จักรพรรดิเอกภพกำเนิดเดินทางไปยังทะเลหวงเจียเขตตะวันอาคเนย์ หมายจะนำลายมือแห่งแผ่นดินที่ซ่อนอยู่ที่นั่นไป แต่ผลลัพธ์กลับถูกเนี่ยจิงเสินขัดขวาง
ต่อจากนั้นข่าวที่เยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกเอาชนะจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำ เฉินเฉียนหัว และหวังเจิ้งเฉิงติดต่อกันก็ถูกส่งมา
โดยเฉพาะหลังจากที่จักรพรรดิเอกภพทราบว่าเยี่ยนตี๋สังหารประมุขบูรพา นักพรตเทียนอี้ และเยี่ยนจ้าวเกอสังหารประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิง จักรพรรดิเอกภพกำเนิดก็ทราบว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว
เขาเดิมทีต้องการให้เนี่ยจิงเสินถูกพวกหวังเจิ้งเฉิงและเฉินเฉียนหัวดึงดูดไป ทว่าผลลัพธ์สุดท้าย เนี่ยจิงเสินมั่นคงดุจภูเขาไท่ซาน เป็นเขาเองที่ทนทานไม่ได้ก่อน
เนี่ยจิงเสินทำอะไรเขาไม่ได้ แต่ถ้ารอเยี่ยนจ้าวเกอพกพากระบี่เปิดกำเนิดกลับเขตตะวันอาคเนย์ จักรพรรดิเอกภพไม่มีทางปลอดภัยเหมือนตอนนี้
ดังนั้นเขาได้แต่มาด้วยความฮึกเหิม และกลับไปด้วยความผิดหวังอีกครั้ง แม้เห็นลายมือแห่งแผ่นดินอยู่ตรงหน้า ทว่าได้แต่กลับไปมือเปล่า
จักรพรรดิเอกภพไปที่ไหนหลังออกจากทะเลหวงเจีย เยี่ยนจ้าวเกอไม่ทราบ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการบุกในวันนี้ของเขา
รอยตราพลิกนภาร่วงหล่นใส่ยอดเขาอนัตตา ซึ่งเป็นที่บำเพ็ญของจักรพรรดิเอกภพอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
แทบจะเป็นในเวลาเดียวกับที่เยี่ยนจ้าวเกอลงมือ เหนือยอดเขาอนัตตาก็มีแสงสว่างขึ้น
ในประกายแสงสีเหลืองเข้มปรากฏแสงพิสุทธิ์หลายสาย หนักแน่นผนึกตัวแต่ก็มีชีวิตชีวา
เงาแสงตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอเปลี่ยนเป็นมายา เหมือนกับปรากฏฟ้าดินที่แท้จริง เทียบได้กับลักษณะในตอนที่ประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงกางรูปภูผาธาราโบ่วกี้
ต้นไม้สูงเทียมฟ้าขนาดมหึมาต้นหนึ่งปรากฏกลางฟ้าดิน กิ่งใบแกว่งไกว ครอบคลุมฟากฟ้า ค้ำยันท้องนภา
ฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอครอบลงบนยอดของต้นไม้มหึมานั้น
ในเสียงดังกระฮึ่ม กิ่งใบทั้งหมดของต้นไม้ที่เหมือนกับค้ำยันท้องฟ้านั้นพลันถูกกดให้งอโค้งพร้อมกัน ลำต้นที่ตั้งตรงหยาบใหญ่สั่นไหวไปด้วย
“จักรพรรดิเอกภพโปรดออกมา ตอนที่อยู่ในทะเลหวงเจีย ข้าผู้แซ่เยี่ยนเคยบอกว่าจะมีซักวันหนึ่งที่ท่านทำอะไรข้าไม่ได้ แม้ข้าไม่ได้ผลักเปิดประตูเซียน”
เยี่ยนจ้าวเกอยืนตระหง่านอยู่กลางอากาศ ต้นไม้หยาบใหญ่ที่เหมือนเสาสวรรค์ดูคล้ายต้นหญ้าต้นหนึ่งใต้ฝ่ามือของเขา
“วันนี้ข้าผู้แซ่เยี่ยนมาทำตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ จักรพรรดิเอกภพไม่คิดทดลองดูด้วยตัวเองหรือ”
เขากดฝ่ามือลงอย่างต่อเนื่อง ต้นไม้มหึมาเทียมฟ้านั้นกำลังถูกกดจนคดงอแล้ว!
ครั้งนี้รอบๆ ยอดเขาอนัตตาพลันเกิดแผ่นดินไหว
ลำแสงสายแล้วสายเล่าเคลื่อนไหวไหลเชี่ยวอยู่บนผืนดิน กอปรกันเป็นลวดลายค่ากลที่ลี้ลับซับซ้อน สี่ทิศรอบๆ มีเสาปราณหนึ่งสายพลันผุดขึ้นจากผืนดินโดยมียอดเขาอนัตตาเป็นศูนย์กลาง พวยพุ่งขึ้นฟ้า เหมือนกับน้ำตกที่ผุดขึ้นจากพื้น
เสาปราณสีสายแบ่งเป็นสีเขียว แดง ขาว ดำ
เสาปราณสีเขียวมีพลังชีวิตเอ่อล้น พลังชีวิตไร้สิ้นสุดปรากฏขึ้นมาจากด้านใน
เสาปราณสีแดงร้อนดั่งเปลวไฟ แก่นของเพลิงร้อนแรงที่ลุกไหม้โหมกระพือ
เสาปราณสีขาวคมกล้าดุร้าย จิตแห่งเหล็กกล้าซึ่งเผยประกายคมออกมาทำลายมิติ
เสาปราณสีดำยิ่งใหญ่มหึมา ธารธาราที่ยิ่งใหญ่ไพศาลรวมตัวกันเป็นเส้นเดียว
สิ่งที่ลอยขึ้นพร้อมกับเสาปราณสี่สายนี้ยังมียอดเขาอนัตตา
ทรายหลายสายเวียนวนพวยพุ่งขึ้น เลื้อยขดอยู่รอบๆ ยอดเขาอันนัตาเหมือนกับมังกรเหลืองหลายตัว ทำให้ภาพเงาของแผ่นดินนั้นยิ่งชัดเจนหนักแน่นกว่าเดิม
พลังห้าธาตุถูกโคจร ลวดลายค่ายกลขนาดยักษ์ห้าสายสี่เล็กหนึ่งใหญ่หมุนกลางอากาศ กอปรกันเป็นกลุ่มแสงห้ากลุ่ม แยกกันยึดครองทิศเหนือใต้ออกตกและตรงกลาง
ภายใต้ผลของค่ายกล ต้นไม้สูงเทียมฟ้าที่กำลังถูกฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอกดงอต้นนั้นฟื้นฟูพลังชีวิตและพละกำลังขึ้นมาใหม่ เริ่มยันฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอไม่ให้ตกลงมา
เยี่ยนจ้าวเกอมองค่ายกลที่ป้องกันยอดเขาอนัตตาด้วยความสนใจ จุ๊ปากชมเชย “ถึงแม้ตอนอยู่ในทะเลหวงเจียจะปรากฏขึ้นมาแวบเดียว แต่ก็ทราบถึงระดับค่ายกลของจักรพรรดิเอกภพแล้ว ไม่ธรรมดาจริงๆ วันนี้พอเห็นค่ายกลนี้แล้ว ยิ่งพิสูจน์ได้อย่างมากพอ ว่าเป็นผู้มีชื่อเสียงไร้บัณฑิตจอมปลอมโดยแท้ เพียงแต่ระดับพลังฝึกปรือในตอนนี้ของข้าไม่หมือนกับในอดีตแล้ว”
เขาส่ายหน้าด้วยความเสียดายอยู่บ้าง “น่าเสียดาย พวกเราไม่อาจสู้กันในการเปลี่ยนแปลงของค่ายกลซึ่งหน้าได้”
หวังผู่มองอยู่ไกลๆ “ถึงแม้ในตอนนั้นประมุขทิศบนจะทำลายที่อยู่ของจักรพรรดิแพรบนยอดเขาอัศจรรย์ แต่พลังของจ้าวเกอแข็งแกร่งมากพอ ทว่าถึงอย่างไรยอดเขาอัศจรรย์และยอดเขาอนัตตาก็มีความแตกต่างกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี