ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกได้ยินคำพูดของเกาชิงเสวียน ก็คารวะครั้งหนึ่ง “ใต้เท้ากษัตริย์ลี้ลับเกรงใจแล้ว ข้ากับบิดาหวังว่าจะได้พบท่านกับอาจารย์อารุ่นปู่หลงเช่นกัน”
เกาชิงเสวียนพยักหน้า พวกเยี่ยนจ้าวเกอบอกลา ผละจากนิวาสสถาน
พวกเขาทราบว่า ต่อจากนี้ระหว่างเกาชิงเสวียนกับกษัตริย์เถายังต้องการคุยกัน
ถึงแม้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะไม่คิดว่า กษัตริย์ลี้ลับสามารถเปลี่ยนความคิดในตอนแรกของกษัตริย์เถาได้ก็ตาม
หลังออกจากนิวาสสถาน เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ได้รั้งอยู่นาน บอกลาหลงซิงเฉวียน หลงเสวี่ยจี้ กับจักรพรรดิสัญญะเมฆ จากนั้นก็ออกไปพร้อมกับเกาเสวี่ยโพ
ในเมื่อตัดสินใจได้แล้ว ทางนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอีก ดำเนินการได้ทันที
ดูจากภายนอก เกาเสวี่ยโพเพียงพาฟู่อวิ๋นฉือจักรพรรดิแพรออกท่องเที่ยวในมรกตท่องฟ้า เหมือนกับดื่มดำทิวทัศน์ของที่แห่งนี้
ฟู่อวิ๋นฉือจักรพรรดิแพรตอนแรกแม้ว่าจะออกจากโลกซ้อนโลกพร้อมพวกเยี่ยนจ้าวเกอ แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสายเอกพิสุทธิ์ มีความเป็นตัวของตัวเองสูงกว่า
เมื่อมีเกาเสวี่ยโพพาท่องเที่ยวในมรกตท่องฟ้า ก็ไม่ได้สะดุดตานัก
ไม่มีใครยืนยันได้ว่า ฟู่อวิ๋นฉือคิดเปลี่ยนใจมาเข้ากับมรกตท่องฟ้าหรือไม่
เยี่ยนจ้าวเกอเร้นกายในที่ลับ จัดการแผนของตัวเองอย่างมีลำดับขั้นเหมือนตอนยังอยู่บนโลกซ้อนโลก
ร่างของเขาอยู่ในแขนเสื้อของเกาเสวี่ยโพ ขีดเขียนยันต์เรืองแสงหลายสาย
จากนั้นยันต์ก็กลายเป็นโปร่งแสงไร้รูปร่างกลางอากาศ ลอยกระจายไปยังสถานที่ต่างๆ บนโลกซ้อนโลก กินพื้นที่นับล้านล้านลี้
“แยบยลนัก พอได้เห็นด้วยตาตัวเอง ก็ไม่ธรรมดาจริงๆ” เกาเสวี่ยโพทางหนึ่งคุยกับฟู่อวิ๋นฉือเหมือนไม่มีเรื่องราวใด ทางหนึ่งสังเกตการเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอ หลังจากมองดูแล้วก็ถอนใจชมเชย
เขาแสวงมรรคาด้วยการฝึกกระบี่ แต่เปรียบเทียบกันแล้ว ไม่ได้ฝักใฝ่ในการฝึกกระบี่เหมือนกับหลงเสวี่ยจี้น้องชายของตนเอง
วรยุทธ์อื่นๆ ไปจนถึงศาสตร์แต่ละศาสตร์เช่น ค่ายกล วิชาโอสถ เกาเสวี่ยโพก็ศึกษาเช่นกัน หนำซ้ำยังมีระดับไม่ตื้นเขิน
ทว่าขณะเขามองดูเยี่ยนจ้าวเกอขีดเขียนลวดลายยันต์แต่ละรูปแบบ ยังเกิดความรู้สึกตาลาย พอจะฝืนเห็นถึงความลี้ลับของลวดลายยันต์ที่เยี่ยนจ้วเกอเขียนได้บ้าง แต่เข้าใจเพียงครึ่งเดียว
“อาจารย์ลุงเกาชมเกินไป” เยี่ยนจ้าวเกอลดเสียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “จริงด้วย ยังไม่ได้ยินดีกับท่านที่ได้ผลักเปิดประตูเซียนฝ่าภัยพิบัติมนุษย์เซียน เลื่อนสู่ระดับเซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่วสำเร็จเลย”
เกาเสวี่ยโพยิ้ม “ข้าแก่ชราแล้ว ยังไงก็ต้องกระทำ ไม่น่ายินดีแต่อย่างไร ทำให้พวกเจ้าเห็นเรื่องน่าหัวร่อเสียมากกว่า”
ฟู่อวิ๋นฉือได้ยินการส่งกระแสเสียงระหว่างพวกเขา ก็เอ่ยขึ้นทันทีว่า “พี่ร่วมเส้นทางเกาไหนเลยกล่าวเช่นนั้น ท่านหล่อเลี้ยงกระบี่มีผลสำเร็จ ไม่เคยโอ้อวด แต่ลองได้แสดงออกมา ผู้คนต้องตกตะลึง ปัจจุบันเกรงว่าจะเข้าใกล้ระดับเซียนลี้ลับสงบนิ่งยิ่งกว่าข้า ท่านกล่าวแบบนี้ ทำให้ข้ารู้สึกละอายใจจริงๆ”
หลายปีก่อนหน้านี้ ในที่สุดมรกตท่องฟ้าก็มีจักรพรรดิเซียนจริงแท้เพิ่มมาคนหนึ่ง เป็นเกาเสวี่ยโพ บุตรคนโตของกษัตริย์ลี้ลับเกาชิงเสวียนกับหลงซิงเฉวียนจักรพรรดิน้ำพุ
เขาสำเร็จเป็นระดับประมุขมามากกว่าพันปีแล้ว
คำนวณอายุ ต่อให้สู้หวังเจิ้งเฉิงและเยว่เจิ้นเป่ยไม่ได้ แต่ก็แก่กว่าฟู่อวิ๋นฉือ
และยิ่งแก่หลงเสวี่ยจี้ที่เป็นน้องชายมากกว่า
ที่ก่อนหน้านี้ติดอยู่ในระดับประมุขมาโดยตลอด ความจริงเป็นเพราะเขากำลังฝึกฝนวิชาซ่อนคมหล่อเลี้ยงกระบี่อันเป็นวิชาลับสยเหนือพิสุทธิ์ พันปีดุจดั่งหนึ่งวัน
วิชานี้ขณะที่ทำให้ผู้ฝึกกระบี่ติดอยู่ในระดับปัจจุบัน ก็สั่งสมและขัดเกลาความคมกล้าของตนเองอย่างต่อเนื่อง
รอกระบี่ทำลายผนึก ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน ก็จะมีโอกาสทำลายอุปสรรคในระดับปัจจุบันเพิ่งขึ้นกว่าเดิม
มิหนำซ้ำ ประสิทธิผลด้านบวกนี้ ถึงขั้นที่ดำเนินไปถึงระดับต่อไปไม่มากก็น้อย ประหยัดเวลาในการมุ่งสู่ระดับต่อไป
ตราบใดที่เงื่อนไขเอื้ออำนวย ยอดฝีมือสายเหนือพิสุทธิ์จำนวนหนึ่งต่างฝึกฝนวิชานี้ รวมถึงหลงจักรพรรดิน้ำพุที่มาจากสายหยกพิสุทธิ์ด้วย
กระนั้นวิชานี้ก็ฝึกฝนได้ยาก ผู้ที่ฝึกฝนสำเร็จมีเพียงไม่กี่คน ส่วนใหญ่ถึงขั้นที่อาจทำร้ายตัวเอง
โดยพื้นฐานสามารถกล่าวได้ว่า คนที่ฝึกฝนวิชาลับซ่อนคมหล่อเลี้ยงกระบี่ได้อย่างปลอดภัย ล้วนอาศัยศักยภาพและขีดความสามารถในการผลักเปิดประตูเซียนของตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี