ภาค 10 ขี่วายุทะลายคลื่นหมื่นลี้
บทที่ 1045 บรรพตบูรพาสำนักเต๋าที่เริ่…
“คำกล่าวนี้ออกจากปากท่าน ช่างหายากจริงๆ”
บุรุษวัยกลางคนที่มากับไป๋เทาคือศิษย์น้องของเขา นามว่าหวังผู่ เป็นลูกศิษย์ของกษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยเช่นกัน
พออยู่ด้านข้างจักรพรรดินีเจี่ยหมิงคง ประมุขหรดีไป๋เทาก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยสะดุดตานัก แต่เขากลับมีพลังฝึกปรืออยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย เป็นยอดฝีมือที่มีจำนวนนับนิ้วได้ในกลุ่มลูกศิษย์เขานครหยกแห่งยอดเขาเป่ยเกาของกษัตริย์ลี้ลับ
แม้ว่าประมุขหรดีไป๋เทาจะเป็นศิษย์เอกของกษัตริย์กระบี่ แต่ก็อาศัยอยู่ในเขตฟ้าแดงหรดี น้อยครั้งจะกลับเขาคุนหลุนในเขตมหานภากลาง ตามปกติแล้วหวังผู่จึงเป็นคนดูแลเขานครหยก
เขาในตอนนี้มองคนหนุ่มอาภรณ์ดำที่อยู่ด้านข้าง ทอดถอนใจว่า “ตั้งแต่ท่านเข้าสำนักมาหลายสิบปี จำนวนครั้งที่ชมคน ข้าใช้มือข้างเดียวก็นับได้”
คนหนุ่มอาภรณ์ดำกล่าวอย่างสงบนิ่ง “เป็นเพราะอาจารย์อาเยี่ยนกับศิษย์น้องเยี่ยนแข็งแกร่งอย่างแท้จริง”
หวังผู่มองเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ ชมเชยเช่นกัน “เป็นมังกรหงส์ในหมู่คนจริงๆ”
ก่อนหน้านี้เขาคิดจะสืบเสาะเบื้องหลังของเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูก ครั้งนี้พอนึกขึ้นมา ก็อดหัวเราะพร้อมกับส่ายศีรษะติดต่อกันไม่ได้
ประมุขอิสานหลิวเจิงกู่กับประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ยนั่งด้วยกัน ต่างก็ทอดถอนใจ “ก่อนหน้านี้ข้าลงมือเพราะผู้สืบทอดของหูเจิดจรัส นับว่าทำเพื่อให้ตัวเองสบายใจ แต่คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีผลลัพธ์เช่นนี้ในตอนท้าย คิดถึงตอนที่เพิ่งพบเยี่ยนจ้าวเกอเป็นครั้งแรก เขายังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ในเวลาเพียงแค่สิบกว่าปีเท่านั้น เขาก็สร้างความปั่นป่วนบนโลกซ้อนโลกได้แล้ว”
หลิวเจิงกู่เอ่ยอย่างสะท้อนใจ “คนหนุ่มเช่นนี้หายากยิ่งนัก บิดาของเขาก็เป็นเช่นเดียวกัน”
เฉาเจี๋ยเหม่อลอยเล็กน้อย สีหน้าซับซ้อนอยู่บ้าง สิ่งที่คิดอยู่กลับเป็นเรื่องที่เยี่ยนจ้าวเกอบอกเขาเมื่อก่อนหน้านี้
‘ขอไม่ปิดบัง ข้าได้ไปโลกของโถงเซียนมา มีเรื่องบางอย่างที่ได้รับรู้แล้ว’
ครั้นคิดถึงเรื่องนี้ เฉาเจี๋ยก็รู้สึกเสียดาย เยี่ยนจ้าวเกอยิ่งโดดเด่นเท่าไร ความเสียดายของเขาก็ยิ่งชัดเจนเท่านั้น
เฉาเจี๋ยมองพวกไป๋เทากับหวังผู่ที่อยู่ด้านข้าง ลอบถอนใจว่า ‘หวังเพียงว่ากษัตริย์กระบี่จะมีวิธี’
เทียบกับพวกจักรพรรดินี เฉาเจี๋ย และหวังผู่แล้ว แขกคนอื่นๆ มีความคิดอีกแบบหนึ่ง
ไป๋จื่อหมิงที่มาจากโลกยมทะยาน ต่อมาได้เข้ากับเขาโถงทอง และรู้จักกับเยี่ยนจ้าวเกอ ตอนนี้กำลังรำพึงรำพันในฐานะแขกของสำนักเขากว่างเฉิง
เวลาเพียงแค่สิบกว่าปีเท่านั้น แต่เขากว่างเฉิงได้กลายเป็นขุมกำลังยิ่งใหญ่เหนือกว่าเขาโถงทองไปแล้ว บรรพตบูรพาแห่งสำนักเต๋าที่เมื่อก่อนผู้คนไม่สนใจ บัดนี้ถึงกับเริ่มมีสัญญาณว่าจะมีชื่อสมกับความจริงแล้ว
ส่วนเขาไป๋จื่อหมิงยังคงพึ่งพาเขาโถงทอง
ทั้งๆ ที่มาจากโลกเบื้องล่างเหมือนกัน แต่สองฝ่ายกลับต่างกันราวฟ้ากับเหว
ทางด้านโลกยมทะยาน สำนักหยางคู่เป็นขุมกำลังอันดับหนึ่ง มียอดฝีมือบนโลกซ้อนโลกสนับสนุน แต่ยามเผชิญกับหอคลื่นโหมซึ่งเป็นสำนักเล็กๆ ที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่ก็ยังต้องทำตัวนอบน้อม ไม่กล้าเมินเฉยแม้แต่น้อย
เหตุผลก็ไม่มีอื่น เป็นเพราะว่าหยวนเจิ้งเฟิงเจ้าสำนักคนเก่าของเขากว่างเฉิง อาจารย์ของเยี่ยนตี๋มีความสัมพันธ์อันดีกับหอคลื่นโหม และเคยเกิดความขัดแย้งกับสำนักหยางคู่เพราะสาเหตุนี้
หอคลื่นโหมในตอนนี้แทบจะกลายเป็นราชาบนโลกยมทะยานเพราะเขากว่างเฉิง
สำนักหยางคู่เองก็ไม่คิดจะรับความอัปยศเช่นนี้ แต่ปัญหาก็คือ ไม่ต้องให้เยี่ยนจ้าวเกอและเยี่ยนตี๋ลงมือ หยวนเจิ้งเฟิงที่ตอนนี้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง และพร้อมจะปีนขึ้นสะพานเซียนตลอดเวลาสามารถกวาดล้างสำนักหยางคู่บนโลกซ้อนโลกได้แล้ว
ภูเขาหิมะไพศาลของไป๋จื่อหมิงย่อมไม่เป็นเช่นนี้ แต่ขณะมองภาพทั้งหมดก็ยังไม่อาจบรรยายความรู้สึกของตนเองได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี