เยี่ยนจ้าวเกอปล่อยฝ่ามือทั้งสองออกมาพร้อมกัน โจมตีจนแขนท่อนหน้าข้างซ้ายจนเป็นธรรมชาติ เห็นได้ชัดว่าบิดๆ เบี้ยวๆ อยู่บ้าง
หลินโจวส่งเสียงฮึดฮัดทุ้มต่ำน่าเวทนาออกมา ไม่กล้าจะปะทะต่อไปอีก ร่างกายอาศัยแรงในการพุ่งโจมตีเหินลอยถอยหลังไป
ทว่าขณะนี้เขาเสียจังหวะไปโดยสิ้นเชิงแล้ว ต่อให้ถอยร่นก็ถูกพลังของเยี่ยนจ้าวเกอตรึงเอาไว้อยู่ดี
ส่วนลึกในแววตาหลินโจวทอประกายความเฉียบขาดแวบหนึ่ง ทรวงอกยุบเข้าพองออก จากนั้นเขาก็พลันเงยหน้าขึ้น พาให้ฟ้าพ่นฝนโลหิตออกมา
ฝนโลหิตนั้นกลายสภาพเป็นไอหมอกอยู่กลางอากาศ ปกคลุมทั้งกายหลินโจว
จี้หยกที่อยู่ตรงกลางเข็มขัดหลินโจวส่องแสงขึ้นมาในฉับพลัน สีสันเปลี่ยนจากเขียวมรกตเป็นแดงโลหิต ก่อนที่มันจะแตกกระจายออกมา เปล่งแสงสีแดงขึ้น ม้วนร่างหลินโจวให้กลายเป็นลำแสงในชั่วพริบตา เหินทะยานขึ้นท้องฟ้าหนีออกไปไกล!
ความเร็วนั้น เทียบกับการที่หลินโจวสั่นไหวปีกสายฟ้าของตนด้วยแรงทั้งหมดแล้วยังเร็วยิ่งกว่า
ความเร็วยิ่งที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ต่อให้เป็นมหาปรมาจารย์ ทว่าไม่ทันได้ป้องกันในทันที ก็ล้วนยากจะรั้งเขาไว้ได้
เยี่ยนจ้าวเกอมองดูแสงสีแดงที่ห่างออกไปไกลในชั่วพริบตา พลางเลิกคิ้วเล็กน้อย “โอ้ หยกเปลี่ยนโลหิตสู่ธารแสงหรือ ใช้การได้บ้างแล้วนี่ ทรัพย์สมบัติครอบครัวค่อนข้างมั่งคั่งเชียว สังหารได้ยากกว่าเยี่ยจิ่งและจ้าวฮ่าว หากหมายชีวิตเจ้า ข้าจำเป็นต้องเตรียมการล่วงหน้าอยู่บ้างถึงจะสำเร็จ”
ทางด้านอาหู่กำลังปราบปรามเศษชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่เคลื่อนไหวผิดปกติ พลางกล่าวถามด้วยความวิตกกังวลอยู่บ้าง “คุณชายขอรับ ปล่อยให้เขาไปแล้ว แม่นางเฟิงอยู่ทางน้ำพุวิเศษเมฆหยินหยาง ณ เขานิมิตเมฆนั้น…”
“ไม่เป็นไร” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย “เมื่อครู่ข้าจงใจลวงเขา จริงๆ แล้วทางด้านเฟิงอวิ๋นเซิงได้ถึงขั้นตอนปิดท้ายเรียบร้อยแล้ว ต่อให้ออกจากบ่อน้ำพุวิเศษเมฆหยินหยาง ผลกระทบก็ไม่มาก ขอแค่ทางด้านพวกเราถ่วงเวลาไว้ ส่งข่าวกลับไปในทันทีก็เรียบร้อย ท่านอาจารย์ฟู่เข้าใจสถานการณ์ รู้ดีว่าจะต้องจัดการอย่างไร”
เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตาเป็นเส้นตรงเล็กน้อยครู่หนึ่ง “แต่ข้ากลับค่อนข้างรู้สึกสนใจสิ่งของที่เขาแสดงออกมา พูดอย่างตรงไปตรงมาก็คือ เขาสามารถสำแดงอัสนีฟาดประสานฟ้าคำรนออกมาทั้งที่อยู่ในระดับปรมาจารย์ได้ เรื่องนี้ข้ามีการตระเตรียมใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่เขากลับสามารถใช้วิชาคมเชือกของเมืองทะเลมรกตได้ นี่ก็อยู่เหนือการคาดหมายของข้าจริงๆ”
ไม่ว่าจะคิดอย่างไร อัสนีฟาดประสานฟ้าคำรนก็เป็นวิชาวรยุทธ์ของตำหนักอัสนีสวรรค์เอง
การเปลี่ยนแปลงของมังกรเหินบินไล่คว้าสมุนดวงดาวก่อวิวัฒนาการวิชาวรยุทธ์ ก็อาจจะเป็นพบโดยบังเอิญของหลินโจวก็เป็นได้ อธิบายได้อย่างทะลุปรุโปร่งเช่นเดียวกัน
ก็เหมือนเช่นเยี่ยนจ้าวเกอที่ไม่มีผู้อื่นซักไซ้ไล่เรียงตน ว่าเหตุใดจึงสามารถใช้วิชาหมัดอสูรหกวิญญาณได้
วิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ขณะเดียวกันกับที่ทำให้การสืบทอดวรยุทธ์ถูกแบ่งยุคสมัย ทิ้งซากวัตถุเอาไว้มากมาย ก็ให้โอกาสมากมายกับเหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลายที่เปิดฉากขึ้นใหม่ในยุคสมัยนี้
ทว่าคมเชือกไม่เหมือนกัน นี่เป็นวิชาลับสืบทอดของเมืองทะเลมรกตแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ณ วารีพิภพในยุคปัจจุบัน
วิชาคมเชือกที่หลินโจวแสดงออกมา มีรูปแบบเหมือนกับการสืบทอดเมืองทะเลมรกตในเวลานี้
หายอดฝีมือเมืองทะเลมรกตคนหนึ่งที่มีความชำนาญในวิชาวรยุทธ์วิชานี้มาสำแดง ก็มีลักษณะแบบนี้เช่นกัน
นี่จึงทำให้เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกสนใจเป็นอย่างยิ่ง “เจ้านี่ฝึกวิชาคมเชือกได้อย่างไรกัน”
อาหู่ยิ้มเปิดปากกว้างพลางกล่าวว่า “เขายังคิดจะนำข่าวของแม่นางเฟิงไปเปิดโปงให้แก่เขาไร้พรมแดน และสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์อีก คุณชายขอรับ หากท่านนำข่าวนี้บอกกล่าวกับเมืองทะเลมรกต เมืองทะเลมรกตจะหาทางจัดการจัดการเขาในทันที! ทันใดนั้น การปะทะกันระหว่างตำหนักอัสนีสวรรค์กับเมืองทะเลมรกต ก็จะยิ่งเลวร้ายลง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเขาแก้ตัวน้ำขุ่นๆ หรือเขาไม่ยอมรับ ไม่ต้องให้ท่านเอ่ยปาก ข้าจะไปทำพิธีโลหิตจิตหวนเวลากับเขาเอง”
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องเหล่านั้น ความไม่เสถียรของพลังจากเศษชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ยังนับว่าเด่นชัดเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นหลินโจวมาพบเหตุบังเอิญด้วยตนเอง แต่บวกกับเยี่ยนซ่านก่อนหน้านี้ ผู้ใดจะรู้ว่าพวกเขาจะไม่ลากคนอื่นๆ ของตำหนักอัสนีสวรรค์มาด้วยหรือไม่ เก็บเศษชิ้นส่วนดวงตาราชันสายฟ้าก่อนแล้วค่อยว่ากันดีกว่า”
สิ้นคำกล่าว เยี่ยนจ้าวเกอก็มายังบริเวณใกล้ๆ กับเศษชิ้นส่วนดวงตาราชันสายฟ้าใหม่อีกครั้ง เขายื่นมือกำหมัดต่อยออกไปหมัดหนึ่ง
กำปั้นไม่ได้โจมตีไปบนเศษชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ เยี่ยนจ้าวเกอใช้เจตจำนงหมัดของตน สั่นสะเทือนหลอมเข้าไปภายในเศษชิ้นส่วนดวงตาราชันสายฟ้า
ในระหว่างกระบวนการนี้ จิตใจของเยี่ยนจ้าวเกอก็เชื่อมต่อสื่อสารกับเศษชิ้นส่วนดวงตาราชันสายฟ้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี