พระพุทธเจ้าที่อยู่บทปัทมาสน์สีขาวองค์นั้น ไม่ได้มีใบหน้าเปล่งแสงวิเศษเหมือนอย่างนักบวชรูปอื่นๆ ในศาสนาพุทธ กลับเหมือนหลวงจีนวัยกลางคนธรรมดาๆ ผู้หนึ่ง สีหน้าเปี่ยมชีวิตชีวา เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์
ในดวงตาของท่านไม่เห็นความกระจ่างใสสงบนิ่งจากปัญญาการตรัสรู้ สรรพวิชาล้วนว่างเปล่า กลับแฝงความรู้สึกหลากหลาย ตอนนี้เผยให้เห็นความซับซ้อนขณะมองกระบี่ลวงเซียนกับซากสังขารของอวี้ติ่งจินหยิน
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นพิเศษบนร่างของท่าน คือกระบี่ยาวที่ท่านแบกไว้
ปราณกระบี่เย็นเยียบพุ่งสู่ฟ้า ครอบคลุมโลกน้ำพุหยก ถึงขั้นที่เหยียดยื่นไปในความว่างเปล่ากลางจักรวาลที่อยู่ไกลออกไป
ความเย็นยะเยือกแห่งเจตจำนงกระบี่นั้น ถึงกับเหมือนยังเหนือกว่ากระบี่ลวงเซียนที่ขณะนี้ไร้นาย
พระพุทธเจ้าองค์นั้นย่อมเป็นกระบี่พุทธะ
ถงซินหลินกับนักพรตชิงจางตอนนั้นเคยทำความเข้าใจกับอานุภาพของกระบี่พุทธะด้วยตัวเอง แม้นไม่อาจเห็นถึงรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่าย ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันยิ่งใหญ่ที่สามารถบดขยี้โลกน้ำพุหยกในตอนนั้น
แต่ว่าปัจจุบัน ความรู้สึกที่กลิ่นอายซึ่งกระบี่พุทธะแสดงออกมา กลับต่างไปจากเมื่อสองพันปีกว่าปีก่อน ไม่เหมือนกับวิถีอสูรที่ถือทิฐิและชมชอบเอาชนะจนคลุ้มคลั่ง และต่างจากวิถีนรกที่บ้าคลั่งกระหายเลือด เหยียบย่ำสิ่งมีชีวิต
กระบี่พุทธะในขณะนี้ถึงขั้นทำให้คนไม่รู้สึกถึงจิตเซนหลายส่วน
หากบอกว่าท่านเหมือนกับเทวกษัตริย์สำนักเต๋าที่ใช้กระบี่สำเร็จมรรคาท่านหนึ่ง เกรงว่าจะเหมาะกว่าผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธที่สำเร็จผลพุทธ
‘วิถีมนุษย์…’ คนที่รู้จักกระบี่พุทธะอยู่บ้าง ในใจเกิดความคิดหนึ่งโดยไม่ได้นัดหมาย
กระบี่พุทธะนั่งอยู่บนบัวขาว ยื่นมือออกมาหมายจับกระบี่ลวงเซียนที่ลอยกลางอากาศ
แต่ว่ามือมหึมาที่เต็มไปด้วยคนข้างหนึ่งตบมา สภาวะคิดหักมือของกระบี่พุทธะ ไม่ยอมให้ท่านได้กระบี่ไป
“กายปีศาจของยุทธวิชัยพุทธะ ไฉนจึงมาอยู่ที่นี่์” กระบี่พุทธะสีหน้าฉายแววงุนงง แต่ว่ายังไม่ยอมถอย
ท่านยังคงยื่นมือข้างหนึ่งไปด้านหน้า มืออีกข้างชักกระบี่ด้านหลังออกเสียงดังเช้ง
จากนั้น แสงอันเจิดจ้าที่น่ากลัวราวกับฝนดาวตกก็หล่นลงจากฟากฟ้า พุ่งเข้าหาวานรปีศาจขนาดยักษ์ตนนั้นพร้อมกัน
“ถึงเป็นสองบุปผาบนกระหม่อมแล้ว แต่เทียบกับอานุภาพอันดุร้ายสะท้านโลกของมหาเทวะเสมอฟ้าในอดีตไม่ได้” กระบี่พุทธะทางหนึ่งพูด ประกายกระบี่พุ่งลง
วานรปีศาจด้านล่างอ้าปาก พ่นภาษามนุษย์ “ท่านมีสามบุปผาบนกระหม่อม ข่มเหงคนแล้ว”
วานรปีศาจยกสองมือขึ้น แสงทองรวมกลางฝ่ามือ ผนึกตัวกลายเป็นกระบองสารพัดนึกท่อนหนึ่ง แล้วหมุนวนราวกับกงล้ออัคคีวายุ
ขณะกระบองสีทองที่ดุร้ายหมุนวน ก็กวาดล้างก้อนเมฆสายลมรอบๆ ฟาดตีประกายกระบี่หลายสายที่พุ่งจากฟ้าจนแหลกสลาย
จากนั้นเขาพลิกร่าง ยังคงฟาดใส่แขนข้างที่กระบี่พุทธะใช้คว้าหากระบี่
กระบี่พุทธะยังคงยื่นมือ แต่ว่าท่าร่างกลับพลันล่องลอยไม่แน่นอน วินาทีนี้ ท่านเหมือนกับคงอยู่ทุกที่
ด้านหลังวานรปีศาจปรากฏกระบี่เล่มหนึ่ง แทงใส่กลางหลัง
บนศีรษะของพวกเยี่ยนจ้าวเกอปรากฏกระบี่หนึ่งเล่ม ราวทัณฑ์สวรรค์มาถึง
ด้านข้างกระบี่ลวงเซียนมีมือข้างหนึ่งพุ่งพรวด พริบตาเดียวถึงที่ใกล้ กำลังจะคว้ากระบี่โบราณได้แล้ว
กระบี่พุทธะที่ปรากฏขึ้นมาพร้อมกัน ล้วนกลายเป็นความจริง ไม่ใช่ภาพลวงตา
เป็นความน่าอัศจรรย์ที่ยอดฝีมือชั้นมหาชาลมีทุกคน
“ฮ่า!” แต่ว่าวานรปีศาจตนนั้นส่งเสียงกู่ร้อง พลิกตัวไปกลางอากาศ ฉับพลันนั้น กลางอากาศเหมือนกับปรากฎเงาร่างของวานรปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนในเวลาเดียวกัน!
กระบี่พุทธะมีกี่รูป วานรปีศาจก็มีเท่านั้น
ปรากฏการณ์ประหลาดที่มากมายจนตาลาย ทำให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอเหมือนติดในห้วงฝันชั่วขณะ
จากนั้นวินาทีต่อมา ความน่าอัศจรรย์ของทั้งสองฝ่ายก็หายไปหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี