“คีบบุปผาแย้มยิ้ม…ผู้สืบทอดของพระมหากัสสปะแห่งแดนอภิรดีศูนย์กลางหรือ?” เยี่ยนจ้าวเกอถือม้วนหนังสือ อีกมือหนึ่งทำท่ามุทรา ทิ่มใส่อากาศเบาๆ
แสงสว่างหมุนวนในวังวนหยินหยาง สุดท้ายกลายเป็นกลีบดอก ทำร้ายเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้
แต่ว่ารูปหยินหยางที่เกิดจากการหล่อเลี้ยงของพลังแห่งค่ายกลก็สูญสลายเพราะสาเหตุนี้เช่นกัน
เมื่อโจมตีไม่ได้ พระโพธิสัตว์อุทุมพรก็ได้แต่ถอนใจ
ตรงหน้าเฟิงอวิ๋นเซิงเข่นฆ่าเข้ามาถึงในพริบตา ประกายดาบสีดำสนิทกวาดอากาศ ส่องสะท้อนจนแสงเครื่องเคลือบบนร่างของเหล่าสมณะศาสนาพุทธต่างเปลี่ยนเป็นมืดหม่นลง
เยี่ยนจ้าวเกอประสานมุทราสองฝ่ามือ เสียบม้วนหนังไว้ตรงกลาง ค่ายกลเก้างามเจ็ดวิเศษคุมหยินหยางโคจร เสาแสงค้ำฟ้าเก้าต้นกับเมฆดาราพร่างพราวเจ็บกลุ่มลอยจมพร้อมกันขณะที่ลวดลายค่ายกลเปลี่ยนแปลง
เพิ่มแรงกัดดันบนร่างของพวกนักบวชฮุยอั้นให้ยิ่งมายิ่งมาก
สมณะศาสนาพุทธกระตุ้นพลังต้านทาน เกาหาน หลิงชิง ชื่อหลานเต้าหยิน หลี่ซิ่งป้าต่างพัดกระพือสภาวะโจมตีติดต่อกันไม่ขาดสาย
จอมปีศาจหลายตนนั้นถึงจะเตรียมตัวป้องกันพวกเกาหาน แต่เป้าหมายอันดับแรกคือเหล่าสมณะศาสนาพุทธจากแดนสุขาวดีตะวันตก
สองฝ่ายต่อสู้จนจักรวาลพลิกคว่ำ สุริยันจันทราดับแสง
ต้องเป็นในมิตินอกเขตแดน ยอดฝีมือที่มีพลังฝึกปรือเท่าพวกเขาจึงสามารถต่อสู้ได้เต็มที่
ไม่อย่างนั้นหากโลกเบื้องบนเช่นโลกซ้อนโลก ฟ้าเหนือฟ้า หรือมรกตท่องฟ้า มาเป็นสมรภูมิให้แก่ยอดฝีมือระดับนี้ ไม่ทันไรคงถูกทำลายล้าง นอกเสียจากว่าสองฝ่ายจะจงใจกดข่มฝีมือ
นักบวชฮุ่ยอั้นที่ครองวารีสามแสง สุดท้ายแล้วก็เป็นเป้าหมายที่คนอื่นๆ ร่วมมือกันจู่โจม
บุตรคนที่สองของตระกูลหลี่ผู้นี้ยังต้านทานไว้ได้ ควบคุมกระบี่คู่อู๋โกว ป้องกันการโจมตีของเกาหานอีกครั้ง จากนั้นก็ง้างกระบองเหล็กขึ้น ปัดเหล้กท่อนมีเหลี่ยมของหลี่ซิ่งป้าทิ้งไป
อีกด้านหนึ่งมีสมณะศาสนาพุทธคนอื่นๆ ป้องกันคนที่เหลือแก่ท่าน ทว่าหลี่ซิ่งป้าตามหาโอกาสนี้มานานแล้ว
มือหนึ่งถือเหล็กท่อนมีเหลี่ยมคอยพัวพันความสนใจของนักบวชฮุ่ยอั้น ขณะเดียวกันก็ต่อยอีกมือออกดุจสายฟ้าแลบ
การโจมตีที่ดูนุ่มนวล เป็นเพียงมือเปล่าหมัดเปลือย กลับพุ่งใส่นักบวชฮุ่ยอั้นด้วยความเร็วดุจพายุบุแคม กระแทกใส่ทรวงอกข้างขวาของอีกฝ่ายอย่างจัง
นักบวชฮุ่ยอั้นร่างส่าย พลันสัมผัสได้ว่า พลังสั่นสะเทือนที่น่ากลัวที่เชื่อมต่อกัน และค่อยๆ รุนแรงขึ้น กำลังทำให้ร่างของท่านสลายเหมือนเขาทราย
“นะโมอมิตตาพุทธ!” นักบวชฮุ่ยอั้นเปล่งคำสรรเสริญพระคุณ หุบร่างอย่างรวดเร็ว
การ ‘หุบ’ ของท่านนี้ เหมือนความว่างเปล่า กลายเป็นฝุ่น สลายไปจากโลกนี้พร้อมกับท่าน
อริยสัจสี่ในศาสนาพุทธ กอปรด้วยทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
สมุทัยคือบ่อเกิดความทุกข์ในสภาพห้วงเวลาสมุทัยคือการวบรวม รวบรวมกิเลสจากการมองผิดแปดสิบแปดประการ และการหลงผิดแปดสิบเอ็ดอย่างจนก่อให้เกิดกรรม ได้รับตอบแทนตามกรรม ดังนั้นจึงทำให้เกิดผลแห่งทุกข์ของทุกข์ทั้งสิบเอ็ดประการ ทุกข์ทั้งปวงในทุกขสัจ
ท่านพอใช้ ก็เก็บซ่อนผลแห่งทุกข์ไป
นักบวชฮุ่ยอั้นใช้สมุทัยสัจเป็นแก่นหลัก ใช้วรยุทธ์สองอย่างในโพธิปักขิยธรรมสามสิบเจ็ด
วิริยะพละ ฐานที่สองในห้าพละ ไม่ยึดมั่นถือมั่น สามารถอดทนอดกลั้น กำจัดความเกียจคร้าน รักษาความกระจ่างใส
ปัสสัทธิ ฐานที่สี่แห่งโพชฌงค์เจ็ด กำจัดกิเลสวัตถุแห่งห้าความความหลงผิด และห้าความเศร้าหมอง สติปัญญาแจ่มใส ตื่นรู้ได้โดยง่าย ใช้ปัญญาที่แท้จริงทำลายความขุ่นข้องที่มืดมิด
สองวิชารวมเป็นหนึ่ง ผสานกับความน่าอัศจรรย์ของสมุทัย นักบวชฮุ่ยอั้นต้านหมัดแกร่งของหลี่ซิ่งป้าอย่างหักโหม
พลังอันยิ่งใหญ่สั่นสะเทือน เหมือนถูกรวบรวมไว้พร้อมกันเพราะสาเหตุนี้ ความอดทน การกำจัดไม่ได้ก่อเกิดผลกระทบใดๆ ต่อนักบวชฮุ่ยอั้น
การเคลื่อนไหวของท่านไม่ชะงักลงแม้แต่น้อย กลับอาศัยสภาวะหมัดของหลี่ซิ่งป่า ถอยร่างไปด้านหลังด้วยความเร็วสูง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี