เรื่องเล่าเกี่ยวกับประมุขทิศบนเฉินกานหัวมีอยู่มากมาย
เยี่ยนจ้าวเกอไม่เคยเห็นเขาลงมือด้วยตัวเอง จึงยากจะตัดสินพลังของอีกฝ่ายได้อย่างแม่นยำ
แต่ว่าในครั้งสงครามระหว่างจักรพรรดิแพรงามและทวนพระอังคาร ประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงได้แสดงความสามารถออกมาแค่มุมเดียว และเยี่ยนจ้าวเกอได้เห็นด้วยตาตัวเอง
เทพกระบี่น้อยที่เคยปลอมชื่อเป็นเฉียนเสวี่ยจี้เคลื่อนไหวบนโลกซ้อนโลก แต่มีชื่อจริงว่าหลงเสวี่ยจี้ เยี่ยนจ้าวเกอเองก็เคยเจอ
เมื่อเทียบระหว่างสองคนนี้ เยี่ยนจ้าวเกออนุมานได้ว่าเฉินกานหัวที่เทียบเคียงได้กับหลงเสวี่ยจี้ และเหนือกว่าหวังเจิ้งเฉิงจะมีระดับประมาณไหน
ยังไม่ต้องพูดถึงเทพกระบี่น้อยหลงเสวี่ยจี้
ประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงคือคนที่ว่ากันว่าแทบจะสามารถสะกดข้อพิพาทระหว่างจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์บนโลกซ้อนโลกได้ด้วยพลังของตัวเองเพียงคนเดียว ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นประมุขก็ตาม!
คำว่าแทบในที่นี้ หลักๆ เป็นเพราะประมุขทิศบนเฉินกานหัวที่เหนือกว่าเขาถูกตัดทิ้งไป
หรืออาจจะบอกได้ว่า ประมุขทิศบนเฉินกานหัวคือตัวตนบนโลกซ้อนโลกที่มีแต่สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิเท่านั้นที่สะกดได้
เขาอาจจะเป็นยอดฝีมือที่สามารถใช้ร่างกายของมนุษย์สู้กับจักรพรรดิเซียนจริงแท้ส่วนหนึ่ง ซึ่งจากอดีตจนถึงปันจุบันมีเพียงน้อยนิด
แน่นอนว่าการสู้กับการถูกกดดันเป็นคนละเรื่องกัน
สามารถสู้กับเซียนจริงแท้ได้ กับสามารถรอดจากน้ำมือของเซียนจริงแท้ได้ ก็เป็นมาตรฐานที่แตกต่างกันเช่นกัน
ประมุขทิศบนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์บนโลกซ้อนโลกผู้นี้ ที่แท้ทำได้ถึงขั้นไหนแน่ หากไม่ได้ค้นพบด้วยตัวเอง เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่กล้าตัดสิน
ทว่าในปัจจัยที่ไม่แน่นอนมากมาย เขาจะต้องเป็นคนหนึ่งที่ต้องระวังไว้อย่างไม่ต้องสงสัย
โดยเฉพาะคุณชายดินเฉินคุนหัวที่มาโดยไม่ได้รับเชิญ ยิ่งทำให้คนคาดการณ์การกระทำไม่ถูก
เขามาแสดงอำนาจ หรือมาทำภารกิจแทนพี่ชายของเขา
นี่เกรงว่าจะมีแต่ตัวเฉินคุนหัวที่รู้
แต่ก็มีคำกล่าวว่าอย่าทุบตีคนยิ้มแย้ม อีกฝ่ายแสดงมารยาทครบถ้วนไม่ได้เผยให้เห็นถึงความเป็นปรปักษ์ เขากว่างเฉิงย่อมไม่ถึงกับห้ามไม่ให้คนเข้ามา ทำให้ผู้อื่นเห็นเป็นเรื่องตลก
เยี่ยนจ้าวเกอเองก็ไม่ลังเล ต้อนรับเฉินคุนหัว จัดหาที่พักบนเขาให้ แล้วจึงส่งต่อให้ลูกศิษย์เขากว่างเฉิงคนอื่นจัดการต่อไป
พร้อมกับที่วันเปิดพิธีใกล้เข้ามา จอมยุทธ์เขากว่างเฉิงที่ออกไปรวบรวมคนมีความสามารถ ก็เริ่มทยอยกลับสำนัก
พวกเขาส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปยังสถานที่ด้านนอกทะเลหวงเจีย การเคลื่อนไหวเช่นนี้ความจริงเป็นการทำผิดข้อตกลง ดึงดูดการผนึกกำลังกันปราบปรามของขุมกำลังแกร่งในพื้นที่ได้ง่าย แต่ว่าบารมีที่เยี่ยนจ้าวเกอได้สยบฝั่งทิศใต้ และได้สังหารยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ชั้นยอดเช่นจางซู่หริน เผิงเฮ่อ และชิงซู่จื่อยังคงอยู่ ก่อเกิดเป็นการสั่นสะท้านอันใหญ่หลวง
เขาโถงทองในฐานะผู้ปกครองเขตตะวันอาคเนย์ก็ไม่มีข้อคัดค้าน
สืบเนื่องจากว่าพิธีเปิดสำนักในครั้งนี้มีความพิเศษ ต่อจากนี้ยากจะมีอีก พวกงูเจ้าถิ่นที่อยู่ในอาณาเขตใหญ่ๆ บนตะวันออกเฉียงใต้เช่นหมู่เกาะอาทิตย์ตก เทือกเขาอาทิตย์หยก ที่ราบสูงยอดขจี และเทือกเขาเสียงระรัวก็ได้แต่ฝืนใจยอมรับ
ส่วนทางอาณาเขตที่แม่น้ำเฉาเหอไหลผ่าน เช่นเขารอบวงที่อยู่บนเขตเพลิงทักษิณ กลับสะดวกสบายยิ่งกว่า ในบริเวณนี้ บารมีของเยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิงยิ่งใหญ่กว่าที่ใด
ถึงแม้ว่าหลังจากการต่อสู้บนเขารอบวงในวันนั้น เยี่ยนจ้าวเกอจะไม่ได้เหยียบย่างเข้าสู่เขตเพลิงทักษิณอีก แต่จนถึงตอนนี้ ที่นั่นก็ยังคงมีเรื่องเล่าของเขาเหลืออยู่
ในสถานที่ต่างๆ เช่นเขารอบวง เยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงเป็นราชาไร้มงกุฎ เป็นเช่นนี้มาตลอดหลายปี
จวบจนกระทั่งปัจจุบัน ประมุขทักษิณได้กลับเขตเพลิงทักษิณจวงเซินแล้ว สถานการณ์จึงค่อยบรรเทาลง
แต่เป็นเพราะว่าประมุขทักษิณไม่ได้เคลื่อนไหวในทันที ดังนั้นเยี่ยนจ้าวเกอจึงยังคงรักษาบารมีในบริเวณที่แม่น้ำเฉาเหอไหลผ่านได้ในระดับหนึ่ง จอมยุทธ์เขากว่างเฉิงนำหน่ออ่อนที่ดีจำนวนไม่น้อยกลับมาจากที่นั่นได้เพราะสาเหตุนี้
“คุณชาย ครั้งนี้เป็นหน่ออ่อนที่ไม่เลวจริงๆ”
ปัจจุบันเขากว่างเฉิงยังมีคนอยู่บนโลกซ้อนโลกน้อยนิด ดังนั้นก่อนหน้านี้อาหู่จึงถูกส่งออกไป เพิ่งกลับมาได้ไม่นานนัก
ในที่สุดประมุขอาคเนย์เฉาเจี่ย ผู้ปกครองเขตตะวันอาคเนย์ก็มาถึง
เยี่ยนจ้าวเกอออกไปต้อนรับ สองฝ่ายเมื่อพบกันก็เข้าใจกันทุกอย่าง โดยไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไรให้มากความ
“มีเรื่องหนึ่งที่ข้าอยากให้ประมุขอาคเนย์ชี้แนะ”
ถึงแม้ว่าวันนี้จะต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็ยังคงสงบนิ่ง จิตใจเยือกเย็น ส่งกระแสเสียงแก่เฉาเจี๋ย ‘อาจจะเสียมารยาทไปบ้าง เป็นเรื่องของมารดาข้า’
เฉาเจี่ยขมวดคิ้ว มองเยี่ยนจ้าวเกอ
‘ขอไม่ปิดบัง ข้าได้ไปโลกของโถงเซียนมา มีเรื่องบางอย่างที่ได้รับรู้แล้ว ข้าเดาว่าเรื่องของมารดาข้าเกี่ยวข้องกับโถงเซียน’ เยี่ยนจ้าวเกอว่า ‘ไม่ทราบว่าข้าเดาถูกหรือไม่’
เรียวคิ้วของเฉาเจี๋ยคิ้วเริ่มคลายออกจากกันเล็กน้อย แต่ไม่ทันไรก็ขมวดอีกครั้ง เงียบงันอยู่บ้าง ไม่ได้ตอบในทันที แต่ในที่สุดก็เอ่ยว่า ‘ข้อมูลของเรื่องนี้อย่าบอกให้แก่ผู้ใด’
เยี่ยนจ้าวเกอพอจะเข้าใจว่าเฉาเจี๋ยคิดอะไร แต่ก็ไม่ได้บอกว่าตนแตกต่างจากฟู่ถิง เขาพยักหน้าตอบว่า ‘ท่านวางใจ ข้ารู้ดี’
ตอนที่พูดถึงตรงนี้ พลันมีประกายกระบี่สายหนึ่งพุ่งมาจากทิศตะวันตกใส่เขากว่างเฉิง
เขากว่างเฉิงคุ้นเคยกับผู้มาเยือนดี เป็นแม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์
แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์พุ่งลงบนเขากว่างเฉิงโดยไร้การขัดขวาง บรรลุถึงตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอกับเฉาเจี๋ย
นางมองเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่ได้ใช้วิธีการส่งกระแสเสียงคุยกับเฉาเจี๋ย แต่ว่าพูดตรงๆ ต่อหน้า “เกิดเรื่องแล้ว!”
“ปริมาณน้ำของแม่น้ำเฉาเหอลดลงอย่างรวดเร็ว ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป แม่น้ำจะขาดลงภายในวันนี้!”
………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี