หลังจากร่างของหลิ่วหมิงผสานเข้ากับมังกรหมอกสีดำ กลุ่มปราณดำพลุ่งพล่านพลันทะยานฝ่าฝูงแมลงรวดเดียวถึงสามฝูงจนดึงความสนใจของแมลงยักษ์สองหัวตัวหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลในที่สุด!
มันร้องคำรามแล้วพาปราณสีเทากลุ่มหนาเหาะเข้ามาหาหลิ่วหมิง
หลิ่วหมิงหวาดหวั่นอยู่ในใจ
ลมปราณของแมลงตัวนี้ไม่อ่อนแอ แรงกดดันใกล้เคียงกับระดับดาราพยากรณ์ขั้นกลาง หัวทั้งสองอ้าปากพ่นน้ำพิษก้อนแล้วก้อนเล่าสาดเข้าใส่หลิ่วหมิง พิษรุนแรงอย่างยิ่ง
เขาเลิกคิ้วพลางสะบัดแขนเสื้อ แสงสีเหลืองเส้นหนึ่งพุ่งออกมา มุกบรรพตธาราหกเม็ดถูกเขาเรียกออกมาพร้อมกัน เสียงครวญทุ้มต่ำดังตามออกมาทันที!
ยอดเขาสีเหลืองขนาดหลายสิบจั้งลูกหนึ่งร่วงลงมาด้วยพลังประหนึ่งภูเขาไท่ซานกดทับเหนือศีรษะ ฐานภูเขาเปล่งแสงสีเหลืองสว่าง รัศมีแสงสีเหลืองวงแล้ววงเล่ากระเพื่อมขยายออกไป
อึดใจต่อมาเสียง “ชี่” ก็ดังลั่น!
รัศมีแสงสีเหลืองถูกน้ำพิษจู่โจมดุจพายุฝนกระหน่ำจนกลายเป็นควันสีเหลืองเขียวนับไม่ถ้วนลอยพุ่งขึ้นมา โชคดีที่แม้ยอดเขาสีเหลืองเปล่งแสงวูบวาบแต่ไม่พังทลายลงทันที!
ในเวลาเดียวกันนี้ไอหมอกสีดำที่เดิมทีล้อมรอบตัวหลิ่วหมิงอยู่ก็พลันมีเสียงมังกรกู่ร้องพยัคฆ์คำรามดังขึ้น!
มังกรสามตัวกับพยัคฆ์สามตัวพลันพุ่งออกมาจากสองฟากฝั่ง แยกย้ายกันไปสามทาง บน กลาง ล่าง แยกเขี้ยวกางกรงเล็บโถมเข้าใส่แมลงสองหัว
“คุกมืด”
ยังไม่ทันที่มังกรและพยัคฆ์ซึ่งก่อตัวจากหมอกสีดำจะปะทะกับแมลงสองหัว เคล็ดวิชาที่มือหลิ่วหมิงก็แปรเปลี่ยนทันทีพร้อมกับตวาดเบาๆ
เกิดเสียงระเบิดดั่งอสนีบาตฟาด มังกรหมอกกับพยัคฆ์หมอกทั้งหมดทยอยระเบิดกลายเป็นแสงสีดำหมื่นจั้งกลืนแมลงสองหัวเข้าไปด้านใน
แม้ยุทธวิธีของหลิ่วหมิงจะไหลลื่นดุจเมฆาคล้อยสายน้ำไหล จับจังหวะได้อย่างเหมาะเจาะพอดี แต่ถึงอย่างไรคู่ต่อสู้ก็เป็นแมลงระดับดาราพยากรณ์!
