ตำนานฉือฮั่ว นิยาย บท 6

พี่น้องทั้งสามเมื่อถึงเรือนอนุป๋ายแล้ว สาวใช้คุณหนูใหญ่ตะโกนเรียกคนในเรือนให้ออกมาต้อนรับ และสาวใช้คนสนิทของอนุป๋ายออกมา ดูผู้มาใหม่

“ข้าคารวะคุณหนูทั้งหลายเจ้าคะ” เสี่ยวชุ่ยเมื่อเห็นผู้มาใหม่เท่านั้นรู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าคุณหนูทั้งสามจะมาที่เรือนได้ เพราะปกติคุณหนูไม่ค่อยได้ย่างกายเข้ามาท้ายจวนอย่างนี้ นับว่าเป็นภาพหาดูได้ยากยิ่งสำหรับนางและไม่ชินเสียเลยที่ต้องออกมาต้อนรับคุณหนูกลุ่มนี้

“ตามสบายเถอะ เสี่ยวชุ่ย” คุณหนูใหญ่โบกมือ ประหนึ่งว่าไม่ต้องมากพิธีรีตรองอันใดให้มากความ

"ตอนนี้น้องหกเป็นเช่นไรบ้าง ท่านย่า และ ท่านแม่ให้ข้านำของบำรุงร่างกายมาเยี่ยมแทน" นางเอ่ยเข้าเรื่องทันทีและชะเง้อคอมองเข้าไปภายในตัวเรือนนอน

“เรียนคุณหนูใหญ่ตอนนี้คุณหนูหกดีขึ้นแล้วเจ้าคะ” บ่าวอย่างเสี่ยวชุ่ยตอบนายของเรือนใหญ่ทันที

“ใครมารึ เสี่ยวชุ่ย” เสียงของอนุป๋ายดังออกมาก่อนเจ้าตัวถึงเดินออกมา ร่างที่อุ้ยอ้ายเดินออกมาและทันทีได้พบกับคุณหนูของเรือนใหญ่ ใจของนางนั้นอยู่ไม่เป็นสุขเสียเหลือเกิน มิรู้ว่าคุณหนูทั้งหลายมาด้วยเรื่องใดกากมาเยี่ยมเยียนลูกสาวของนางนางเห็นเป็นดีใจ แต่หากว่าพวกนางเข้ามาเยาะเย้ยถากถางนางจะปกป้องลูกน้อยของนางอย่างไรไม่กระทบต่อนายท่าน ในสมองของป๋ายอี๋เหนียงตีกันพันกันยุ่งไปหมดแต่ด้วยความที่ตนเป็นเจ้าของเรือนท้ายจวนแห่งนี้จะตอบปฏิเสธเลยก็ใช่ที่

“อ้าวคุณหนูทั้งหลาย ป๋ายอี๋เหนียงคารวะเจ้าคะ” จากนั้นหันไปดุว่ากล่าวสาวใช้ของตัวเองทันที

“ทำไมเจ้าให้คุณหนูยืนอยู่หน้าเรือนเยี่ยงนี้ ข้าน้อยขออภัยคนของข้าด้วยที่เสียมารยาท ขอคุณหนูทั้งสามโปรดอภัย เชิญในเรือนก่อนก่อนเจ้าคะ เสี่ยวชุ่ย เจ้าไปเชิญคุณหนูหกของเจ้ามาพบคุณหนูทั้งหลายเถอะ”

และทั้งหมดเข้าเรือนท้ายจวนที่เล็กแห่งนี้ ที่ภายในช่างเล็กและแคบมาก แต่สามารถจัดสรรและทำความสะอาดเป็นอย่างดีต้อนรับผู้มาเยือน

“ท่านแม่และท่านย่าให้ข้านำของบำรุงมาเยี่ยมเยียนน้องหก เจ้าคะป๋ายอี๋เหนียง” นี่คือเสียงของคุณหนูใหญ่ที่เปล่งเสียงออกมาบอกกล่าวการมาถึงของนางในวันนี้ให้อีกฝ่ายทราบ

“ข้าน้อยป๋ายอี๋เหนียงต้องฝากคำขอบคุณไปยังทั้งสองด้วยเจ้าคะ ที่นึกถึงคุณหนูหก” อนุป๋ายตอบพร้อมรอยยิ้มที่ส่งให้คุณหนูใหญ่ นางโล่งในที่ยังมีคนนึกถึงและสนใจบุตรสาวอ่อนแอผู้นี้ของตนนัก น้ำตาปริ่มๆขอบตา นางไม่สนใขใช้ผ้าเช็ดหน้ากลางเก่ากลางใหม่ยกขึ้นมาซับน้ำตาทันทีอย่างไม่ใส่ใจ

“ข้าจะแจ้งให้ท่านย่าและท่านแม่ทั้งสองให้ทราบทราบความนี้แก่พวกนางเจ้าค่ะ เอ๋ ! นั่นของเยี่ยมผู้ใดรึ ! เหตุใดถึง! ” คุณหนูใหญ่เอ่ยทักเพราะสายตาเห็นของที่วางอยู่แต่ดูท่าของเหล่านั้นไม่ใช่ของดีแถมสภาพจวนเจียนใช้ไม่ได้ด้วย เลิกคิ้วอย่างสงสัยพร้อมเอ่ยถาม เป็นของที่สามารถเยี่ยมผู้ป่วยได้อย่างงั้นหรือ หรือว่าป๋ายอี๋เหนียงไม่ใช้ของเหล่านี้แต่กลับปล่อยให้เสียหายเยี่ยงนี้ ความสงสัยเกิดขึ้นมาอีกครั้งภายในใจ

ด้วยท่าทางไม่อยากตอบของเจ้าของเรือนและสาวใช้ ทำให้คุณหนูใหญ่รับรู้โดยทันทีว่าเป็นของจากผู้ใด หันหน้ามองหน้าน้องสี่ของตนพร้อมยกยิ้มมุมปาก คงเป็นของเยี่ยมของคนผู้นั้นเป็นแน่อาการของป๋ายอี๋เหนียงที่ไม่พูดจาปิดปากเงียบเช่นนี้นางเดาได้ไม่ยาก นางผินหน้ามองน้องสาวทันทีก่อนที่จะเอ่ยคำถามออกไป

“หึ ! หลีอี๋เหนียงแม่น้องสี่นี่กะไรกัน เอาของใกล้เสียเช่นนี้มาเยี่ยมเยียนคนป่วย ช่างเป็นคนที่ท่านพ่อ ไว้ใจให้ดูแลเรือนหลังนี่ได้เช่นนี้ ข้าละอายแทนยิ่งนัก” จากนั้นคุณหนูใหญ่นั่งลงที่เก้าอี้พร้อมทั้งปักมือที่จับดูของเมื่อสักครู่ ทั้งกลิ่นที่กำลังจะเสียทานไม่ได้อยู่แล้วยังกล้าเอามาส่งเยี่ยมคนป่วยเยี่ยงนี้ช่างน่าขันนักบิดาของนางเอาอะไรให้นางได้ชูคอเยี่ยงนี้เล่า

“ท่านพ่อคงดีใจเป็นอย่างมากที่อนุหลีดูแลเรือนได้ดีถึงเพียงนี้ ข้านั้นเห็นเป็นบุญตายิ่งนัก” นางตอบกลับไปกึ่งชื่นชมกึ่งเหน็บแนมใส่ ทั้งน้ำเสียงและคำพูดออกจะไปทางเหน็บแนมเสียงมากกว่าคำชื่นชมอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานฉือฮั่ว