ถึงแม้ว่าจ้าวฮ่าวจะไม่ได้ออกมือ ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอฟังเสียงลมหายใจของเขาออก อวัยวะภายในทั่วกายเขาล้วนผ่านการชำระล้างปราณจิตราเรียบร้อยแล้ว
ปราณจิตราเปี่ยมล้น เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าภายในร่างกายแปรสภาพเป็นกำแพงปราณแล้ว กล่าวอีกอย่างคือจ้าวฮ่าวในตอนนี้ อย่างน้อยน่าจะอยู่ในระดับสูงสุดปรมาจารย์ขั้นจิตราชั้นในระยะกลาง ถึงขั้นมีความเป็นไปได้ว่าเหยียบย่างระดับปรมาจารย์ขั้นจิตราชั้นในระยะท้ายแล้ว
เปรียบเทียบกับตอนพบกันที่เขานิมิตเมฆครึ่งปีก่อน ถือว่ารุดหน้ารวดเร็วนัก
ก่อนหน้านี้เกือบจะทำให้สายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำของสำนักตนเกิดระเบิดที่เขานิมิตเมฆไปแล้ว วันวานภายหลังของจ้าวฮ่าวที่เขาไร้พรมแดนเดิมควรจะลำบากแสนเข็ญ
เพียงแต่บัดนี้ชัดแจ้งว่าเขากลายเป็นศิษย์สืบทอดหลักของเขาไร้พรมแดนแล้ว ทั้งยังประสบผลสำเร็จเหนือโหวเสียงที่อายุอานามใกล้เคียงกัน เขาไร้พรมแดนจึงพาเขามาเข้าร่วมการประชุมฝ่านภา
เห็นได้ว่าเขายังสามารถช่วงชิงการให้ความสำคัญของเขาไร้พรมแดนได้
อย่างไรก็ตาม ไม่เอ่ยถึงความรู้การกลั่นโอสถเม็ดของเขาก่อน เทียบกับอายุในตอนนี้ นับว่าพลังฝึกปรือของจ้าวฮ่าวโดดเด่นทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นความเร็วในพัฒนาการของเขายิ่งทำให้โลกหล้าต้องตื่นตะลึง
ถึงแม้ว่าหวิดจะก่อความผิดพลาดอันใหญ่หลวงในเรื่องสำคัญ กระนั้นในฐานะศิษย์อ่อนอาวุโสคนหนึ่งแล้ว พรสวรรค์ด้านวรยุทธ์ของเขาควรค่าแก่การที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ก็ตามจะให้ความสำคัญ
สายตาจ้าวฮ่าวจ้องรัศมีแสงที่พุ่งจากเหนือของศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอสู่ท้องฟ้า “ถึงขั้นเคียงนภาจริงๆ แล้วสินะ…”
เปรียบเทียบระดับขั้นของเยี่ยนจ้าวเกอขณะนี้ที่เขารับรู้ กับความเร็วพัฒนาการหลายปีมานี้ เขาก็รู้สึกหวาดระแวงเช่นกัน
เยี่ยนจ้าวเกอไม่เพียงแต่กดอัดเขาในวิชาเข็มทองผ่านโอสถ หรือปัญหาการฟื้นฟูสายแร่ศิลาวิญญาณลึกล้ำ การฝึกฝนวิถีวรยุทธ์และพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม ก็ทำให้ผู้ที่มีประสบการณ์ความรู้กว้างขวางกล่าวชมด้วยความตื่นตะลึงเช่นกัน
กระนั้น แม้จะรู้สึกหวาดระแวงอยู่บ้าง ทว่าจ้าวฮ่าวไม่ได้ตึงเครียดแต่อย่างใด
เขาละสายตาที่มองไปทางเยี่ยนจ้าวเกอกลับมา ‘การฝึกฝนวรยุทธ์ยิ่งสูงขึ้นเท่าใด ความเร็วในการพัฒนาก็ยิ่งช้า ระดับขั้นพัฒนาขึ้น ไม่นานนักข้าก็จะไล่ตามเจ้าได้’
จ้าวฮ่าวยิ้มเย็นภายในใจ ‘ด้วยระดับขั้นเดียวกัน โจมตีเจ้าเหมือนกับโจมตีสุนัขตายนั่นแหละ’
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้สนใจจ้าวฮ่าวมากนัก เขากวาดสายผ่านแวบหนึ่ง มองไปยังศิษย์เขาไร้พรมแดนคนอื่น
ครานี้ศิษย์สืบทอดเขาไร้พรมแดนที่เข้าร่วมการประชุมฝ่านภาทั้งหมดสี่คน นอกจากจ้าวฮ่าวแล้ว จี้ฮั่นหรูก็อยู่ด้วยเช่นกัน
เท่าที่เยี่ยนจ้าวเกอรับรู้ หลังจากพ่ายด้วยน้ำมือของตนที่เขานิมิตเมฆแล้ว จี้ฮั่นหรู่ก็มุมานะกักตนเข้าฌานฝึกฝนบำเพ็ญเพียรเพื่อลบคำสบประมาท เขาที่เดิมทีอยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาระยะต้น วันก่อนที่จะมาเข้าร่วมการประชุมฝ่านภา เขาประสบผลสำเร็จ ก้าวเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาระยะกลางแล้ว
ผู้เยาว์อีกคนหนึ่งอายุใกล้เคียงกับเยี่ยนจ้าวเกอ แต่อายุมากกว่าจ้าวฮ่าว และน้อยกว่าจี้ฮั่นหรู
เรียวคิ้วและดวงตาของเขามีชีวิตชีวา สีหน้าอารมณ์สุภาพอ่อนโยน เขายิ้มน้อยๆ พลางผงกศีรษะแสดงการทักทายเยี่ยนจ้าวเกอและคนอื่นๆ
เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นำรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่ายประกบกับข้อมูลภายในสมองของตน
ผู้เยาว์ผู้นี้นามว่าเซียวอวี่ เป็นศิษย์สืบทอดหลักของเขาไร้พรมแดนเช่นกัน พรสวรรค์การฝึกฝนสูงลิ่ว ถึงขั้นที่มีเรื่องเล่าว่าเพียงพิจารณาแค่พรสวรรค์และความสามารถในการเข้าใจของเขา เขาถือเป็นอันดับหนึ่งในบรรดารุ่นเยาว์แห่งเขาไร้พรมแดนในตอนนี้
เพียงแต่ว่าคนผู้นี้ไม่ได้กระตือรือร้นต่อการฝึกฝนแต่อย่างใด ขยักขย่อนไม่เสมอต้นเสมอปลาย
ทว่าพรสวรรค์ของเขาโดดเด่นเหนือใครอย่างแท้จริง ต่อให้ไม่ได้มุ่งมั่นมากมายนัก ก็ยังคงเป็นผู้โดดเด่นในรุ่นเยาว์อยู่ดี
อีกฝ่ายแสดงออกถึงเจตนาดี เยี่ยนจ้าวเกอจึงยิ้มน้อยๆ และพยักหน้าเช่นกัน ถือเป็นทักทายตอบกลับไป
เห็นได้ชัดว่าเซียวอวี่ดีอกดีใจเป็นอย่างยิ่ง เขาหันศีรษะกลับไปกล่าวกับจี้ฮั่นหรูที่อยู่ข้างกาย “ศิษย์พี่จี้ ท่านดูสิ ง่ายดายยิ่งนัก ไม่มีปัญหาใดที่การสื่อสารแลกเปลี่ยนไม่สามารถแก้ไขได้ ขอเพียงมีบรรยากาศที่ดีก็ง่ายขึ้นแล้ว”
มุมปากจี้ฮั่นหรูกระตุกเล็กน้อย เขาเบือนหน้าหนีไม่พูดกล่าว
เยี่ยนจ้าวเกออดไม่ได้ที่จะเป็นบื้อใบ้ ทว่าความสนใจของเขาไม่ได้หยุดอยู่ที่เซียวอวี่และจี้ฮั่นหรูมากจนเกินไป
ศิษย์เขาไร้พรมแดนที่ดูอายุมากที่สุดด้านข้างของพวกจ้าวฮ่าวผู้นั้น ดูเหมือนจะยิ้มทว่าก็ไม่ยิ้ม กำลังมองทางด้านนี้ด้วยแววตาไม่เป็นมิตร
ชายหนุ่มจ้องศิษย์เขาไร้พรมแดนผู้นั้นตอบ พลางเลิกคิ้วเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี