เยว่เจิ้นเป่ยปรากฏตัว จางปู้ซวีสีหน้าเคร่งเครียด
กระนั้นตอนที่เขาเห็นว่ามีแค่เย่วเจิ้นเป่ยขวางทาง ในใจก็เกิดความหวังใหม่อีกครั้ง
จางปู้ซวีสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง อาศัยกระบี่โจมตีอีกหน
“เยว่เจิ้นเป่ย เจ้าบาดเจ็บเหมือนกับ จะขัดขวางข้าอย่างไร”
เยว่เจิ้นเป่ยเอ่ยอย่างสงบนิ่ง “วันนี้พวกเราได้รวมสี่ปราณเป็นวายุเหมือนกัน”
ขณะที่พูด ประกายกระบี่เปิดฟ้าบางครั้งก็ยิ่งใหญ่ บางครั้งมัวซัว บางครั้งเดี๋ยวกระจายเดี๋ยวรวมตัว ทำลายประกายกระบี่แห่งเหนือพิสุทธิ์หลายสายของจางปู้ซวีจนหายไป
จางปู้ซวีสีหน้าแปรเปลี่ยน
ยี่สิบกว่าปีก่อนหน้านี้ ในตอนที่ตำหนักโอสถเพิ่งโผล่ขึ้นมา เขากับเยว่เจิ้นเป่ยเคยสู้กันรอบหนึ่ง ถึงจะเป็นเซียนลี้ลับเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเขารวมสี่ปราณเป็นวายุ ส่วนเยว่เจิ้นเป่ยรวมสามปราณเป็นวายุ แต่สุดท้ายแล้วเขากลับทำอะไรเยว่เจิ้นเป่ยไม่ได้โดยสิ้นเชิง
ปัจจุบันเป็นเยว่เจิ้นเป่ยได้รับบาดเจ็บเพราะการกลืนกินกลับจากการพังทลายของค่ายกลลงทัณฑ์เซียนเหมือนเนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ย คนทั้งสองเจอหน้าต่อสู้กันอีกครั้ง จางปู้ซวีกลับยังคงทำอะไรเยว่เจิ้นเป่ยไม่ได้!
ถึงจะไม่ได้ประดิษฐ์สิ่งใหม่ เปิดเส้นทางใหม่เหมือนกับเนี่ยจิงเสิน แต่ว่าในระดับของกระบี่หยกเบิกนภา เยว่เจิ้นเป่ยได้บรรลุถึงระดับที่สูงส่งสุดขีดแล้ว
ในระดับหนึ่ง เขาเป็นผู้สืบทอดที่ดั้งเดิมที่สุดของเยี่ยนซิงถาง รับสืบทอดมรดกของเยี่ยนซิงถาง พัฒนากระบี่หยกเบิกนภาไปถึงระดับที่สูงกว่าเดิมอย่างต่อเนื่อง
วิชากระบี่ของเยว่เจิ้นเป่ยบริสุทธิ์ถึงขีดสุด ท่วงทำนองไม่รีบไม่ร้อน ถึงว่าส่วนใหญ่แล้วจะตั้งรับอย่างมั่นคง ทว่าก็เหมือนกับคลื่นน้ำใต้ธารน้ำแข็ง เกรี้ยวกราดซ่อนเร้น
ตอนนี้เขาตั้งรับไม่จู่โจม ไม่ใช่เพราะถูกจางปู้ซวีสะกดจนเสียเปรียบ แต่ว่าต้องการคุ้มครองเนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ยให้ออกไปก่อน
จางปู้ซวีมีความรู้สึกว่า เยว่เจิ้นเป่ยซึ่งตอนนี้ดูรอบคอบรัดกุม รักษาการป้องกัน พร้อมจะปะทุอย่างฉับพลัน พลิกจากป้องกันเป็นจู่โจมได้ตลอดเวลา
ขณะมองเยว่เจิ้นเป่ย แล้วมองเนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ยที่ค่อยๆ ออกห่างไป จางปู้ซวีมีความรู้สึกสายไปเสียแล้วขึ้นในใจ ทว่าเทียบกับความรู้สึกในด้านนี้ สิ่งที่ทำให้เขาท้อแท้ยิ่งกว่าก็คือการที่โอกาสอยู่ตรงหน้า แต่มันกลับกำลังจะหลุดออกไปจากมือของตน
เทียบกับการไม่เคยครอบครองมาก่อน การได้มาแล้วเสียไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าจะต้องยิ่งทำให้คนสิ้นหวังกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย
วรยุทธ์สะท้านโลกอย่างคัมภีร์โกลาหลสูญย่อมมีความหมายไม่ธรรมดา การสูญเสียติดต่อกัน แม้จะเป็นจางปู้ซวีที่ผ่านลมฝนมาจนชาชิน ขณะนี้ยังรู้สึกปวดร้าว
ทว่าในตอนนั้นเอง ชายฝั่งยมโลกพลันเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ตอนนี้กลิ่นอายของจอมยุทธ์หลายสายปรากฏขึ้น พอผสมกับกลิ่นอายของนพยมโลกมากมายก็ยิ่งทำให้คนตื่นตระหนก
เยว่เจิ้นเป่ยกับจางปู้ซวีสีหน้าเปลี่ยนแปลงพร้อมกัน
จากนั้นก็มีลำแสงหลายสายสว่างขึ้นจากในชายฝั่งยมโลก
นั่นเป็นจอมยุทธ์จากโถงเซียนจำนวนมาก มีทั้งเซียนลี้ลับและเซียนจริงแท้
เยว่เจิ้นเป่ยเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้ว ก่อนหน้านี้เขาเจอตราอาคมชิ้นหนึ่งที่เนี่ยจิงเสินได้ทิ้งเอาไว้ พบว่าตราอาคมสูญเสียความสามารถรักษาความลับ ไม่ว่าใครมาล้วนไขความลับด้านใน ทราบข้อมูลและเบาะแสที่ซ่อนไว้ด้านในได้
ต่อจากนั้นระหว่างที่ตามหาก็พบตราอาคมที่มีสถานการณ์คล้ายๆ กันหลายชิ้น จึงรีบเก็บไว้ ป้องกันไม่ให้ถูกศัตรูฉวยโอกาส
จางปู้ซวีมาถึงก่อนเขาก้าวหนึ่ง เขาจึงทำอะไรไม่ได้ ทว่าตามเหตุผลแล้วผู้ที่มาภายหลังสมควรตามหาที่นี่เจอไม่ง่ายขนาดนั้นถึงจะถูก
‘หรือว่าเส้นทางนอกรีตเหล่านี้เดิมทีจะมาหาจางปู้ซวี’ เยว่เจิ้นเป่ยความคิดแวบขึ้นในใจ แต่ว่าเคลื่อนไหวไม่ลังเลแม้แต่น้อย ประกายกระบี่ที่ตอนแรกสงวนไว้ส่วนหนึ่ง ยามนี้ปล่อยออกมาด้านนอกอย่างฉับพลัน!
ประกายกระบี่หลายสายเปิดออก ไม่เพียงโจมตีใส่จางปู้ซวี ยังขัดขวางยอดฝีมือเส้นทางนอกรีตจำนวนมากด้วย
ลางสังหรณ์ก่อนหน้านี้ของจางปู้ซวีกลายเป็นความจริง วรยุทธ์ของจอมยุทธ์มรรคากระบี่ส่วนใหญ่มีการจู่โจมร้ายกาจ ในตอนที่โจมตีจึงเป็นตอนที่พวกเขาแข็งแกร่งที่สุด
ขณะนี้เยว่เจิ้นเป่ยใช้หนึ่งกระบี่หนึ่งโลก ประกายกระบี่เปิดฟ้า ม้วนพัดไปทั่วจักรวาล ประกายกระบี่กระจัดกระจาย กาลเวลาบนชายฝั่งยมโลกบริเวณนี้คล้ายย้อนทวน กลับสู่ช่วงเปิดผ่าฟ้าดิน
ไม่ว่าจะเป็นประกายกระบี่ของจางปู้ซวี หรือการโจมตีจากยอดฝีมือของโถงเซียน พอเผชิญกระบี่ของเยว่เจิ้นเป่ยล้วนเหมือนเปลี่ยนเป็นไม่คุ้นเคย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี