ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 1

ด้านนอกของประตูเขากว่างเฉิง ณ เกาะนภากลางแห่งนภาพิภพ หนึ่งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสำนักวิทยายุทธ์มากมายในยุคปัจจุบันของโลกแปดพิภพ

เยี่ยนจ้าวเกอในอาภรณ์สีขาว ด้านนอกสวมทับด้วยชุดคลุมสีน้ำเงินแต่งขอบสีดำ บ่งบอกถึงตำแหน่งลูกศิษย์สืบทอดหลักของเขากว่างเฉิง

ส่วนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นชายหนุ่มในชุดสีเหลืองคนหนึ่ง ซึ่งกำลังยืนหน้าบูดบึ้ง “เยี่ยนจ้าวเกอ เจ้ามีดีแค่บิดาเก่งไม่ใช่หรืออย่างไร?”

“เมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ? หากกล้าเจ้าก็ลองพูดดูอีกครั้งสิ” เยี่ยนจ้าวเกอตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“พูดก็พูดสิ คิดว่าข้ากลัวเจ้าหรือ? เจ้ามันก็แค่มีดีแต่บิดาเก่งไม่ใช่หรือ?”

เยี่ยนจ้าวเกอจ้องเขา พลันฉีกยิ้มออกมา “เยี่ยม ประโยคนี้แหละ ข้าชอบที่คนอื่นว่าข้าด้วยประโยคนี้ที่สุด”

ชายหนุ่มชุดสีเหลืองอึ้งจนพูดไม่ออก

หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาถึงได้สติกลับมา ความอับอายแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ เขาพุ่งตัวเข้าหาเยี่ยนจ้าวเกอโดยที่ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

“เบามือหน่อย อย่าให้ถึงตายล่ะ” เยี่ยนจ้าวเกอพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจนัก

ชายหนุ่มชุดสีเหลืองชะงักงัน ก่อนจะรู้สึกชาไปทั้งตัว ภาพตรงหน้ามัวไปหมด เขาได้สติเมื่อผ่านไปครู่ใหญ่ และพบว่าตัวเขาถูกจับเอวยกขึ้นไปในอากาศจากข้างหลัง!

ชายร่างกำยำผู้หนึ่งปรากฏกายตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ เขายกชายหนุ่มชุดเหลืองไว้กลางอากาศด้วยมือข้างเดียว ท่วงท่าสบายๆ นั้นราวกับหิ้วเด็กน้อยคนหนึ่ง

ชายร่างกำยำยิ้มตาหยี พลางกล่าวว่า “คุณชาย เชิญก่อนเลยขอรับ”

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า เอามือทั้งสองข้างไขว้หลัง หันกายแล้วเดินออกไปอย่างสบายอกสบายใจ

ชายร่างกำยำผู้นั้นแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย พลางยกชายหนุ่มชุดเหลืองเดินไปไกลไว้เพียงมือเดียว ส่วนอีกฝ่ายก็ทำได้เพียงส่งเสียงในลำคอเป็นระยะๆ เท่านั้น

เยี่ยนจ้าวเกอกลับเข้าไปในประตูสำนักของตนเอง ขณะเดินไปตามทาง สีหน้าหยอกล้อเล่นสนุกบนใบหน้าของเขาได้เลือนหายไปแล้ว เหลือเพียงสายตาที่มองตรงไปข้างหน้า กับสีหน้าที่เรียบนิ่ง

มองดูแล้วเป็นบุคคลที่น่าเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง

แต่ความหมายที่แท้จริงที่ซ่อนไว้ของสีหน้านี้ก็คือ…

ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร!

“ต้องไม่ใช่บทแบบนี้สิ” เยี่ยนจ้าวเกอบ่นพึมพำกับตัวเอง ในฐานะที่เป็นหนึ่งในแม่ทัพใหญ่คนหนึ่งที่เดินทางข้ามมิติมา วิธีการเปิดมิติของตนเองจะต้องมีข้อผิดพลาดแน่

ครั้งแรกที่เดินทางข้ามมิติ เขาข้ามไปอยู่ในมิติกาลเวลาอื่นที่มีอารยธรรมวิทยายุทธ์รุ่งเรืองมากที่สุด แถมยังไปโผล่ในหอคัมภีร์ลับของสำนักพระราชวังเทพที่เก็บสะสมสุดยอดตำราคัมภีร์ต่างๆ ของโลกไว้มากมาย แต่ภายหลังกลับเกิดวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ จนแม้แต่สำนักพระราชวังเทพก็ดับสลายไป

จากนั้นนึกไม่ถึงว่าการข้ามมิติมาครั้งที่สองนี้ วิญญาณของเขาได้กลับมายังโลกเดิม เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นยุคหลังจากนั้นอีกนานเท่าไร

ผู้คนได้สืบทอดและสรรค์สร้างโลกใหม่ขึ้นจากร่องรอยที่หลงเหลือของวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอารยธรรมวิทยายุทธ์ของที่นี่เพิ่งจะเริ่มนับหนึ่งใหม่ ทุกอย่างยังอยู่ในช่วงของการพัฒนา

เมื่อข้ามมิติครั้งที่สองมายังโลกที่อยู่ ณ ตอนนี้ เขาท่องจำคัมภีร์ลับในสำนักพระราชวังมาจนเต็มล้นสมองของตนเองแล้ว จึงรู้สึกราวกับเคยชินกับรูปแบบการใช้ชีวิตสุดทรหด แล้วจู่ๆ เขาก็ได้มาใช้ชีวิตที่พบเจอแต่เรื่องง่าย ทำเอาเขาไม่ค่อยสบอารมณ์เอาเสียเลย!

ปัญหาเดียวก็คือ หลังจากที่ข้ามมิติครั้งที่สองแล้ว เจ้าของเดิมของร่างนี้ได้ทิ้งสิ่งที่ชั่วร้ายที่สุดไว้อย่างหนึ่ง

“คุณชายขอรับ จัดเตรียมของที่ท่านสั่งให้เก็บรวบรวมเรียบร้อยแล้วขอรับ” บัดนี้ชายร่างกำยำผู้นั้นเดินตามมาอีกครั้ง “และมีเบาะแสที่อยู่ของเชื้อไฟสัจจะอัคคีแล้วเช่นกันขอรับ”

เยี่ยนจ้าวเกอชะลอฝีเท้าลงเล็กน้อย “เบาะแสนี้ยากจะได้มานัก เจ้าแน่ใจแล้วหรือ”

“เหล่าลูกน้องจำกัดขอบเขตให้แคบลงแล้ว พบว่ามันอยู่บริเวณฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของหุบเหวปราการมังกร คิดว่าอีกไม่นานคงได้ข้อมูลที่ชัดเจนมากกว่านี้กลับมาขอรับ” ชายร่างกำยำฉีกยิ้มอย่างซื่อตรง

“ไม่เลวๆ” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้ารับด้วยความพอใจ

คนที่เรียกตนว่า ‘คุณชาย’ และไม่ใช่ศิษย์พี่หรือศิษย์น้องนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นคนของตระกูลเยี่ยน อีกทั้งบิดาของตนไม่เพียงเป็นผู้อาวุโสที่มีตำแหน่งสูงและมากด้วยอำนาจในสำนักเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ยังเป็นผู้นำตระกูลเยี่ยนรุ่นปัจจุบันด้วย ถือเป็นตระกูลผู้ดีที่มีชื่อเสียงกว้างไกลไปทั่วทั้งแผ่นดินใหญ่

ไม่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอต้องการสิ่งใด ขอเพียงจดรายการออกมา เหล่าข้าทาสบริวารก็จะกุลีกุจอเสาะหามาให้

กล่าวอย่างง่ายๆ คือ บัดนี้เยี่ยนจ้าวเกอมีฐานะดี อยู่ในตระกูลที่มีชื่อเสียง บิดาเก่งกาจ ตนเองเป็นอัจฉริยะ ทุกสิ่งล้วนราบรื่น

ทว่า…เหมือนยังมีตรงไหนที่ยังไม่ถูกที่ไม่ถูกทางอยู่

“คุณชายขอรับ ยังมีอีกเรื่อง…” ชายร่างกำยำที่อยู่ด้านข้าง กำลังจะปริปากพูดบางอย่างต่อ แต่ก็ต้องกลืนคำพูดนั้นลงท้องไปทันที

ข้างหน้าปรากฏชายวัยกลางคนที่มีปราณหนักแน่นเดินเข้ามา ทุกย่างก้าวของเขาราวกับทำให้สิ่งต่างๆ รอบตัวสั่นสะเทือนไปด้วยได้เลยทีเดียว

เมื่อชายผู้นั้นเข้ามาใกล้ เยี่ยนจ้าวเกอคารวะอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม ชายวัยกลางคนผู้นั้นฉีกยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “ไม่พบเพียงไม่กี่วัน วรยุทธ์ของศิษย์หลานเยี่ยนเก่งกล้าขึ้นอีกแล้ว”

เยี่ยนจ้าวเกอตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม “จะร่ำเรียนวิชาต้องขยันหมั่นเพียร พึงหาแต่เพียงความสนุกมิได้ หลานไม่กล้าเกียจคร้านหรอกขอรับ”

ชายวัยกลางคนกล่าวว่า “เมื่อไม่กี่วันก่อนที่บริเวณหุบเหวปราการมังกรมีความเคลื่อนไหวบางอย่าง ข้ากำลังเตรียมรวบรวมคนไปตรวจสอบ โดยจะให้ลูกศิษย์เยาว์วัยเดินทางไป การประลองรอบเล็กของสำนักก็เสร็จสิ้นพอดี ข้าเลยคิดว่าจะให้ลูกศิษย์รุ่นใหม่ที่ชนะการประลองแปดคนแรกร่วมไปด้วย ถือเป็นการฝึกฝนไปในตัว”

“เพียงแต่มีข่าวลือเล่ากันมาว่ามีคู่ปรับเก่าคนหนึ่งของเจ้าปรากฏตัวอยู่ใกล้ๆ กับปราการมังกรเช่นกัน หากศิษย์หลานเยี่ยนไม่ได้มีกิจใดในช่วงนี้ ก็เป็นหัวหน้านำคณะสักครั้งได้หรือไม่”

เขามองเยี่ยนจ้าวเกอ แววตาเต็มไปด้วยความคาดหวังและชื่นชม

ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้มีพรสวรรค์ด้านวิทยายุทธ์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เป็นบุคคลที่สวรรค์โปรดปรานอย่างแท้จริง เขามีความสามารถอยู่ในลำดับต้นๆ ของคนรุ่นราวคราวเดียวกัน แถมยังเป็นบุคคลที่จะนำกองทัพ และเป็นหน้าตาของศิษย์รุ่นเยาว์วัยของเขากว่างเฉิง

ผู้ที่จะเทียบเคียงกับเขา ก็ล้วนแต่เป็นอัจฉริยะในบรรดาคนที่มีอายุเท่ากัน ซึ่งมีความสามารถยอดเยี่ยมที่สุดในสำนักวิทยายุทธ์อันดับต้นๆ แห่งอื่นของโลกแปดพิภพ

ในฐานะที่เยี่ยนจ้าวเกอเป็นคุณชายแห่งเขากว่างเฉิง หนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค แม้ว่าอายุจะยังน้อย แต่ก็เป็นผู้ที่มากความสามารถและมีความเป็นเลิศในทุกๆ ด้าน มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งโลกแปดพิภพ เป็นที่ยอมรับจากทุกคนว่าขอเพียงไม่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเยาว์วัย อนาคตก็ต้องเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จระดับตำนานแน่นอน

“ปราการมังกรหรือ…” เยี่ยนจ้าวเกอขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพยักหน้าตอบตกลงในทันที “ข้าไม่ได้มีกิจอันใดขอรับ ข้าจะไปสักครั้ง ส่วนบรรดาศิษย์น้องชายหญิง ข้าจะดูแลเองขอรับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี