ทวนพระอังคารไม่ได้กลับโลกซ้อนโลกมาระยะหนึ่งแล้ว ยามนี้พอฟังคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ เปลวเพลิงรอบตัวยักษ์ก็ส่ายไหวอย่างต่อเนื่อง
“คนรุ่นหลังน่ากลัวนัก…” ทวนพระอังคารส่ายหน้าติดต่อกัน กลับไม่สงสัยคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ
เขาถึงแม้จะไม่ถนัดการรับรู้ แต่ถึงที่สุดก็เป็นอาวุธเซียนไร้ช่องโหว่ แทบจะเทียบได้กับจักรพรรดิเซียนจริงแท้สำนักเต๋าคนหนึ่ง
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถปกปิดการรับรู้ของเขา จะมีสักกี่คนที่ทำได้
ยิ่งอย่าว่าแต่มายืนประจัญหน้ากันตรงๆ เขาดูออกว่าเยี่ยนจ้าวเกอแม้แต่มนุษย์เซียนยังไม่ใช่ ยังอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย อาศัยเพียงข้อนี้ ยืนยันว่าหน้าหลังตรงกัน และพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คนหนุ่มตรงหน้าไม่ธรรมดา ตอนที่พบกันเป็นครั้งแรกที่ที่บำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อย ไม่อาจเอามาเปรียบเทียบกันได้อีกแล้ว
เขากับหวังเจิ้งเฉิงนับได้ว่าเป็นคนรู้จักเก่า ครั้งที่สู้กับจักรพรรดิแพร หวังเจิ้งเฉิงยังมาเป็นสักขีพยาน ถึงแม้จะไม่ได้สนิทสนมกัน ความเห็นในหลายๆ เรื่องยิ่งมีความขัดแย้ง แต่พอทวนพระอังคารฟังว่าหวังเจิ้งเฉิงตกตายก็ทอดถอนใจ
“เจ้าคือลูกหลานของเยี่ยนซิงถางกับตี๋ชิงเหลียน ข้าได้ยินคนเล่าให้ฟังมาก่อน” เขาถอนใจคำหนึ่ง “แต่ข้าคิดไม่ถึงเลยว่ามารดาของเจ้าจะเป็นผู้สืบทอดของหูเยว่ซิน ต่อมายังทำเรื่องใหญ่โตขนาดนี้”
หวังเจิ้งเฉิงเป็นลูกศิษย์ของเจี่ยงเซิ่น อดีตราชันพระเสาร์ กษัตริย์ดินในตอนนี้ หูเย่วซินก็คือลูกศิษย์ของราชันพระพฤหัสบดีเซ่าจวินหวง
ก่อนที่ทวนพระอังคารจะถูกสะกดไว้ในหุบเหวเหมันต์บรรพกาล ได้ทำความรู้จักกับพวกเขามาก่อน
“มิน่าเจ้าถึงมาตามหาหมิงจาง” ทวนพระอังคารน้ำเสียงซับซ้อนอยู่บ้าง “ตอนนี้เขาใช่ว่าจะมีกะใจสนใจเรื่องอื่น แต่ว่าในเมื่อมารดาของเจ้าเป็นผู้สืบทอดของเซ่าจวินหวง บางทีอาจมีเหตุการณ์เหนือความคาดหมายก็ได้”
เยี่ยนจ้าวเกอพอฟังก็ฮึมเหิมขึ้น “ความหมายของท่านก็คือ…”
“ข้าเป็นคนไม่เกี่ยวข้องเช่นกัน เรื่องราวระหว่างหมิงจางกับเซ่าจวินหวางยากจะบอกกล่าวอย่างชัดเจน บางทีพวกเขาเองก็ใช่ว่าจะพูดให้กระจ่างได้ทั้งหมด” ยักษ์เพลิงที่กลายร่างมาจากทวนพระอังคารหมุนตัว สายตามองไปยังความว่างเปล่าที่อยู่ไกลออกไป “หมิงจางไม่ฟังคำเกลี้ยกล่อมของข้า ดื้อรั้นมุ่งหน้าไปยังที่อยู่ของเต๋านอกรีต หมายจะฆ่าเซียนพิศวงเต๋านอกรีตสองคนนั้นให้ได้ ข้ารู้สึกซาบซึ้ง แต่กลับเป็นห่วงยิ่ง”
“ต่อมาฟังว่าหลังจากเขาสังหารคนหนึ่งทิ้งแล้วพลันถอยออกมา ขณะที่้ข้าวางใจก็รู้สึกสงสัยอยู่บ้าง เป็นเพราะสั่วหมิงจางที่ข้ารู้จักไม่ใช่คนยอมแพ้ง่ายๆ” ใบหน้าของยักษ์เพลิงซ่อนอยู่ด้านหลังเปลวไฟ ดูซึมเซาอยู่บ้าง “จะต้องเกิดเรื่องอื่นๆ ขึ้น จึงทำให้เขาเปลี่ยนความคิดกลางคัน”
“ดังนั้นท่านจึงรีบมายังที่นี่?” เยี่ยนจ้าวเกอเว้นครู่หนึ่งก่อนจะถามต่อ “อภัยที่ข้าเสียมารยาท ท่าน…ทราบหรือไม่ว่าราชันพระอังคารมาที่นี่เพราะอะไร”
“เรื่องที่ทำให้เขาละวางสิ่งต่างๆ ไม่สนใจอะไรอีก มีอยู่เรื่องเดียว” ทวนพระอังคารหัวเราะเบาๆ พร้อมกับตอบ “เกี่ยวกับเซ่าจวินหวง”
เยี่ยจ้าวเกอถอนใจยาว ก่อนหน้านี้ความจริงเขาก็มีการคาดเดาคล้ายๆ กัน ไม่มีหลักฐาน เป็นเพียงความรู้สึก ถึงอย่างไรราชันพระอังคารก็ยึดติดกับการตามหาที่อยู่ของราชันพระพฤหัสบดีมาสองพันกว่าปีแล้ว
ตอนนี้ทวนพระอังคารที่เข้าใจราชันพระอังคารมากที่สุดก็มีการคาดเดาคล้ายกัน เช่นนั้นความเป็นไปได้ที่จะถูกต้องก็มีมากกว่าแปดส่วน
“ผู้อาวุโส ราชันพระอังคารกับราชันพระพฤหัสบดี…เป็นคู่รักกันหรือ” เยี่ยนจ้าวเกอหยั่งถามดู
“คู่รัก?” เสียงของทวนพระอังคารลังเลอยู่บ้าง เรียบเรียงถ้อยคำครู่หนึ่งค่อยตอบว่า “ถ้าในอดีตก็นับว่าใช่…”
เยี่ยนจ้าวเกอจิตใจเต้นระทึก ใบหน้าฉายแววหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “ในอดีต…”
“เรื่องมันยาวนัก” ยักษ์เพลิงสั่นศีรษะ สายตาของเขายังคงมองไปที่ไกล “หมิงจางรีบมายังที่นี่โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เซ่าจวินหวงอาจจะอยู่นี่”
เยี่ยนจ้าวเกอนวดขมับของตัวเองเบาๆ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าราชันพระอังคารสั่วหมิงจางจะทราบถึงตำแหน่งของสถานที่แห่งนี้จากปากของยอดฝีมือโถงเซียนที่ถูกเขาจับเป็น เช่นนั้นปัญหาก็มาแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี