หลินโจวมองเศษชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์กลายสภาพเป็นแสงสายฟ้าด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม ซึ่งยังคงลอยออกไปไกลขณะอยู่ภายใต้การคลุมด้วยตาข่ายแดง
หากอาศัยความได้เปรียบพิเศษของตน เขาก็คงมีวันที่ไม่ต้องประสบอุปสรรค ถูกบีบบังคับให้พ่ายแพ้เช่นนี้อยู่บ้างเป็นแน่
ภาพฉากนี้ทำให้ภายในสมองของหลินโจวปรากฎความทรงจำมากมายที่ไม่เป็นที่น่าพอใจขึ้น
ไม่นานนักเขาก็ฟื้นคืนความเยือกเย็นกลับมา ทอดกายออกไล่ตามเศษชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่หนีไปด้วยความเร็ว
ถูกตาข่ายแดงลากเอาไว้อยู่ ความเร็วการลอยหนีของเศษชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์จึงไม่ได้เร็วนัก หลินโจวไม่ถึงกับสูญเสียร่องรอยไป
เขารีบเร่งไล่ตามไปพลาง ไตร่ตรองด้วยความรวดเร็วไปพลาง ‘แต่ไหนแต่ไรไม่รู้เลยว่าแถบนี้ยังมีเศษชิ้นส่วนที่สองของดวงตาราชันสายฟ้าอยู่ ท้ายที่สุดแล้ว…’
‘ใช่แล้ว! อักษรพลังปราณที่การุณยบุรุษทิ้งเอาไว้บนโลง แท้จริงแล้วก็คือความหมายนี้เอง!’ หลินโจวตื่นตัวโดยฉับพลัน
‘เขาหาเศษชิ้นส่วนส่วนที่สองของดวงตาราชันสายฟ้าพบแล้ว แต่การจะปราบและหลอมแปรสภาพต้องใช้เวลา เขาเสียดายที่ตนเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงชั่วขณะนั้น!’
หลินโจวทอดถอนใจ ‘น่าเสียดายที่ทุกคนต่างก็ไม่ได้ตระหนักถึงจุดนี้ เพียงแต่ตอนเขาเสียดายที่ตนมีเพียงเศษชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไปวันๆ ชั่วขณะหนึ่งก่อนจะสิ้นลมก็ล้วนไม่สามารถยืดขยายออกไปได้’
พอมองดูแสงสายฟ้าลอยหนี สายตาหลินโจวก็มีความลุ่มลึกและเงียบงันอยู่บ้าง ‘เรื่องนี้ก็นับว่าให้บทเรียนกับข้าเช่นกัน ข้ามีเพียงแต่ ‘ข้อมูลที่ข้ารู้’ ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลทั้งหมด ต่อไปต้องสังเกตไตร่ตรองเบาะแสใดๆ ที่อาจจะมีประโยชน์อย่างละเอียดรอบคอบให้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่ใช่หมกมุ่นอยู่กับข่าวสารที่รู้อยู่แล้ว จนถึงขั้นตนค่อยๆ เฉื่อยชาตายด้าน’
‘เพียงแต่ว่า เศษชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ส่วนที่สองนั่นต้องอยู่ในสภาวะหลบซ่อนโดยเก็บเสียงอยู่อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงทำให้ผู้คนไม่รู้สึก ต่อให้สุสานของการุณยบุรุษระเบิดอย่างสิ้นเชิงแล้ว ก็ยังคงไม่สามารถทำให้มันตื่นตกใจได้ เช่นนั้น บัดนี้สิ่งใดทำให้เศษชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้ตื่นตกใจได้ เป็นเพราะความบังเอิญที่ข้านำเศษชิ้นส่วนชิ้นแรกออกมาก่อนกำหนดอย่างนั้นหรือ ’ แววตาหลินโจวเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก ‘หรือว่าเป็นคนอื่น’
ชั่วขณะพริบตานี้ ภายในสมองของหลินโจวพลันประกายวาบเงาร่างของคนคนหนึ่ง
เงาร่างของคนคนหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่คุ้นเคยเล็กน้อย
‘ระเบิดค่ายกลสุสานทิ้งไป ถึงที่สุดแล้วก็ไม่สามารถปลิดชีพมันได้รึ มหาปรมาจารย์ล้วนยังไม่สามารถหนีออกมาได้ มันจะทำได้อย่างไร ปรมาจารย์สามารถขับเคลื่อนได้เพียงอาวุธจิตระดับล่างเท่านั้น แต่ในภัยพิบัติเช่นนั้น อาวุธจิตระดับล่างก็คุ้มกันมันไม่อยู่’
หัวคิ้วหลินโจวขมวดปมแน่น ‘เป็นไปดังคาด ทุกๆ เรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมายล้วนนำมาซึ่งปัจจัยที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ คนกวนน้ำในบ่อจนขุ่น…’
ซึ่งคือเศษชิ้นส่วนดวงตาราชันสายฟ้าที่อยู่ในสัมภาระของตนจู่ๆ ก็ไม่แน่นอนขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด
ครุ่นคิดถึงตรงนี้ ภายในใจของหลินโจวก็อึดอัดอยู่พักหนึ่ง ‘ถือว่าร้ายแรงจนถึงขั้นจริงๆ’
เขาพ่นลมหายใจออกมายาว แสงสายฟ้ามากมายไหลเวียนทั่วกายศีรษะจรดปลายเท้า
จอมยุทธ์สายตำหนักอัสนีสวรรค์ เดิมทีก็ถนัดในด้านความเร็วอยู่แล้ว การเคลื่อนไหวกายท่ามกลางการสืบทอดวิถีวรยุทธ์ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งใหญ่ทั้งหก ล้วนได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูง
ชั่วขณะนี้หลินโจวเปิดการเคลื่อนไหวกายออก ทั้งร่างกายราวกับกลายร่างเป็นสายฟ้าแลบสายหนึ่ง เหินกายไล่ตามไปยังทิศที่เศษชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์หนีไปไกล
ส่วนบริเวณไกลออกไป ซึ่งพ้นออกจากสถานที่ที่อยู่ลึกเข้าไปใต้ปฐพีในขอบเขตของภูเขาหิมะพันผูกบูรพา แสงอันโชติช่วงสีแดงก่ำทลายชั้นหินไปมาด้วยความเร็วสูง
เยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่นั่งอยู่ภายในกระสวยเบิกดินแดน เร่งความเร็วกระสวยเบิกดินแดนลอดผ่านอย่างรวดเร็ว
ชั้นหินด้านหน้าถูกเศษชิ้นส่วนดวงตาราชันสายฟ้าที่หลีกหนีไปทลายออกเป็นทางสัญจรสายหนึ่ง กระสวยเบิกดินแดนจึงเดินหน้าด้วยความง่ายดายขึ้นมา
กระสวยเบิกดินแดนมุ่งขึ้นด้านบนตลอดเส้นทาง ต่อมาชั้นหินค่อยๆ ร่วน กลายสภาพเป็นโคลนตม จากนั้นเบื้องหน้าพลันปรากฏแสงสว่างอย่างฉับพลัน กลับพุ่งออกมากจากพื้นดิน
เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตามองไป ก็พบว่าเศษชิ้นส่วนดวงตาราชันสายฟ้าเม็ดนั้นที่ตนไล่ตาม หยุดลอยอยู่กลางอากาศ ส่องแสงสายฟ้าวับวาบไล่หลัง
กลางท้องฟ้าทางทิศของภูเขาหิมะพันผูกบูรพาก็ส่งเสียงฟ้าร้องออกมา มองไกลออกไปก็พบแสงสายฟ้าอีกสายหนึ่งวาดข้ามท้องฟ้าด้วยความเร็ว พุ่งมาทางด้านนี้!
เยี่ยนจ้าวเกอเลิกคิ้วเล็กน้อย “เป็นเศษชิ้นส่วนเม็ดแรกนั่นที่อยู่ในห้องตั้งโลงศพของการุณยบุรุษ เม็ดที่สองใหญ่กว่าแกร่งกว่า ทะลวงท้องฟ้าถือกำเนิด ดึงดูดเม็ดแรกให้มารวมกันด้วยตัวของมันเอง”
อาหู่อ้าปากกว้างกล่าวด้วยความยินดี “เจ้าหลินโจวนั่นก็ได้รับเศษชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์มาใหม่เช่นกัน ทว่าก็ยังไม่ทันได้หลอมแปรสภาพอุ่นบำรุง อีกทั้งตัวเขาก็ไม่ใช่มหาปรมาจารย์อีก จึงหยุดเศษชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ไม่อยู่เสียนี่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี