ตำนานฉือฮั่ว นิยาย บท 21

“นี่อะไรหรือหลาน”  สาวใช้ของฉือฮั่วส่งของที่อยู่ในโถในมือนั้นให้กับเฒ่าฮูหยิน หญิงชราเปิดฝาแล้วดมของในนั้น กลิ่นที่โชยออกมามันคือดอกเหมยกุ้ย แต่รูปทรงมันแปลกๆชอบกล เลิกคิ้วขึ้นมองของสิ่งนั้นที่อยู่ในมือและด้วยความแปลกในสงสัยอะไรที่หลานสาวผู้นี้เอามาให้นาง

 

“นี่คือสบู่เจ้าค่ะ (หันไปให้บอกหลันฮวาไปเอาน้ำและผ้าเช็ดมือ)ข้าจะสาธิตให้ท่านย่า ท่านแม่ และพี่ๆทั้งหลายชมนะเจ้าคะ อ้อข้าขอไปในครัวได้หรือไม่เจ้าค่ะท่านย่า”  ขออนุญาตทันทีและเมื่อย่าพยักหน้าแล้วร่างของฉือฮั่วตรงไปยังครัว มองหม้อจากนั้นเอามือป้ายไปที่หม้อหลังจากนั้นเดินกลับเข้าเรือนไป เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย

 

            นางเอาสบู่ของตัวเองออกมาหลังจากแกะแล้วก่อนออกมา จากนั้นให้สาวใช้อย่างหลันฮวาเอาน้ำพรมสบู่เพื่อให้เปียกชื้นหน่อยๆ และนางนำสบู่นั้นล้างคราบสกปรกที่นางทำมันขึ้นมาเองจากนั้นเอามือล้างน้ำอีกครั้ง ซับให้แห้ง และเอามือของตัวเองให้ย่าสัมผัสดู การกระทำทั้งหมดอยู่ภายในสายตาของทุกคน ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่เรียกว่าสบู่สามารถขจัดสิ่งของสกปรกได้จริงๆอย่างกับตาเห็น

 

“เป็นไงบ้างค่ะท่านย่า ท่านแม่ใหญ่ สบู่นี้สามารถล้างคราบสกปรกทุกอย่างได้จริงๆและยังมีกลิ่นหอมอีกด้วยนะเจ้าคะ นี่เป็นตัวอย่างสินค้าที่ข้านั้นคิดทำขายท่านย่าเห็นเป็นเช่นไรเจ้าค่ะ”  มองหน้าท่านย่าและฮูหยินใหญ่ หลังที่นางสอบถามความคิดเห็น และจู่ๆก็มีเสียงดังขัดขึ้นมาข้างๆตัวนาง

 

“น้องหก น้องไม่มีไอ้สิ่งนั้นให้พี่หรือ ทำไมพี่ไม่ได้ ทั้งพี่รองและพี่สามเองก็ไม่ได้เช่นกัน” ด้วยน้ำเสียงฉึดฮัดไม่พอใจและอิจฉาของพี่สี่ดังขัดขึ้น ทั้งยังหาพรรคพวกอีก

 

“พี่สี่ ถ้าข้าให้ท่าน ด้วยนิสัยของท่านท่านคงทิ้งของที่ข้าให้ไปตั้งแต่กลับถึงเรือน ข้าถึงไม่คิดเอาให้พี่สี่ ส่วนพี่รองและพี่สามพวกเขาเป็นผู้ชาย จะมาใช้กลิ่นของผู้หญิงเยี่ยงนี้ได้ยังไงกัน ข้าไม่อยากให้คนอื่นๆมองพี่ชายของข้าว่าเป็นบุรุษนิยมตัดแขนเสื้อตัวเองหรอกนะ” นางกล่าวพร้อมกับยกยิ้มมุมปากโค้งขึ้นเพื่อส่งรอยยิ้มนั้นให้พี่สาวผู้นี้ของนาง

 

“ไม่รู้ข้าอยากได้ เจ้าต้องเอามาให้ข้า”  ท่าทีของจิ่วหลินดูเอาแต่ใจและอยากได้ของผู้อื่น และคนอย่างนางทำให้ฮูหยินใหญ่ต้องเอ่ยปากเพื่อบอกฉือฮั่วให้นำสบู่เอามาให้พี่สาวของนางด้วยเพื่อตัดปัญหา ถึงแม้จะไม่ชอบใจในการกระทำแต่ด้วยความที่นางเป็นแม่ใหญ่นางถึงต้องทำเช่นนี้

 

“น้องหก เจ้าใช้สิ่งนี้จริงๆหรือ แสดงว่ากลิ่นที่ได้จากใบหน้าของเจ้าคือสิ่งนี้งั้นสินะ ข้าขอบใจเจ้ามากแล้วของจากสิ่งนี้มันช่วยล้างสิ่งสกปรกแล้วมันช่วยเรื่องใดบ้างพี่อยากรู้ น้องหกของพี่ห้าเจ้าช่างเก่งจริงๆ”

 

“พี่ห้า...ข้าดีใจที่ท่านชอบ สบู่นี่มีสวนผสมของสารสกัดหอมระเหยจากดอกเหมยกุ้ย [กุหลาบ] น้ำมันทานตะวันและของที่ข้าทำขึ้นมา มันถึงจะกลายเป็นสิ่งนี้ ส่วนผสมของกุหลาบช่วยเรื่องริ้วรอยให้ผิวกระชับ อีกทั้งชุ่มชื่นด้วยจากนำ้มันทานตะวันเจ้าค่ะ” ฉือฮั่วบอกสรรพคุณของสบู่ทันที

 

“โอ้วช่างดีเหลือเกิน พี่ใหญ่ขอบคุณเจ้าที่มอบสิ่งนี้ให้พี่นะน้องหก”  พี่ใหญ่กล่าวขอบคุณ 

 

“พี่ใหญ่ พี่ใกล้จะออกเรือนแล้ว วันนี้ข้าจะสกัดน้ำมันหอมระเหยเพิ่ม ข้าจะส่งน้ำมันไปให้ม่านที่เรือนนะเจ้าค่ะ แต่มันได้น้อยยิ่งนักเพราะเข้มข้นมาก ท่านเอาไว้ใช้ทาใบหน้าและคอก็พอเจ้าค่ะ เพื่อบำรุงผิวหน้าของท่านให้ชุ่มชื่นนิ่มนวนและเพื่อความกระจ่างใสของใบหน้าท่านรับรองได้ผลเจ้าค่ะ ข้าทำให้ท่านเจ้าคะ และข้าเองนั้นหวังว่าท่านจะชอบ”

 

“หืม…!!น้ำมันพวกนั้นมันใช้ได้ด้วยหรือ ได้ถ้าเจ้าส่งมาข้าจะเป็นผู้ทดลองให้เจ้าเอง”  พี่ใหญ่สำทับอีกคำพร้อมส่งยิ้มพยักใบหน้าของตัวเองที่ชื่นชมผลงานของน้องสาวผู้นี้ยิ่งนัก แค่สบู่ที่ฉือฮั่วนางนำมาให้สร้างความตะลึงให้แก่นางด้วยแล้ว อีกอย่างไม่ต้องเสียเงินตำลึงเพื่อซื้อมา และฉือฮั่วจะนำของสินค้าพวกนี้จำหน่ายนางคิดว่าสินค้าต้องดีมากแน่ๆ

 

“ย่าดีใจที่พวกเจ้าพี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกันเช่นนี้ เอาล่ะ!! พวกเจ้าแยกย้ายกลับเรือนไปได้แล้ว เจ้าหกหลานอยู่ที่นี่ก่อนนะ”  เมื่อย่าเอ่ยขึ้นมานางถึงนั่งอยู่ที่เดิม รอว่าท่านย่าจะเอ่ยเรื่องอะไรกับตนเอง

 

               เมื่อทุกคนกลับไปหมดแล้ว ท่านย่าถามหลานสาวว่าเรื่องพวกนี้หลานรู้ได้เองหรือยังไง ทั้งที่ผ่านมาหลานไม่เคยได้ออกไปไหน และยิ่งฟื้นจากการป่วยอีก มันน่าสงสัย ท่านย่าเลยอยากถามถึงเรื่องพวกนี้

 

“เรียนท่านย่า ข้าได้อ่านหนังสือมาเจ้าค่ะ และเป็นเพราะตอนนั้นที่เรือนหาได้มีเงินแต่อย่างใด ข้าเองอยากช่วยท่านแม่แบ่งเบาค่าใช้จ่ายเพราะท่านแม่เหลือสินเดิมไม่เท่าไหร่ ข้าเป็นลูกถึงได้ทำใจกล้าเช่นนี้เจ้าค่ะ”

 

“อ้อเรื่องที่แม่เจ้าใช้สินเดิม ข้าจะเรียกแม่เจ้ามาคุยกันอีกที เอาล่ะย่ารับรู้เรื่องเหล่านี้แล้วเจ้าไปพักเถอะ อย่าหักโหมให้มาก เข้าใจที่ข้าพูดใช่ไหม”

 

“หลานจดจำแล้วเจ้าค่ะ”  เมื่อคารวะลากลับเรียบร้อย ฉือฮั่วตรงไปยังเรือนของตัวเองอีก และคิดว่าจะเอาถ่านมาทำเป็นสบู่สำหรับผู้ชาย 

 

              อันดับแรกต้องทำแม่พิมพ์เสียก่อน มองหาบ่าวชายที่ว่างงาน อืม… คงไม่ได้เรื่องเป็นแน่นางถึงได้เดินไปหาพ่อบ้าน อยากให้พ่อบ้านหาบ่าวไพร่ชายช่วยตัดไม้ไผ่ และทำแบบหล่อแม่พิมพ์ เรียกให้หลันฮวาเอากระดาษและน้ำหมึก มาวาดแบบพิมพ์ให้บ่าวชายทำตามแบบพิมพ์ที่วาดไว้ จากนั้นนั่งรอ และตรวจงานดูว่าบ่าวได้ทำถูกหรือไม่ และเมื่อได้แบบที่ถูกใจ เอาแบบพิมพ์กลับไปด้วยเป็นอันที่เสร็จแล้ว

 

               เช่นเดิมแต่ที่ทำใหม่คือเอาสบู่ที่ทำเสร็จแล้วลงหม้อ เพื่อตุ๋นทำสบู่ลงแม่พิมพ์ใหม่ มีดีอย่างหนึ่งคือไม่ต้องทำเอง พวกบ่าวไพร่เป็นคนทำแทนทั้งหมดนางเป็นเพียงมีหน้าที่แค่สั่งสาวใช้ให้ทำอะไรบ้าง หุหุ ดีเหลือเกิน จากนั้นตนเองว่าอยู่คิดว่าต้องทำสบู่วัสดุที่มีคือถ่าน ไว้ใช้สำหรับผู้ชาย สบู่น้ำผึ้ง สบู่จมูกข้าวน้ำนม  เมื่อของที่เตรียมเรียบร้อยแล้ว นางถึงสั่งให้พวกบ่าวไพร่มาช่วยทำ และได้จ่ายค่าแรงให้ด้วย แต่พวกบ่าวไม่ยินดีที่จะรับ นางถึงได้บอกว่าหากไม่รับนางต้องไปจ้างคนอื่นหรือไปซื้อคนอื่นมาทำงานพวกนี้แทน ซึ่งพวกบ่าวที่ตอนแรกปฏิเสธแบบหัวชนฝา ตอนนี้กลับยอมรับเงินค่าจ้าง ซึ้งนางได้ให้ไม่เยอะ แค่เงินครึ่งพวงเท่านั้นเอง 

 

               และรอสบู่จับตัวเป็นก้อนนานถึงสองวันเต็มๆนางยิ้มดีใจอย่างมาก หากคิดจะทำเป็นโรงงานเองสงสัยคงต้องคุยเรื่องนี้กับท่านพ่อ หากทำในจวนอยู่แบบนี้บ่าวไพร่ในเรือนยังต้องมีหน้าที่ของตัวเองอยู่จะให้นางใช้งานได้ตลอดเวลาคงได้ผิดใจกับฮูหยินใหญ่เป็นแน่ ระหว่างรอท่านพ่อกลับบ้าน นางชวนพี่เสี่ยวชุ่ยและหลันฮวาไปดูร้านของตัวเอง ช่างได้ทำการตกแต่งไปถึงขั้นไหนแล้ว และผลิตภัณฑ์ของตัวเองมีแค่สบู่อย่างเดียว 

 

“พี่เสี่ยวชุ่ยข้าต้องการ เยียจึ [มะพร้าว] เอาไว้จะทำน้ำมันมะพร้าวเย็นน่ะ มันคือส่วนผสมหลังของการทำชาดทาปาก” นางบองสิ่งที่นางต้องการให้สาวใช้คนสนิทฟังทันทีในสิ่งที่นางนั้นอยากได้

 

“ต้องไปพวกร้านที่เขาขายเหล่าต้นไม้เจ้าค่ะ ที่นั่นอาจมีเยียจึก็เป็นได้ เช่นนั้นเราลองไปกันไหมเจ้าค่ะคุณหนู” สาวใช้คนสนิทกล่าวขึ้นและถามความคิดเห็นจากคุณหนู และคุณหนูหกของนางไม่พูดแต่พยักหน้า

           

                 ที่นางคิดจะทำคือใช้เพียงนิ้วของตัวเองนอกจากจะหามะพร้าว สกัดออกมาเป็นน้ำมันมะพร้าวเอาไว้ผสมกับไขมันผึ้งที่ทำไว้ ผสมกันจะกลายเป็นชาดทาปากเอาไว้บำรุงริมฝีปาก และถ้าเราเอาสีจากพวกดอกไม้ผสมลงไปทำให้เกิดลิปสติกอย่างที่ชาติที่แล้วของนางใช้กันใช้ง่ายเกลี่ยง่าย แต่ที่นี่ถ้าหากนางทำอย่างชาดทาปากแล้วล่ะเสียเวลาตายชักไม่เอาด้วยหรอก

 

                   เอาวิธีที่ข้าสะดวกแล้วกันไม่ว่าใครอย่าได้ขวางการทำมาหากินของนางเมื่อพี่เสี่ยวชุ่ยพาคุณหนูของตนเองมาถึงร้านต้นไม้ จึงได้เอ่ยถามกับเถ้าแกว่ามีเยียจึไหม คุณหนูข้าอยากได้ เมื่อคุยกันสักพัก ฉือฮั่วไม่ได้สนใจว่าสาวใช้ของตนจะพูดคุยอย่างไรกับเถ้าแก่ นางสนใจพวกดอกไม้พวกนี้ต่างหาก (ถ้าหากดอกไม้ที่เรือนหมดแล้วนางจะหาดอกไม้พวกนี้ที่ไหน) ต้องถามหาวัตถุดิบตั้งแต่เนิ่นๆ นางรำพึงรำพันในใจคิดในสิ่งที่นางห่วงเรื่องอนาคตดอกไม้จะขาดตลาด นางจะหาของเหล่านั้นมาเป็นวัตถุดิบชั้นยอดของนางได้ยังไง

              เถ้าแก่นำทางให้พี่เสี่ยวชุ่ยเข้าไปดูมะพร้าวที่ร้านของตนเองมี มันเป็นสีน้ำตาลพี่เสี่ยวชุ่ยเกาหัวของตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าที่คุณหนูอยาดได้คือแบบไหน นางบอกเถ้าแก่ให้รอสักครู่นางขอตัวไปตามคุณหนูของนางมาดูเองดีกว่า ถ้าให้นางตัดสินใจเกรงว่าจะโดนว่าแทน

 

“คุณหนูเจ้าค่ะ คือบ่าวไม่รู้ว่าจะใช่อย่างที่คุณหนูต้องการหรือไม่ บ่าวรบกวนคุณหนูดูเองดีกว่าเจ้าค่ะ”  คุณหนูไม่พูดแต่พยักหน้าและนางเดินนำไปยังที่เถ้าแก่รออยู่ เมื่อถึงที่ คุณหนูของนางเดินถลาเข้าหากองมะพร้าวนั้นพร้อมส่งรอยยิ้มถึงไหนต่อไหนไม่รู้จนโดนบ่าวอย่างพี่เสี่ยวชุ่ยบ่นเอ่ยเตือนเรื่องกิริยาไม่งามอย่างนี้ เป็นภาพน่าเอ็นดูมากสำหรับเถ้าแก่

 

“เถ้าแก่ท่านขายให้ข้าได้ไหม ทั้งหมด ข้าจะเอาทั้งหมด”  เงยหน้าบอกเถ้าแก่ร้านจนตัวเถ้าแก่คิดว่าตัวเองฟังผิดไป 

 

"ห๊า…ไอ้หยา !! คุณหนูจะเหมาหมดจริงๆรึขอรับ มันแก่แล้วและ และ มันไม่มีใครเอาไปใช้นะขอรับ นี่ข้าได้ยินไม่ผิดใช่หรือไม่ 

 

“ท่านได้ยินถูกแล้ว ข้าต้องการทั้งหมด และหากท่านมีอีก ช่วยเก็บไว้ให้ข้าด้วย แล้วนี่ท่านขายให้ข้าได้เท่าไหร่รึ”

 

“ได้ขอรับ ได้ ข้าจะรีบคิดเงินให้คุณหนู ข้าทั้งหมดหนึ่งตำลึงเงินพอขอรับ”

 

              เถ้าแก่บอกราคามา มันถูกมาก คงเพราะมันแก่แล้วและไม่มีใครรู้ว่ามะพร้าวแก่เอาไปใช้งานได้ และนางเองรู้สึกดีมาก ที่ได้จ่ายในราคาถูกเช่นนี้ แต่สาวใช้ของนางเองสะกิดแล้วสะกิดอีก ไม่อยากให้คุณหนูของตนเองจ่ายเงินเช่นนี้ แต่มีหรือนางนั้นกลับเอ่ยบอกให้เถ้าแก่นำมะพร้าวไปส่งให้ด้วยไดไหม จ่ายเงินไปสำหรับค่าส่งยี่สิบอีแปะ น่าจะหลายเที่ยวอยู่ต้องให้ค่าน้ำร้อนน้ำชาคนส่งบ้าง สำทับอีกเรื่องหากอยากได้อีกจะใช้บ่าวที่เรือนมาแจ้ง เถ้าแก่ยินดีอย่างมาก เพราะตนเองกลุ้มใจในเรื่องนี้อยู่เช่นกัน ไม่มีคนต้องการมะพร้าวแก่เช่นนี้ ตัวเถ้าแก่เองกลัวขาดทุนถึงได้ขายให้คุณหนูหกเกือบเท่าราคาทุน แต่หากได้คุณหนูเป็นลูกค้าและซื้อขายกันดีตลอดจะเป็นคู้ค้าพึ่งพากันได้อีก

 

               เมื่อออกจากร้านคุณหนูบอกให้พี่เสี่ยวชุ่ยไปร้านเหล็ก เพื่อทำที่ขูดมะพร้าวจำได้ว่าดูสารคดีเมืองไทยนั้นชาวบ้านเขาเอามันมาทำเพื่อขูดมะพร้าว มันจะสนุกแค่ไหนนะ เพราะได้ดูแต่ในโทรทัศน์เท่านั้น 

 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานฉือฮั่ว