ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 1308

ตอนแรกเยี่ยนจ้าวเกอนึกว่า เจี่ยนซุ่นหวาราชันพระราหูผู้นั้นตายตอนอยู่ในระดับพลังฝึกปรือระดับเซียนลี้ลับสงบนิ่ง แค่หมายตาจอมมารระดับจ้าวสวรรค์ ก็เสี่ยงมากพออยู่แล้ว

แต่ดูจากตอนนี้ นางยังกล้าหาญและบ้าคลั่งกว่าที่คิดไว้

มารสวรรค์ปัจฉิมธรรม ในสิบสองเทพมารสวรรค์ เป็นตัวตนที่พิเศษถึงขีดสุด

เหมือนกับที่มารสวรรค์ปฐมกำเนิดเคยสู้กับเทวกษัตริย์บรรกำเนิดสายหยกพิสุทธิ์ มารสวรรค์ปัจฉิมธรรมกับเทวกษัตริย์รัตนวิเศษก็เป็นสัญลักษณ์ของสภาพแห่งจุดจบที่เปลี่ยนจาก ‘มี’ เป็น ‘ไม่มี’ เหมือนกันด้วย

ถ้าไม่ใช่เพราะเทวกษัตริย์รัตนวิเศษหลุดพ้นไปแล้ว เช่นนั้นในตอนที่จุดจบมาถึง มารสวรรค์ปัจฉิมธรรมจุติจริงๆ สองฝ่ายย่อมต้องสู้กัน

แต่ว่าในทางกลับกัน เป็นเพราะเทวกษัตริย์รัตนวิเศษได้หลุดพ้นไปแล้ว การจุติของมารสวรรค์ปัจฉิมธรรมจึงราบรื่นสุดขีด แค่รอให้เวลาสุดท้ายมาถึง

แต่ว่าก่อนหน้านั้น ตามปกติแล้ว มารสวรรค์ปัจฉิมธรรมไม่สมควรโผล่มา

เป็นเพราะสาเหตุนี้ จึงแตกต่างจากมารทองแกที่รอคืนชีพหลังจากดับสูญ คิดจะชิงอำนาจของมารสวรรค์ปัจฉิมธรรม เป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้

ทว่าพอเห็นคมดาบที่เกิดจากควันมารเพลิงทมิฬ สัมผัสได้ถึงจิตพลังที่หลักเกณฑ์ทั้งหลายไม่คงอยู่ วันสิ้นโลกมาถึงด้านใน เยี่ยนจ้าวเกอก็ทราบว่า เจี่ยนซุ่นหวาราชันพระราหูเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะทำสำเร็จ

กลับไม่ได้ได้บอกว่ามีโอกาสแทนที่มารสวรรค์ปัจฉิมธรรม

สองฝ่ายมีความแตกต่างด้านพื้นฐานมหาศาลเกินไป

แต่ว่านางก็ชิงอานุภาพส่วนหนึ่งของบรรพมารลำดับที่หกมาปูเส้นทางให้แก่ตัวเองได้จริงๆ

แต่ว่าภัยร้ายที่อยู่ด้านใน ทำให้คนที่คิดถึงต้องสยิวกายขึ้นมา

อย่างเช่น มีโอกาสชักนำบรรพมารลำดับที่หกซึ่งเป็นสัญลักษณ์การสิ้นญยของทุกอย่างมาจุติหรือไม่?

เยี่ยนจ้าวเกอซึ่งที่แล้วมาไม่ถือสากับการใช้ความคิดในแง่ร้ายที่สุดไปประเมิณคนอื่น ถึงขั้นกังวลว่า นี่ความจริงเป็นการโต้กลับของเหล่ายอดฝีมือระดับสูงสุดในนพยมโลกต่อการกระทำที่จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋กับจักรพรรดิโกวเฉินชี้แนะให้เจี่ยนซุ่นหวาไปแทรกซึมนพยมโลก

เป็นไปได้เช่นกันว่า พวกจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋หรือว่าใครบางคน เดิมทีมีแผนการนี้ เพื่อถ่วงเวลาการจุติของมารสวรรค์ปัจฉิมธรรม?

แต่ไม่ว่าจะเป็นความเป็นไปได้ไหน หลังจากเจี่ยนซุ่นหวาได้ทำเรื่องใหญ่ระดับนี้ไปแล้ว ผลลัพธ์ตอนนี้กลับกลายเป็นเฟิงอวิ๋นเซิงต้องมาแบกรับปัญหาแทนนาง

ร่างของสตรีนางหนึ่งค่อยๆ ลอยขึ้นมาจากในทะเลเพลิงสีดำแกมน้ำงินที่มีควันดำลอยอยู่

นางมัดผมดำเป็นหางม้า อาภรณ์ขาวราวหิมะระพื้น ดาบยาวสีดำอยู่ในมือ

นางชี้คมดาบ เป้าหมายคือหลิงชิง

เป็นฟิงอวิ๋นเซิงที่หายไปหลายปี!

ในม่านตาสองข้างของนางไม่ได้ทอแสงจากพลังย้อนอาทิตย์ย้อนจันทร์ในตอนที่ลงมือกับคนเหมือนเมื่อครั้งกระโน้นอีกแล้ว แต่กระจ่างใส ทั้งยังหนักแน่น เหมือนกับธารน้ำแข็งที่จับตัว

เหมือนกับตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอได้เจอนางเป็นครั้งแรกในโลกแปดพิภพ

“…ท่านไม่ใช่เจี่ยนซุ่นหวา” หลิงชิงสบตากับอีกฝ่าย “เจี่ยนซุ่นหวาล้มเหลวแล้ว สถานการณ์ในตอนนี้เป็นท่านสร้างขึ้น?”

เฟิงอวิ๋นเซิงกล่าวอย่างราบเรียบ “ราชันพระราหูเป็นบุคคลระดับใด ผู้เยาว์ได้กลับเป็นตัวของตัวเอง กลับสำนักได้อีกครั้ง เป็นโชคดีมหาศาล ไหนเลยมีกำลังเหลือไปสนใจวัตถุอื่น? การคิดแผนการ เดิมทีไม่ใช่เรื่องที่ข้าถนัด”

หลังจากหลิงชิงสบตากับนางเนิ่นนาน ก็พยักหน้าเล็กน้อย “เป็นเจี่ยนซุ่นหวาพันไหมใส่ตัวเอง? แต่เจ้าเอาชนะเจี่ยนซุ่นหวาได้ ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ หากเปลี่ยนกัน ให้ข้าไปอยู่ในตำแหน่งของเจ้า ไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะนางได้”

“ราชันพระจันทร์ชมเกินไปแล้ว ผู้เยาว์เพียงโชคดีเท่านั้น” เฟิงอวิ๋นเซิงสีหน้าไม่มีความภาคภูมิ เยือกเย็นเหมือนปกติ

ก่อนหน้านี้นางได้เจอร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอ จึงเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้คร่าวๆ แล้ว

ฝ่ามือปานหยกขาวจับดาบยาวสีดำสนิทอย่างมั่นคง ชี้ที่หลิงชิง เฟิงอวิ๋นเซิงกล่าวน้ำเสียงราบเรียบ “วันนี้ได้พานพบ ไม่อาจไม่สู้กับผู้อาวุโส ที่นี่มีสำนักของข้า มีสามีของข้า ข้าจะต้องสู้เพื่อพวกเขา!”

หลิงชิงกล่าว “เจ้ามีความมุ่งมั่นของจ้า ข้าเองก็มี มาสู้กันให้รู้ผลเถอะ ถึงอย่างไรเจ้าเองก็ยังไม่ใช่บรรพมารลำดับสุดท้าย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี