นิสัยของมารร้ายส่วนใหญ่แสดงออกมาสองลักษณะ ถ้าไม่คลุ้มคลั่งไร้สติก็กลอกกลิ้งเจ้าเล่ห์
พญามารดาวโลหิตนี้ไม่ว่าปกติจะแสดงออกแบบไหน ตอนนี้กลับเผยให้เห็นความบ้าคลั่งโดยทั่วไปของมารร้ายนพยมโลก
กษัตริย์เถาคิดทำลายการสะกดของมันจากภายใน ส่วนเยว่เจิ้นเป่ย เนี่ยจิงเสิน อวี่เยี่ยโจมตีจากภายนอก
จอมมารตนนี้หลังจากอาศัยพิธีกรรมซึ่งเป็นพลังภายนอก ฟื้นฟูการควบคุมตัวเองก็หมายสังหารกษัตริย์เถาทันที
เยว่เจิ้นเป่ยแบ่งประกายกระบี่จากหนึ่งเป็นหมื่นในพริบตา จ้วงแทงใส่ดวงดาวห้าแสงสิบสีตรงหน้าจากทั่วทุกทิศทุกทางพร้อมกัน
หลังจากประกายกระบี่แทงเข้าไปในร่างของอีกฝ่าย พลันทำให้พลังทั้งหมดของพญามารดาวโลหิตเชื่องช้าลงถึงขั้นที่หยุดนิ่งอีกครั้ง
เนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ยพุ่งเคียงไหล่ไปด้านหน้า ออกสองกระบี่ทิ่มแทงใส่กลางดวงดาว คิดประสานในนอกเพื่อช่วยเหลือกษัตริย์เถา
จอมมารส่งเสียงคำรามสะท้านฟ้า หลังจากความคลุ้มคลั่ง อารมณ์ที่เผยออกมากลับค่อยๆ กลายเป็นความสงบนิ่ง
เพียงแต่ สงบนิ่งจนเย็นเยียบ เย็นยะเยือกจนทำให้ร่างสั่นระริก
“ตายด้วยกันเถอะ” ในเสียงที่น่าสะพรึง ลำแสงที่เต็มไปด้วยสีสันรอบๆ ดวงดาวพากันเคลื่อนไหวย้อนกลับ เริ่มพวยพุ่งไปทั่วสี่ทิศแปดทาง
ลำแสงนับไม่ถ้วนเหมือนกับเกาทัณฑ์แหลมหลายดอก ยิงใส่พวกเยว่เจิ้นเป่ย
ในวินาทีนี้ จอมมารที่ได้รับบาดเจ็บเพราะพลังของดินแดนพันเกล็ด ถึงกับเหมือนฟื้นฟูอานุภาพของพญามารระดับสุญญตากลับมาได้แล้ว
เสียงมหามรรคาถึงขั้นดังขึ้นข้างหูของทุกคน
เยว่เจิ้นเป่ยสูดหายใจลึก เก็บประกายกระบี่นับหมื่นนับพัน ผนึกไว้กับตัวเองหมดสิ้น จากนั้นเขาก็ฟันออกไปหนึ่งกระบี่
พร้อมกับการฟันนี้ เยว่เจิ้นเป่ยร่างเปลี่ยนเป็นล่องลอยไม่แน่นอน เหมือนกับคงอยู่ในมิติเวลาไร้สิ้นสุดและสถานที่ทุกสถานที่
เยว่เจิ้นเป่ยที่ใช้กระบี่ลวงเซียนสายเหนือพิสุทธิ์ไม่ได้ ขณะนี้ใช้กระบี่หยกเบิกนภาเปิดผ่าฟ้าดิน ปราณเปลี่ยนกฎเกณฑ์ สามารถเลียนแบบเซียนลี้ลับสายเหนือพิสุทธิ์คนหนึ่งได้โดยสมบูรณ์ ไปถึงระดับสูงสุดของกระบี่ลวงเซียน
ลำแสงห้าสีที่ถี่ยิบราวสายฝน ถูกเยว่เจิ้นเป่ยที่เหมือนคงอยู่ทุกที่ขวางกระบี่กันไว้ ทำให้พวกมันไม่ส่งผลคุกคามคนอื่นๆ
การโจมตีด้วยชีวิตของพญามารดาวโลหิตถูกเยว่เจิ้นเป่ยรวมการโจมตีและการป้องกันเป็นหนึ่งทำลายทิ้งอย่างต่อเนื่อง แก้ไขจนหายไป
ทว่าหลังจากลำแสงเวียนว่อนห้าแสงสิบสีสลายไปหมดสิ้น ตำแหน่งเดิมของดวงดาวก็เป็นความมืดมิดผืนหนึ่ง
ความมืดนั้นขยายออกโดยไร้เสียง กลายเป็นหลุมขมุกขมัว กลืนกินทุกสิ่งรอบๆ
พลังม่านป้องกันเขตแดนของมิติเวลาที่บิดเบี้ยวซึ่งดวงดาวยากจะต้านทาน ทำลายวัตถุที่อยู่รอบๆ
ผู้ใช้กระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ที่ได้ผลักเปิดประตูเซียน แตกฉานการเปลี่ยนแปลงมิติเวลาของกระบี่ลวงเซียนอย่างกษัตริย์เถาและอวี่เยี่ย ตอนนี้ก็ต้านรับไม่ไหว
เนี่ยจิงเสิน อวี่เยี่ย และกษัตริย์เถาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่างพุ่งเข้าไปในหลุมขมุกขมัวสีดำอย่างไม่อาจควบคุมตัวเอง
“จิงเสินพวกเจ้าหลุดเข้าไปด้านใน ถึงแม้ยากจะคาดเดาที่หมาย แต่เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็น…” เยว่เจิ้นเป่ยมองรอบๆ ‘หลี่เถาม่วงบาดเจ็บสาหัสเกินไป หากหลุดเข้าไปด้านในไม่มีคนคุ้มครอง ชีวิตต้องดับสิ้นแน่’
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เยว่เจิ้นเป่ยกล่าวเสียงทุ้ม “จิงเสินพวกเจ้าสองคนช่วยเหลือกันและกัน อย่าได้พลัดหลง รับมือด้วยความระวัง”
ส่วนตัวเขาพุ่งเข้าหากษัตริย์เถาหลี่อิง คมกระบี่ในมือขวาผ่าริมขอบหลุมขมุกขมัว ทำลายการเปลี่ยนแปลงจากการบิดเบี้ยวมิติเวลา คว้ามือซ้ายเข้าหาหลี่อิง
อวี่เยี่ยที่ได้แต่ฝืนควบคุมตัวเอง ไม่อาจเข้าใกล้กษัตริย์เถาเห็นฉากนี้ พลันผ่อนคลายลมหายใจ
เนี่ยจิงเสินที่อยู่กับนางกล่าวขึ้นเช่นกันว่า “ท่านอาจารย์วางใจ ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเรา…”
ทว่าทันใดนั้น กษัตริย์เถาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับถลึงสองตามองเยว่เจิ้นเป่ย “เยว่เจิ้นเป่ย! ข้ายอมตายไม่ยอมรับบุญคุณจากเจ้า!”
นางสีหน้าซีดขาวกว่าเดิม พ่นเลือดออกมาคำหนึ่ง ทั่วทั้งร่างเกิดบาดแผลมากมาย
ทว่าพลังที่เหลืออยู่รวมกันเป็นครั้งสุดท้าย ผนึกเป็นจุดเดียว กษัตริย์เถาโบกมือ ปะทะกับมือซ้ายที่เยว่เจิ้นเป่ยยื่นมา สองฝ่ายปะทะกันเกิดเสียงดังเปรี้ยงกลางอากาศ!
สองฝ่ามือปะทะกัน พลังเกิดการสะท้อนกลับ กษัตริย์เถาพุ่งเข้าไปในหลุมขมุกขมัวสีดำเร็วกว่าเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี