาวนั่งรถทัวร์อยู่แบบนั้นนับ 10 ชั่วโมง ก็ได้มาถึงจุดหมายปลายทาง

"จะไปไหนเหรอน้องสาว" รถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก รถมอเตอร์ไซค์วิน หรือรถสาธารณะที่รอรับผู้โดยสารอยู่แถวนั้นต่างก็ถาม

แต่เธอก็ไม่ยอมขึ้นรถ หญิงสาวเดินออกมาด้านหน้า แล้วเดินไปเรื่อยๆ ..นี่เราจะเป็นคนเร่ร่อนใช่ไหม แต่มันก็สนุกไปอีกแบบ เพราะไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้ว

คนตัวเล็กที่เนื้อตัวมอมแมม ยืนอยู่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยว มองเข้าไปในร้าน แล้วลอบกลืนน้ำลาย

"ซื้อก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่งค่ะ" จากที่ยืนมองอยู่ครู่หนึ่งเธอก็ตัดสินใจซื้อ

แต่ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือเงืนอยู่ 40 บาท ถ้ากินที่บ้านก็คงจะ 30 บาท เธอไม่รู้ว่าที่นี่เขาจะขายเท่าไร แพงสุดก็คงจะเท่าที่มีอยู่นั่นแหละ

หญิงสาวนั่งทานอยู่แบบนั้นจนไม่เหลือแม้แต่น้ำ

"เท่าไรคะ"

"50 บาท"

"50 บาทเลยเหรอ??"

"อย่าบอกนะว่าไม่มีเงิน"

"มีค่ะ..เออ..แต่ไม่พอ"

"ฉันเห็นมาหลายรายแล้วแบบนี้!" แม่ค้าเดินมาเก็บชามทำแบบไม่พอใจ แล้วคว้าเอาเงิน 40 บาท ในมือของเธอมา เพราะดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

จั๊กจั่นรู้สึกผิด แต่จะทำยังไงได้ก็ท้องมันหิว เงินที่มีอยู่ก็หมดไปแล้ว มื้อต่อไปจะทำยังไง แต่ก่อนที่จะคิดถึงมื้อต่อไป ..คืนนี้เราจะนอนที่ไหนดี เพราะตอนนี้ก็เริ่มจะมืดแล้ว

หญิงสาวเดินมาเรื่อยๆ ก็มาถึงหน้าห้างสรรพสินค้า นอนที่นี่ก็คงจะได้ คนเยอะขนาดนี้คงไม่อันตรายหรอกมั้ง ..หน้าห้างมีโต๊ะยาวที่ไว้สำหรับคนนั่งพักผ่อน

ด้วยความเหนื่อยล้าเธอแค่เอนตัวลงแล้วก็หลับไป.. ใครเดินผ่านไปมาต่างก็มอง แต่ก็ไม่มีคนสนใจ

"เบื่อคนเร่ร่อน อุตส่าห์ว่าจะมาเซลฟี่สวยๆ สักหน่อย"

"เราก็สร้างภาพไปเลยสิ ยังไงก็เป็นเน็ตไอดอลอยู่แล้ว" เสียงของผู้หญิงสองคนกำลังพูดกัน ในขณะที่มีผู้หญิงอีกคนนอนอยู่ตรงนั้น

"จริงด้วยไอเดียเจ๋งเราก็ทำคอนเท้นแบบว่า.." ทั้งสองก็เลยจับกล้องขึ้นมา แล้วพูดบรรยายไปหลายเรื่อง ประโยคคำพูด ก็มีแต่แนวทางที่สงสารคนเร่ร่อนไม่มีบ้านจะอยู่

"ฉันคงจะคิดถึงยัยนกแก้วนกขุนทองมากเลยนะ"

"ทำไมคะคุณผู้หญิง"

"ก็ดูสิเห็นคนเร่ร่อนนอนอยู่ตรงนั้น มองว่าคล้ายกับยัยนกแก้วนกขุนทองไปได้ยังไง" วันนี้ประไพนึกเหงาก็เลยเอาโทรศัพท์มาเขี่ยเล่น ..จังหวะนั้นเห็นไลฟ์สดของพวกเน็ตไอดอล ก็เลยกดเข้าไปดูเพื่อฆ่าเวลา

"อิฉันก็สายตาไม่ค่อยดี แต่ก็คล้ายอยู่นะคะคุณผู้หญิง"

"ป้าก็เห็นคล้ายเหมือนฉันอยู่ใช่ไหม" จบประโยคเท่านั้นแหละประไพก็รีบลุกขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สยบรัก