เสียงกรีดร้องประหลาดดังออกมาจากแสงสีดำ ทันใดนั้นคลื่นสีเทาระลอกแล้วระลอกเล่าก็ทะลักออกมาจากแสงสีดำแล้วพุ่งพรวดไปสี่ด้านแปดทิศ
คุกมืดที่เดิมทีกำลังจะก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างถูกคลื่นเหล่านี้โจมตีจนเริ่มส่ายไหวใกล้พังทลาย
หลิ่วหมิงเคยมีประสบการณ์ต่อสู้กับแมลงระดับดาราพยากรณ์มาก่อนย่อมไม่มีทางปล่อยให้อีกฝ่ายดิ้นหลุดออกไปได้เช่นนี้ ทันใดนั้นดวงตาเขาก็ทอประกายวาวโรจน์ จี้ดรรชนีเข้าใส่ยอดเขาสีเหลืองด้านหน้าอย่างว่องไว
ยอดเขาสีเหลืองสั่นสะท้านครู่หนึ่งก็ลอยขึ้นจากพื้น ต่อจากนั้นเงาแม่น้ำสีดำสายแล้วสายเล่าพลันปรากฏ
เมื่อยอดเขาสีเหลืองถูกแม่น้ำสีดำโอบล้อม มันก็ขยายขนาดขึ้นครึ่งเท่าอย่างกะทันหันแล้วพาพลังอันไร้ที่สิ้นสุดลอยไปอยู่เหนือคุกมืดทันที
แสงเรืองรองสีเหลืองที่สาดลงมาจากยอดเขาอาบไปทั่วท้องฟ้าทำให้คุกมืดที่เดิมปั่นป่วนใกล้จะพังทลายมั่นคงขึ้นในทันที
แมลงสองหัวคล้ายจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ เงาแมลงยักษ์สองหัวขนาดมหึมาอย่างยิ่งตัวหนึ่งจึงปรากฏขึ้นบนแผ่นหลังทันที ร่างกายมหึมาของมันบิดดิ้นอย่างบ้าคลั่ง ปล่อยคลื่นสีเทาคลุ้มคลั่งออกมาดุจคลื่นสมุทร
“ปัง!”
หลังจากแมลงสองหัวปล่อยร่างพลังเวทออกมา ในที่สุดก็ทลายแสงสีดำของคุกมืดที่หลิ่วหมิงใช้ขังมันไว้ได้สำเร็จ!
ทว่าพริบตาที่หนีรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด แม่น้ำเส้นยาวสีดำหลายเส้นบนยอดเขายักษ์สีเหลืองพลันพร่าเลือนหายวับเข้ามาเลื้อยรัดหลายทบบนร่างแมลงสองหัวอย่างว่องไวประหนึ่งเส้นเชือก
ต่อจากนั้นแสงเรืองรองสีเหลืองผืนใหญ่พลันสาดลงมา แมลงสองหัวรู้สึกว่าอากาศรอบตัวถูกบีบอัด ร่างกายหนักอึ้งอย่างยิ่งจนไม่อาจยืนมั่นคงบนท้องฟ้าได้
หลิ่วหมิงหัวเราะหยัน สองแขนขยับส่งเคล็ดวิชาหลายสายออกไปพร้อมกัน มุกบรรพตธาราที่กลายเป็นภูเขายักษ์เปล่งแสงจิตวิญญาณวูบหนึ่งแล้วดิ่งร่วงลงไปทันที
บึ๊ม!
ยอดเขายักษ์สีเหลืองกระแทกลงบนหัวของแมลงสองหัวอย่างหนักหน่วง แต่ร่างพลังเวทของมันดันเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด
หลิ่วหมิงหัวเราะหยันเย็นชา นิ้วมือทั้งห้าของมือข้างหนึ่งกลายเป็นเงาเลือนรางลูบผ่านจุดหนึ่งตรงข้างเอว
ฝักกระบี่สีเทาฝักหนึ่งปรากฏขึ้นข้างเอว ทันใดนั้นแสงสีทองเลือนรางสายหนึ่งก็พุ่งหายวับไป ทิ้งไว้เพียงลายคลื่นกระเพื่อมล่องหนวงหนึ่ง
แมลงสองหัวที่กำลังยุ่งจนไม่มีเวลาว่างเหมือนจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันตรายจางๆ ใบหน้ามนุษย์บิดเบี้ยวผิดรูปสองดวงจึงร้องคำรามออกมาพร้อมกัน ปราณรอบร่างสั่นสะเทือน มันคิดจะสลัดให้หลุดเพื่อที่จะหนี
ในตอนนี้เองลูกบอลน้อยสีทองลูกหนึ่งพลันปรากฏดุจภูตพรายตรงหน้าผากบนหัวด้านขวาของแมลง จากนั้นพริบตาเดียวก็ยืดยาวเป็นกระบี่น้อยสีทองเล่มหนึ่งเสียบหายเข้าไป
“ฟึบ” กระบี่น้อยสีทองทะลวงออกมาจากกลางหว่างคิ้วตรงหัวฝั่งซ้ายของแมลงสองหัว จากนั้นหมุนติ้วรอบหนึ่งก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา