“หมายความว่า พวกเราต้องหาเหตุผลให้อีกฝ่าย เหตุผลที่มากพอจะทำให้พวกเขาหวั่นไหว ผ่อนคลายการโอบล้อมจักรวาลฟ้าฟื้นชั่วคราว ถึงขั้นมองข้ามการคุกคามที่พวกเราอาจรวบรวมสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนได้ครบในระดับหนึ่ง” เสวี่ยชูชิงว่า “สำหรับเส้นทางนอกรีตกับแดนสุขาวดีตะวันตกแล้ว บางทีพวกเขาอาจไม่เชื่อ แต่ขอแค่เปลือกนอกของเหตุผลนี้มีมากพอ พวกเขาก็จะผลักเรือตามน้ำ ทำเป็นผ่อนคลายแรงกดดันที่มอบให้พวกเรา เพื่อล่องูออกจากถ้ำ”
นางขมวดคิ้วเล็กน้อย “เหตุผลเช่นนี้หายากยิ่ง”
ตัวตนที่ต่ำกว่าระดับมรรคา แต่เทียบได้กับค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีอยู่สักกี่อย่าง?
ไม่กล่าวจากมุมมองด้านพลัง แม้พิจารณาคุณค่าจากด้านอื่นๆ ก็มีอยู่น้อยยิ่ง
สวีเฟยขมวดคิ้วเช่นกัน “คงไม่ให้พวกศิษย์น้องซือคงไปเสี่ยงอีกกระมัง?”
สำหรับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ เศษศิลาฟ้ากำเนิดส่วนหนึ่งที่หายไป มีความสำคัญยิ่งกว่าเศษศิลามนุษย์กำเนิดที่ตอนนี้เขากำลังช่วงชิงกับพระศรีอาริย์
“หากไร้หนทางจริงๆ เช่นนั้นได้แต่ขายเกาหานแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ “พวกชอบขายคนอื่นก็ต้องถูกคนอื่นขายทิ้ง เชื่อว่าท่านผู้เฒ่าราชันพระอาทิตย์คงเข้าใจ”
เสวี่ยชูชิงกับสวีเฟยมองเขาอย่างหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “ในเวลาแบบนี้เจ้าจริงใจหน่อยเถอะ”
“ก็ได้ ถ้าไม่ใช้เศษศิลาฟ้ากำเนิด ความจริงมีความคิดหนึ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “เพียงแต่ต้องขอให้พวกเจ้าแม่อู๋ตังสั่งสอน เพื่อเป็นการทดลอง”
เสวี่ยชูชิงพอได้ยิน คล้ายนึกอะไรได้ “มรดกบางอย่างของสายเหนือพิสุทธิ์หรือ? ตามคำพูดก่อนหน้านี้ของเจ้า วังหยกโดยพื้นฐานว่างเปล่าไปแล้ว วังท่องมรกตเกรงว่าคงเหมือนกันกระมัง?”
“ยังไม่ได้เข้าไปจริงๆ ผู้ใดยืนยันได้เล่า?” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย
เขาลุกขึ้น ออกจากตำหนักโอสถ มองดูการเปลี่ยนแปลงบของเมฆบนฟ้าไกล “ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร เล่นละครต้องเล่นให้สุด อดทนฝ่าเวลาสี่สิบเก้าปีนี้ไปให้ได้ รอโอกาสมาถึง ให้อีกฝ่ายปล่อยเหยื่อล่ออกมาก่อน”
“ถึงเวลานั้นเป็นพวกเราตัดเบ็ดทิ้ง กินเหยื่อล่อลงไป หรือถูกอีกฝ่ายตกได้ โดนจับในคราวเดียว ขึ้นอยู่กับฝีมือของตัวเองแล้ว”
สวีเฟยกับเสวี่ยชูชิงยืนอยู่ด้านข้างเขา ต่างพยักหน้าแช่มช้า
…
เขาดาราทะเลดวงดาว ในสวรรค์ไท่ซู่ แสงอัสดงวนเวียน เมฆมงคลไร้สิ้นสุด
แสงไฟสีแดงทองจุดหนึ่งลอยขึ้นมาจากต้นชบาศักดิ์สิทธิ์ พุ่งขึ้นไปด้านบนต่อเนื่อง ลอยไปยังวังทิพย์อันล่องลอยที่เหมือนกับอยู่ในที่สูงไร้สิ้นสุดนั้น
แดนหลี่กว่าง วังกษัตริย์บูรพา
ที่ประทับของกษัตริย์บูรพาไท่อี้คือที่นี่
แสงไฟรุ้งทองลอยเข้าไปในแดนลี่กว่าง แสดงรูปร่างของลู่ยาเต้าจวิน มาถึงด้านนอกวังกษัตริย์บูรพา เขาไม่ได้เข้าไป คารวะตำหนักที่เก่าแก่ยิ่งใหญ่ “ขอให้ใต้เท้ากษัตริย์บูรพาบอกที่อยู่ของวังดุสิต”
ในตำหนักไร้คนขานตอบ มีเพียงเสียงกระดิ่งดังขึ้น
จากนั้นลมสายหนึ่งบังเกิดขึ้นใต้เท้าลู่ยาเต้าจวิน ดันร่างเขาขึ้น ส่งออกจากแดนลี่กว่าง สวรรค์ไท่ซู่ เขาดาราทะเลดวงดาว ก่อนตะเข้าไปในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดนโดยตรง
ร่างของลู่ยาเต้าจวินเคลื่อนไหวในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน เหมือนกับสูญเสียนิยามของกาลเวลา ขึ้นสู่แดนเซียนแห่งหนึ่งในชั่วขณะที่พร่ามัว
ในแดนเซียน ตำหนักที่ภายนอกดูธรรมดาแห่งหนึ่งตั้งอยู่ด้านใน
เป็นวังดุสิต
นักพรตเด็กยืนอยู่ที่ประตูตำหนัก คารวะลู่ยาเต้าจวิน “เต้าจวินเดินทางมาไกล ศิษย์ขอคารวะ”
“ไม่ทราบสหายร่วมเส้นทางเสวียนตูกับสหายร่วมเส้นทางโฮ่วถู่อยู่หรือไม่?” ลู่ยาเต้าจวินถาม
“นายผู้เฒ่าน้อยกักตัวหลอมยา เจ้าแม่โฮ่วถู่ฝึกฝนในห้องสงบใจ เคยบอกว่าถ้าเต้าจวินมาเยี่ยม ให้พาไปพบนาง” นักพรตเด็กพูดจบก็นำทางอยู่ด้านหน้า
ลู่ยาเต้าจวินเข้าไปในวังดุสิต ติดตามนักพรตเด็กมาถึงห้องสงบใจห้องหนึ่ง
ด้านในห้อง สตรีอาภรณ์งดงามผู้หนึ่งนั่งอยู่บนเตียงเมฆ มองเห็นลู่ยาเต้าจวินเข้ามา ก็ลุกขึ้นพยักหน้ากล่าวว่า “เต้าจวินมาแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี