ในเมฆดาราปฐมกำเนิด มิติเวลาเปลี่ยนเป็นยากคาดเดา แตกต่างจากโลกภายนอก
ทวนพระอังคารจำเป็นต้องเอาตัวเองมาอยู่ด้านใน หลังจากพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก็ปรับเปลี่ยนการดำเนินพิธีกรรมของตัวเอง รอมีเค้าลาง ทุกอย่างคำนวณอย่างดีจึงค่อยลงมือ
เปลวเพลิงหลายสายลุกไหม้ตัดสลับกันในความว่างเปล่า กลายเป็นลวดลายค่ายกล
ยักษ์เพลิงที่กลายร่างมาจากทวนพระอังคารติดตามไป
พายุเพลิงม้วนพัดไปทั่วสี่ทิศ จากนั้นก็เห็นทวนวงเดือนเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในเพลิงโหม
ทวนพระอังคารเผยร่างแท้ เคลื่อนไหวกลางอากาศด้วยตัวเอง จิตพลังอันยิ่งใหญ่ที่เหมือนเบิกฟ้าดินได้ ทำลายมิติเวลาที่ปั่นป่วน ขีดเขียนตราอาคมสายหนึ่ง…เป็นตราอาคมสีทองจางๆ ชิ้นหนึ่ง
ตราอาคมสีทองพุ่งเข้าไปในลวดลายอาคมที่เกิดจากการตัดสลับกันของเพลิงโหม สองสิ่งผสมกันพลันมีแสงสว่างกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าขยายออกมารอบๆ
จักรพรรดิอาทิตย์ยืนอยู่ด้านข้าง จับตาดูสภาพแวดล้อมรอบๆ อย่างระมัดระวังเพื่อคุ้มกันทวนพระอังคาร แต่ว่าในตอนที่เห็นแสงสว่างหลายกลุ่มสลายไป ราวกับหยุดมิติเวลาที่สับสนทั้งหมด ในดวงตาของจักรพรรดิอาทิตย์ก็ฉายแววถอนใจชมเชย ‘แยบยลเป็นอย่างยิ่ง’
ทวนพระอังคารกลายเป็นร่างของยักษ์เพลิงใหม่ ยืนอยู่กลางความว่างเปล่า เริ่มอดทนรอคอย
เวลาในสถานที่แห่งนี้ยากจะกะประมาณ ไม่ทราบผ่านไปนานเท่าไร มิติเวลาที่เหมือนผนึกตัวพลันเกิดความปรวนแปรอย่างรุนแรง
เปลวเพลิงที่น่าอัศจรรย์ผุดขึ้นมากจากความว่างเปล่า ทะลุทะลวงมิติ ผนึกเป็นตราอาคมสายหนึ่งด้านหน้าทวนพระอังคาร
ทวนพระอังคารเพ่งสมาธิมอง เปลวเพลิงปรากฏขึ้นแล้วหายไปในทันที สูญหายไปอย่างรวดเร็ว
แต่ทวนพระอังคารมีแผนเป็นมั่นเหมาะ พูดกับจักรพรรดิอาทิตย์ว่า “ไปเถอะ”
“มิติเวลาด้านในเมฆดาราปฐมกำเนิดนี้เปลี่ยนแปลงยากหยั่งคาด บางทีอาจจะต้องเดินทางเป็นเวลานาน”
จักรพรรดิอาทิตย์พยักหน้า “เรื่องราวที่อยู่ในความคาดหมาย สามารถติดต่อกับราชันพระอังคารได้ถือเป็นความยินดีเกินกว่าที่คิดไว้แล้ว น่าเสียดายที่กษัตริย์ดินกับกษัตริย์กระบี่ยังคงไม่ตอบกลับ”
ขณะที่พูด คนทั้งสองก็ออกเดินทางต่อ
พวกเขาจำเป็นต้องแข่งกับเวลา ไม่อย่างนั้นในสถานการณ์ที่การเปลี่ยนแปลงของมิติเวลาในเมฆดาราปฐมกำเนิดเร็วเกินไปและมากเกินไป การช่วยเหลือจากเบาะแสที่ได้มาก่อนหน้าจะยิ่งมายิ่งน้อยแล้ว
เพียงแต่ว่าพวกเขาระวังตัวกว่าเดิม หลีกเลี่ยงไม่ให้เจอกับคนในโถงเซียน
เป็นเพราะตอนนี้ต้องให้ทวนพระอังคารแยกแยะเส้นทาง ดังนั้นเขาจึงไม่เหมาะจะซ่อนตัวอยู่ในแสงเทียนจากโคมในคันฉ่องของจักรพรรดิอาทิตย์ต่อ
ด้วยเหตุนี้ถ้าเกิดพบคนจากโถงเซียนเข้าตอนเคลื่อนไหวอย่างโจ่งแจ้งอยู่ในเมฆดาราปฐมกำเนิด จะเกิดเหตุการณ์แทรกซ้อนทันที
นอกจากจะต้องเดินทางให้เร็วที่สุด ยังต้องปกปิดร่องรอย ระดับความลำบากไม่ต้องพูดก็เป็นที่ทราบได้
มิหนำซ้ำ การเปลี่ยนแปลงของมิติเวลาในเมฆดารากำเนิดเดิมทีก็มีแต่ความอันตรายอยู่แล้ว หากไม่ระวังแม้แต่นิดเดียว แม้จะเป็นยอดฝีมือระดับเซียนก็อาจจะถูกมิติเวลาอันสับสนบดขยี้ให้ตายทั้งเป็น ชีวิตดับสิ้นไปได้
โชคดีที่สองคนร่วมทาง แบ่งเบาภาระและช่วยเหลือกันได้ ทันใดนั้นทวนพระอังคารพลันหยุดฝีเท้า “พวกเราถึงแล้ว”
จักรพรรดิอาทิตย์ได้ยินจิตใจก็ฮึกเหิม
ทวนพระอังคารกลายเป็นทวนวงเดือนสีแดงฉาน จากนั้นก็วาดกลางอากาศครั้งหนึ่ง เปลวเพลิงแดงฉานทิ้งร่องรอยไว้กลางอากาศ เนิ่นนานไม่ยอมสลาย ผนึกตัวกันกลายเป็นยันต์อาคมขนาดมหึมาครอบฟ้าคลุมดินใบหนึ่ง เหมือนกับทะเลเพลิง
จากนั้นบนยันต์อาคมสีแดงเพลิงนี้ก็มีแสงอัคคีหลายสายสว่างขึ้น ก่อนจะผนึกรวมกันเป็นจุดเดียว
ในมิติเวลาคล้ายปรากฏหอคอยยอดแหลมหอหนึ่ง ทั้งเหมือนกับเส้นทางเส้นหนึ่ง มิติตรงปลายสุดเริ่มกลายเป็นรูอย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็เห็นลำเพลิงหลายสายทะลักออกมาจากในร่องแยกที่เปิดเป็นรูนั้น
ความร้อนที่เหนือกว่าทวนพระอังคารรั่วไหลออกมาจากด้านใน ทำให้ผู้คนรู้สึกสั่นสะท้าน
แม้จะเป็นเซียนจริงแท้สำนักเต๋าเช่นจักรพรรดิอาทิตย์ ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ร่องแยกสายนั้น แค่ในวินาทีที่ร่องแยกนั้นปรากฎ ลำเพลิงทะลักก็รู้สึกเหมือนอวัยวะภายในลุกไหม้ แสบร้อนยากทนทานแล้ว
ความสามารถในการรับรู้ของตัวเองในตอนนี้เหมือนกับมลายหายไปหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี