เสียงตวาดนั้นดังมาแต่กไกล
คลื่นเสียงกระจายไปทั่ว มิติความว่างเปล่าทั้งหมดในตอนนี้มีสภาพจับต้องได้ขึ้นมา ด้านบนเต็มไปด้วยรอยแตกหลายสายเหมือนกับภาชนะที่แตกร้าว
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากขบคิดในชั่วพริบตาเขาก็สงบจิตใจ ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ
แทบจะเป็นในเวลาเดียวกัน อีกด้านหนึ่งพลันมีแสงสว่างขึ้น แสงสีทองกะพริบ พุ่งไปยังที่ไกลด้วยความเร็วสูง
เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของภูมิปัญญาอันสมบูรณ์ เยี่ยนจ้าวเกอก็กระจ่างแจ้ง ‘คนจากแดนสุขาวดีศาสนาพุทธ เทียบกับระดับผลักเปิดประตูเซียนแล้วของสำนักเต๋า ดูจากท่าทางสมควรเป็นคะเตสมณะผู้หนึ่ง?’
การแบ่งระดับชั้นในการฝึกฝนของศาสนาพุทธค่อนข้างแตกต่างกับสำนักเต๋า อย่างเช่นคำเรียกอย่าง ‘พุทธ’ ‘โพธิ’ ‘อรหันต์’ เป็นคำยกย่อง ไม่ได้หมายถึงระดับ จึงยากจะอาศัยชื่อเรียกตัดสินพลังฝึกปรือของอีกฝ่าย
ดังนั้นตั้งแต่โบราณกาลเป็นต้นมา ยอดฝีมือที่สืบทอดศาสนาพุทธล้วนอาศัยความเคยชิน ใช้คำเรียกเหล่านี้มาบ่งชี้ถึงระดับชั้นของยอดฝีมือของศาสนาพุทธ และเปรียบเทียบกับระดับของสำนักเต๋า
คะเตสมณะหมายถึงยอดฝีมือศาสนาพุทธที่เทียบได้กับระดับจักรพรรดิเซียนจริงแท้ของสำนักเต๋า
ตอนนี้คะเตสมณะผู้นั้นพอถูกคนเผยร่องรอยก็คิดไปทันที กลายเป็นแสงพุทธสายหนึ่งหายไป
แต่ว่ามีประกายเพลิงสว่างขึ้น วาดผ่านความว่างเปล่า ติดตามไปด้วยความเร็วสูงในชั่วพริบตา
จิตพลังที่แฝงอยู่ด้านในเป็นคนที่ส่งเสียงเมื่อก่อนหน้า
เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งตามองไป เห็นนกตัวหนึ่งกระพือปีกบินสูงอยู่ในประกายเพลิง
‘วิชาลับในคัมภีร์เซียนหลิงกวงทะยาน…’ หลังจากมองดูอย่างละเอียด เยี่ยนจ้าวเกอก็กระจ่างแจ้ง
หงส์แดงมีอีกชื่อว่าหลิงกวง ส่วนเทพเจ้าหลิงกวง เป็นคำที่สำนักเต๋าใช้เรียกหงส์แดง
ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่มีวรยุทธ์ชื่อว่าคัมภีร์เซียนหลิงกวงทะยาน บรรจุจิตและหลักมรรคาของเทพเจ้าหลิงกวง ลี้ลับไม่ธรรมดา
วรยุทธ์ที่ยอดฝีมือโถงเซียนตรงหน้าผู้นี้ฝึกฝน เป็นคัมภีร์เซียนหลิงกวงทะยานนี่เอง
ความเหี้ยมหาญของลมปราณ เห็นได้ชัดว่าเป็นเป็นกษัตริย์เซียนลี้ลับที่ฝึกฝนวายุเซียนสำเร็จแล้ว ต่อให้จะมาจากโถงเซียน ระดับของพลังก็ทำให้คนไม่กล้าดูแคลน สงบนิ่งไร้กังวล มนุษย์ไม่อาจรบกวน
คัมภีร์เซียนหลิงกวงทะยานเดิมทีขึ้นเชื่อเรื่องการเคลื่อนย้ายมิติ เป็นหนึ่งในวรยุทธ์ที่ศึกษากาลเวลาและมิติช่องว่างจนถึงระดับลึกที่สุดในฟ้าดิน
กษัตริย์โถงเซียนผู้นี้ยังมีระดับเหนือกว่า ตอนที่ไล่ตามคะเตจากศาสนาพุทธที่หนีไปนั้น แค่อึดใจเดียวก็สามารถไล่ตามทันได้แล้ว
อีกฝ่ายเหาะเหินไปโดยไม่หันหลังกลับ กษัตริย์โถงเซียนที่กลายร่างเป็นหงส์แดงผู้นั้นแซงไปด้านหน้า ขัดขวางคนผู้นั้นไว้
จากนั้นก็มีฝ่ามือหนึ่งก็ยื่นออกมาจากในประกายเพลิง แม้ดูธรรมดา แต่เหมือนกับสามารถคว้าจับท้องฟ้าและจันทราได้ คิดจะจับแสงพุทธนั้นไว้กลางฝ่ามือ
แสงพุทธเคลื่อนไหวหมายจะหลบหลีก แต่ว่าเห็นแต่เพียงโลกเบื้องหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงกลุ่มหนึ่ง ไหนเลยจะยังมีทางออก
ในตอนนั้นเอง มิติที่ไกลแสนไกลอีกด้านหนึ่งก็มีคำสรรเสริญพระคุณดังขึ้น “นโมพระศรีอริยเมตไตรย”
คำสรรเสริญพระคุณพอดัง ในความว่างเปล่าอันมืดผิดพลันมีแสงพุทธระเบิดขึ้นด้วย
มีฝ่ามือที่เปล่งประกายสีทองอีกข้างหนึ่งยื่นออกมาจากในความว่างเปล่า คว้าใส่หงส์แดงสีแดงเพลิงนั้นเช่นกัน
“ไม่อยู่เหนือความคาดหมายของข้าจริงๆ นอกจากผู้เบิกทางที่อยู่ด้านหน้า ตัวหัวหน้าต้องอยู่ด้านหลัง” ภายใต้การครอบคลุมของเงาแสงที่เหมือนกับหงส์แดงนั้น เผยให้เห็นเงาร่างของบุรุษสายหนึ่ง เขาหัวเราะเย็นชาติดต่อกัน
บุรุษผู้นั้นภายนอกมองไปอายุไม่เกินสามสิบปี จมูกงองุ้มเหมือนเหยี่ยว ปีกจมูกสองข้างปรากฏรอยย่นล้ำลึก สายตาคมกริบถึงขีดสุด
พอเผชิญกับฝ่ามือพุทธที่เรืองแสงสีทอง เขาไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย ห้านิ้วกลายเป็นกรงเล็บแล้วพุ่งเข้าไป
ฝ่ามือยักษ์แสงพุทธเปลี่ยนแปลงท่ามุทรา ก่อเกิดกสภาวะเทวราชถลึงตา ปะทะกับหงส์แดงที่บินทะยานซึ่งเกิดจากจิตราเซียนของอีกฝ่าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี