ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 1320

“พูดถึงราชันพระอาทิตย์กับกษัตริย์เร้นลับ…” เยว่เจิ้นเป่ยมองเยี่ยนจ้าวเกอ “ฟู่แพรงามตอนแรกแม้จะเป็นเพราะกษัตริย์เร้นลับ แต่ก็ถือว่าประสบภัยเพราะราชันพระอังคารเช่นกัน”

“ข้าจำได้ว่าเจ้าเคยบอกว่า ถ้าฟู่แพรมงามเดินบนเส้นทางมีรัก ราชันพระอาทิตย์อาจจะทราบวิธีทำให้เขาก้าวหน้าต่อ”

จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำตายด้วยคมหอกของทวนพระอังคาร จักรพรรดิแพรงามสองคนปัจจุบันเหลือแค่จักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาว

ดังนั้นจึงไม่มีการแบ่งแยกอาภรณ์ดำอาภรณ์ขาวอีก ในโลกมีแค่ฟู่อวิ๋นฉือจักรพรรดิแพรงามคนเดียว

นิวาสสถานส่วนหนึ่งของยอดเขาอัศจรรย์ หลุดพ้นจากโลกซ้อนโลก ออกจากจักรวาลสำนักเต๋าพร้อมกับพวกเยี่ยนจ้าวเกอ

ในนี้มีผาบัวแดงเป็นผู้นำ ท่าทีของฟู่อวิ๋นฉือจักรพรรดิแพรไม่ต้องกล่าวมากความ

ถึงแม้การแบ่งจากหนึ่งเป็นสองในตอนแรกจะเป็นฝีมือของเยี่ยนจ้าวเกอ แต่การกลับมารวมเป็นหนึ่งได้ในตอนนี้ ฟู่อวิ๋นฉือยังแสดงความขอบคุณเยี่ยนจ้าวเกอ

น้ำใจนี้เขาจดจำไว้ ส่งผลต่อตัวเลือกของเขาโดยตรง สุดท้ายก็ออกจากโลกซ้อนโลก

ทว่าปัญหาหนึ่งยังวางอยู่ตรงหน้า

นั่นก็คือ เขาที่ผ่านวิกฤติถูกธาตุไฟเข้าแทรก จะเดินบนครรลองที่ถูกต้อง เพื่อก้าวเดินบนเส้นทางมรรคายุทธ์อีกครั้งได้อย่างไร?

ถ้าเปลี่ยนไปเดินบนเส้นทางไร้รัก เส้นทางจะชัดเจนยิ่ง

ลบเลือนการดำรงอยู่ของฟู่ถิงและเมิ่งหวานบุตรีสองคน หาหมัดแปลงกำเนิด หลอมเปลี่ยนเมฆแปลงกำเนิด

ดังนั้นเขากับเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกจึงเป็นศัตรูโดยธรรมชาติ มีท่านก็ต้องไม่มีข้า

ถ้าเปลี่ยนไปเดินบนเส้นทางมีรัก อนาคตไม่แน่นอน

กระนั้นกษัตริย์เร้นลับในฐานะผู้ริเริ่ม หรือก็คือเกาหานราชันพระอังคาร สมควรมีวิธีการแก้ไขสถานการณ์ในปัจจุบัน

ถึงอย่างไรความตั้งใจแรกของเขาคือการกำจัดการแทรกซึมของโถงเซียนต่อโลกซ้อนโลก ต่อภายในสำนักเต๋าสายหลัก ไม่ได้มีความแค้นส่วนตัวกับฟู่อวิ๋นเซิง จึงต้องการทำลายเส้นทางก้าวหน้าของอีกฝ่าย

วิธีการแก้ไขของเขา เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเตรียมให้จักรพรรดิแพรเปลี่ยนมาเดินบนเส้นทางมีรัก

ถึงอย่างไรตอนที่เขาวางแผนเล่นงานจักรพรรดิแพร เมฆแปลงกำเนิดก็ยังไม่ปรากฏ มิหนำซ้ำยังไม่อาจยืนยันได้ว่าจะโผล่มาตอนไหน

ด้วยนิสัยของเกาหาน สมควรไม่เอนเอียงไปทางตัวเลือกที่มีตัวแปรใหญ่เกินไป

สำหรับจักรพรรดิแพรในปัจจุบัน ทางเกาหานเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะมีวิธีจัดการปัญหา

หลังจากจักรพรรดิแพรเข้าใจสถานการณ์แล้ว ก็มีความคิดต่อเรื่องนี้อย่างคร่าวๆ แต่สุดท้ายก็ยังเลือกออกมาพร้อมกับพวกเยี่ยนจ้าวเกอ

เป็นผลลัพธ์ที่ใช้อารมณ์ไปบ้าง แต่เกี่ยวข้องกับนิสัยในตอนนี้ของเขา จะว่าไปแล้วอาจกล่าวได้ว่าเป็นฟ้ากลั่นแกล้งคน

“ตามการสันนิษฐานของข้า สมควรเป็นเช่นนี้” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างใคร่ครวญ “นอกจากนี้ถ้าหากบอกว่าก่อนหน้านี้ไม่มีวิธี เช่นนั้นตอนนี้หลังจากทราบว่ากษัตริย์เร้นลับเป็นร่างแยกของราชันพระอาทิตย์ ข้ากลับมีการคาดเดาส่วนหนึ่ง”

“อ้อ?” เยว่เจิ้นเป่ยมองเยี่ยนจ้าวเกอ

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “ตอนข้าออกท่องโลก ได้เจอคัมภีร์ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดไม่สมบูรณ์ อาจารย์ลุงก็ทราบแล้ว”

“นอกจากคัมภีร์หยินหยางขั้วกำเนิดที่ไม่สมบูรณ์แล้ว ยังมีคัมภีณ์โบราณกระจัดกระจายส่วนหนึ่งซึ่งมาจากก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ไม่ใช่คัมภีร์วรยุทธ์ เพียงแต่เป็นการบันทึกของคนโบราณ”

เยว่เจิ้นเป่ยพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้ส่งเสียง

เยี่ยนจ้าวเกอว่าต่อ “ไม่กี่ประโยคในนั้น ได้กล่าวถึงวิชาของผู้สืบทอดกระแสตรงสายเอกพิสุทธ์โดยบังเอิญ ชื่อว่า ‘ละน้ำใจพึ่งพาตนเอง’”

“ละน้ำใจพึ่งพาตัวเอง?” เยว่เจิ้นเป่ยทวนอีกรอบ

สุดท้ายเขาส่ายหน้าอย่งจนปัญญา “คนอื่นๆ เดินบนเส้นทางฝึกสามพิสุทธิ์ร่วมกัน ส่วนใหญ่หวังสูงเกินไป พอเจ้าเดินจึงนับว่าไม่ทำให้ความสามารถเสียเปล่า”

“อาจารย์ลุงเยว่ชมเกินไปแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างหน้าด้าน

หลังจากสนทนากับเยว่เจิ้นเป่ยสักพัก คนทั้งสองก็ออกจากหอเซียนม่วง เดินทอดน่องในจักรวาลในตำหนักโอสถ มุ่งหน้าไปยังมหาสมุทรแสงนั้น

มหาสมุทรแสงขณะนี้เริ่มแผ่ออก เพียงแต่เขตแดนยังคงพร่าเลือนปรวนเแปร ยากจะสร้างความมั่นคง

ในทะเลแสง เขตมากมายบนโลก้อนโลกที่ถูกดึงออกมาเริ่มกลับคืนสู่สภาพเดิม หากแต่ไม่อาจกำหนดเขตแดน ถูกแยกออกเป็นชิ้นส่วนที่เป็นเอกเทศน์ ไม่ได้เชื่อมโยงกัน

คนบนโลกซ้อนโลกที่ก่อนหน้านี้รวมตัวอยู่ด้วยกัน ขณะนี้แยกห่าง กลับคืนสู่มิติเวลาซึ่งที่อยู่ของตัวเองอยู่

คนธรรมดายังคงไม่รู้สึกตัว จอมยุทธ์ระดับกลางไปจนถึงต่ำซึ่งมีพลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำ ส่วนใหญ่เริ่มรู้สึกตัวจากสูงไปถึงต่ำ

เยี่ยนจ้าวเกอในฐานะผู้ควบคุมในปัจจุบันของตำหนักโอสถ ย่อมเคลื่อนที่ไปยังมิติเวลาแต่ละแห่งได้

ก่อนหน้านี้เฟิงอวิ๋นเซิงถูกเขาส่งเข้าไปในมิติเวลาที่อารามคงมายาแห่งเขาหอเมฆาอยู่ และได้ปลุกให้อวี่ลั่วตื่นขึ้นก่อน

ตอนนี้เยว่เจิ้นเป่ยไปยังมิติเวลาที่เขานครหยกอยู่ด้วยตัวเอง หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอรับเฟิงอวิ๋นเซิงแล้ว ก็พากันมุ่งหน้าไปยังผาบัวแดง

เยี่ยนจ้าวเกอเตรียมจะพูดคุยกับฟู่ถิงและเหอซีสิง หลังจากเฟิงอวิ๋นเซิงได้พบกวนอวี่ลั่วแล้ว นอกจากสหายในเขากว่างเฉิงของตัวเอง ย่อมต้องการเจอเมิ่งหวาน

“พวกท่านเฉินคอยดูแลอวี่ลั่วอยู่” หลังจากพบกันแล้ว เฟิงอวิ๋นเซิงก็สงบเยือกเย้น บอกเล่าอย่างรวบรัด

เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็ไม่กล่าวอะไรมาก เปลี่ยนไปพูดถึงเรื่องอื่นๆ เพื่อดึงความสนใจของนาง “จริงด้วย ข้าได้เห็นคำพูดที่เจ้าทิ้งไว้บนนพยมโลกในตอนนั้นแล้ว”

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี