ค่ายกลวิญญาณที่เป็นที่อยู่อาศัยเดิมของการุณยบุรุษซึ่งทิ้งเอาไว้ มีอานุภาพสูงยิ่ง
ทว่าการุณยบุรุษจากไปนานมากแล้ว หลายมาปีมานี้แม้ค่ายกลวิญญาณจะอยู่ในสภาพที่เก็บซ่อนเงียบสงัด กระนั้นพลังชีวิตกำลังถูกชะล้างหายไปอย่างไม่หยุดหย่อน
พลังชีวิตชะล้างหายไป กัดกร่อนตามกาลเวลา ก่อให้เกิดความบกพร่องของค่ายกลวิญญาณ อานุภาพไม่เพื่องฟูเช่นตอนนั้น
เพียงแต่ว่าหากอยากจะใช้พลังทำลายค่ายกล เช่นนั้นอย่างน้อยก็ต้องมีพลังฝึกปรือระดับมหาปรมาจารย์
หมอกเย็นกร่อนกระดูก แม้ดูเหมือนว่าจะมองไม่เห็นด้วยตา ทว่าภายใต้ความไร้รูปร่างกลับกัดกร่อนร่างกายของมนุษย์อย่างต่อเนื่องตามกาลเวลาที่ผ่านพ้นไป
ต่อให้เป็นจอมยุทธ์ระดับปรมาจารย์ หากเอาตนเองเข้าไปอยู่ในหมอกเย็นเป็นระยะเวลานานเข้า ก็จะค่อยๆ อ่อนแอลงไปโดยปริยาย
เมื่อปราณจิตราที่ต้านทานความหนาวเย็นหมดสิ้นไป ก็ยังไม่สามารถเดินออกไปจากหมอกเย็นที่เหมือนกับเขาวงกตไม่ได้ มิเช่นนั้นก็จะหนาวตายจริงๆ อยู่ภายในหมอกน้ำแข็ง กลายสภาพเป็นส่วนหนึ่งของหิมะและน้ำแข็งไป
ยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่ต้านทานความหนาวสะท้าน ยังต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีขององครักษ์ผลึกน้ำแข็งที่คืนชีพไม่หยุดยั้ง คนหน้าล้มลงไป คนข้างหลังก็กระโจนเข้าโจมตีไม่ขาดสาย ทำให้จอมยุทธ์ลดจำนวนน้อยลงยิ่งขึ้น
ทว่าสิ่งเหล่านี้กลับไม่ยากเกินความสามารถของเยี่ยนจ้าวเกอ
การคาดคะเนการเปลี่ยนแปลงของสายพลังชีวิตค่ายกลอย่างไม่หยุดหย่อน ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอค่อยๆ หาเคล็ดลับในการทำลายค่ายกลจนเจอ ความเร็วในการรุดหน้าก็ยิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ถึงแม้ว่าเบื้องหน้าจะยังคงตลบอบอวลไปด้วยหมอกน้ำแข็ง ทว่าจิตสัมผัสของเยี่ยนจ้าวเกอกลับยิ่งเฉียบไวขึ้น จนเริ่มแยกแยะทิศทางและหนทางได้ชัดเจน
ไม่นานนัก เบื้องหน้าเยี่ยนจ้าวเกอและอาหู่ก็ปรากฏแท่นที่ประกอบสร้างมาจากน้ำแข็งหนาวเย็น มีอักขระวิญญาณแต่ละสายไหลหมุนเวียนอยู่ด้านบน
เยี่ยนจ้าวเกอไปยืนอยู่บนแท่น ก่อนจะนั่งยองๆ ลง แล้วยื่นฝ่ามือประทับลงบนผิวน้ำแข็ง
ความรู้สึกหนาวเหน็บกลุ่มหนึ่งแผ่กระจายมา ผิวน้ำแข็งแข็งแรงหนาหนัก
แม้จะเป็นพลังฝึกปรือของเยี่ยนจ้าวเกอในปัจจุบัน ภายในใจของเขาก็ยังรู้สึกว่ายากที่จะทำลาย
ผิวน้ำแข็งกำลังส่งผลกระทบกับปราณจิตราของเยี่ยนจ้าวเกอ เขาสามารถรู้สึกได้ถึงภายในของน้ำแข็งหนาวเหน็บ ซึ่งมีการเคลื่อนไหวของกระแสปราณที่แปลกประหลาดอยู่ภายใน มันสร้างระบบด้วยตัวของมันเอง ปราณจิตราของเขาอยากจะเจาะทะลุเข้าไปข้างใน ทว่าก็ไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น เพราะถูกพลังชีวิตภายในผิวน้ำแข็งขับไล่
ชายหนุ่มยิ้ม ไม่รีบไม่ร้อน เขาโคจรปราณจิตราของตนให้มั่นคงก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ เสาะหากฎเกณฑ์ความสมดุลของกระแสไหลเวียนพลังชีวิตใต้พื้นผิวน้ำแข็ง
มือทั้งสองของอาหู่จับศีรษะขององครักษ์ผลึกน้ำแข็งสองตัวพร้อมกัน จากนั้นก็จับพวกมันขึ้นชนกัน!
ครั้นศีรษะขององครักษ์ผลึกน้ำแข็งทั้งสองชนเข้าด้วยกัน ก็พลันแตกกระจุยทั้งหมด
อาหู่เรียกโดยที่ไม่หันหน้ากลับมา “คุณชายขอรับ”
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “ไม่เป็นไร นี่คือส่วนหนึ่งของค่ายกลวิญญาณ สิ่งนี้เหมือนกับ ‘ประตู’ และก็เหมือนกับ ‘ทางสัญจร’ พลังชีวิตด้านในผิวน้ำแข็งประกอบกันเป็นความสมดุลหมุนเวียนหนึ่งที่มั่นคง คิดหาวิธีนำปราณจิตราของตนหลอมรวมเข้าไปถึงภายในความสมดุลนี้ รวมกันเป็นหนึ่งกับมัน เช่นนี้ก็จะสามารถผ่านพื้นผิวน้ำแข็งไปได้ รุดหน้าลงไปอีกขั้นหนึ่ง”
หลังจากกล่าวจบ ปราณจิตราภายในร่างกายเยี่ยนจ้าวเกอก็สั่นสะเทือน พื้นผิวน้ำแข็งใต้ฝ่ามือพลันเปล่งแสงสว่างขึ้นทันที ชั่วขณะถัดมาร่างกายของเยี่ยนจ้าวเกอก็หายไปในอากาศ
อาหู่พลิกฝ่ามือหนึ่งตบองครักษ์ผลึกน้ำแข็งอีกตัวจนแตก จากนั้นจึงลอกเลียนแบบตามท่าทางของเยี่ยนจ้าวเกอ ขณะที่ผิวน้ำแข็งบนแท่นส่องแสงสว่างวาบ ร่างกายของอาหู่ก็หายไปเช่นกัน
ผ่านพื้นผิวน้ำแข็งไป เยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่ก็มาถึงภายในห้องน้ำแข็งอันใหญ่โตห้องหนึ่ง
หมอกเย็นสลายหายลับตาไป ส่วนภายในห้องห้องน้ำแข็งว่างเปล่าไร้สิ่งใด มีเพียงโลงผลึกแก้วขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางเท่านั้น
อาหู่มองโลงนั่นด้วยความสงสัยใคร่รู้ “ที่นี่คือห้องตั้งโลงศพของการุณยบุรุษหรือขอรับ”
เยี่ยนจ้าวเกอส่ายศีรษะ “ห้องตั้งโลงศพเทียม เป็นส่วนหนึ่งของเล่ห์กลและค่ายกลวิญญาณเช่นกัน ตัวของโลงศพน่าจะซ่อนเล่ห์กลที่อันตรายเอาไว้”
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอปิดเปลือกตาลงเพื่อสัมผัสอย่างละเอียดถี่ถ้วนพักหนึ่งแล้ว เขากลับกระโดดขึ้นไปข้างบน ร่างกายห้อยกลับหัวลงมา ยืนอยู่บนเพดานห้องน้ำแข็งอย่างมั่นคง
เขาเดินไปมาซ้ายขวาหลายก้าว ใต้ฝ่าเท้าเหยียบย่ำด้วยจังหวะฝีเท้าที่แปลกประหลาด
ผ่านไปครู่ใหญ่ เขาพลันหยุดฝีเท้าลง และมาถึงด้านบนโลงผลึกน้ำแข็งพอดิบพอดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี