เทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์ โถงเซียนกับแดนสุขาวดี และแดนสุขาวดีตะวันตกกับเผ่าปีศาจทำศึกใหญ่มาถึงวันนี้ ย่อมเป็นเรื่องที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอต้องการจะเห็น
แต่ว่าเป็นอย่างที่ไป๋เทาพูดก่อนหน้า ไฟสงครามของอีกฝ่ายจะมอดดับลงตอนไหน วันนี้ยากคิดถึง
“จัดการเรื่องของตัวเองให้ดีก่อนเถอะ” เยี่ยนจ้าวเกอระบายลมหายใจเบาๆ พูดกับเฉาเจี๋ย “ทำผู้อาวุโสเสียเวลามามากแล้ว รู้สึกไม่ดีจริงๆ วันนี้เดิมทีควรเป็นวันที่สหายร่วมเส้นทางทุกคนแสดงความยินดีกับผู้อาวุโส”
เฉาเจี๋ยส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”
ถึงแม้เขาจะกล่าวเช่นนี้ แต่เยี่ยนจ้าวเกอยังจบการสนทนา พวกเฉาเจี๋ยลุกขึ้นเดินไปด้านนอก พบกับแขกคนอื่นๆ
ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอย่อมไม่ปรากฏตัวแล้ว มอบเวทีให้แก่เฉาเจี๋ย
เกาเสวี่ยพอผ่อนฝีเท้าลง คุยกับเยี่ยนจ้าวเกอ “ก่อนหน้านี้หลายวันบิดากับมารดาต่างออกฌานแล้ว ถ้าหากว่าการเซ่นกระบี่มีผลลัพธ์ ก็พร้อมออกเดินทางทุกเวลา”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า จากนั้นถาม “ศิษย์น้องอวี่สถานการณ์เป็นอย่างไรแล้ว? หลายวันมานี้ข้ามิอาจไปมรกตท่องฟ้า”
“ยังไม่ฟื้น” เกาเสวี่ยพอถอนใจ “อาการบาดเจ็บในตอนนั้นหนักหนาเกินไป คัมภีร์โกลาหลสูญมีความร้ายกาจด้านการสังหารจริงๆ แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ของเย่เอ๋อร์กลับให้ผลตรงกันข้าม ไม่ส่งผลดีต่อการฟื้นฟู”
เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจคำหนึ่ง เข้าใจเหตุผลในนี้เช่นกัน
แต่สถานการณ์ยากลำบากขนาดไหน ก็ไม่มีทางแย่ไปกว่าตอนอิ๋งอวี่เจินในตอนนั้นแล้ว
หลังจากปลอบเกาเสวี่ยพอ เยี่ยนจ้าวเกอก็หยุดนิ่ง ใช้สายตาส่งพวกเขาไป จากนั้นทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ หลับตาทำสมาธิ
พร้อมกับที่เยี่ยนจ้าวเกอหลับตา ห้องสงบใจที่เดิมทีสว่างไสวตอนนี้พลันเปลี่ยนเป็นมืดมัวขมุกขมัว มิติเวลาพร่าเลือน ราวกับความโกลาหลแถบหนึ่ง
ในภาพอันเลอะเลือนนี้ หลังเยี่ยนจ้าวเกอหลับตาสักพัก ก็ลืมตาขึ้น
พร้อมกับที่เขาลืมตา ในห้องมิได้สว่าง เพียงแต่เหมือนกับแสงมัวๆ จุดหนึ่งสว่างขึ้น
ประกายแสงนี้เหมือนกับไฟเทียนในราตรี ดูเหมือนอ่อนแรงสุดขีด ส่ายวูบไปมา เหมือนกับพร้อมจะดับได้ตลอดเวลา
เยี่ยนจ้าวเกอดวงตาล้ำลึก เนิ่นนานให้หลังก็เลิกคิ้วขึ้น ‘…อยู่ๆ มาตามหา กลับไม่มีของมีค่าอันใด จำเป็นต้องใช้เบาะแสเป็นตัวนำ’
คัมภีร์เกิดนภา อันดับแรกในสามคัมภีร์ก่อนกำเนิดแห่งคัมภีร์นภาแรกเริ่ม หลายปีมานี้เยี่ยนจ้าวเกอได้เริ่มฝึกฝนแล้ว
คัมภีร์นภาเก้าม้วนที่เหลือล้วนรวบรวมครบ ทำให้คัมภีร์นภาไร้ขอบเขตของเยี่ยนจ้าวเกอมีความรุดหน้ามากมาย
สำหรับคัมภีร์เกิดนภา ยิ่งศึกษาจิตที่อยู่ด้านในมากเท่าไหร่ เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกได้ว่า บนศีรษะคล้ายมีเพดานที่ไร้รูปร่างเข้าใกล้ตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ มากเท่านั้น
ระดับการฝึกปรือยิ่งสูง ประสิทธิผลของคัมภีร์เกิดนภายิ่งแข็งแกร่ง แต่ว่าคำภีร์เกิดนภามิได้ครอบจักรวาล ยิ่งระดับของฝึกปรือสูงส่งเท่าไร่ ความรู้สึกด้านนี้ก็ยิ่งชัดเจนเท่านั้น
ไม่อย่างนั้นอวิ๋นจงจื่อที่อยู่ในระดับเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลก็ไม่ถึงกับตกตาย
ระดับของผู้ฝึกฝนยิ่งสูง การมองดูตัวตนที่ต่ำกว่าตัวเองก็ยิ่งมายิ่งชัดเจน เหมือนกับไม่มีความลับอยู่อีก อดีตล้วนอยู่ใต้ดวงตา ถึงความเป็นไปได้ต่างๆ ในอนาคตจะซับซ้อน แต่ก็ค่อนข้างแจ่มชัด
เพียงแต่สำหรับคนระดับสูงแล้ว วัตถุที่มีคุณค่าย่อมน้อยลงด้วย
อย่างเช่นสิ่งที่เยี่ยนจ้าวเกอสนใจในตอนนี้คือตัวตนอย่างกระบี่ลงทัณฑ์เซียนกับกระบี่สังหารเซียน ทว่าคิดหาพวกมัน ย่อมลำบากสุดขีดอย่างมิต้องสงสัย
คัมภีร์เกิดนภาใช้ร่องรอยที่ไม่ว่ามีความเกี่ยวข้องน้อยขนาดไหน ตามหาร่องรอยเบาะแส ขยายขอบเขตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกสิ่งไร้ทางซ่อน
ตัวตนอย่างสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนกลับลบร่องรอยที่ตัวเองทิ้งไว้กลางมิติเวลาในระดับสูง
‘หากไม่ใช้คัมภีร์เกิดนภาเป็นรากฐานของตัวเอง ประสิทธิภาพยังด้อยกว่าไม่น้อย’ เยี่ยนจ้าวเกอหลับตา นวดขมับของตัวเองเบาๆ
ความมืดในห้องสงบใจค่อยๆ ถดถอยไป ภาพและการจัดเรียงทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิม
กาลเวลาเลื่อนไหลไปอย่างเงียบๆ เยี่ยนจ้าวเกอสงบจิตใจ หลับตาทำสมาธิ รู้สึกได้ว่าความอึกทึกภายนอกค่อยๆ จางลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี