สี่สิบเก้าปีผ่านพ้น นอกในจักรวาลฟ้าฟื้นเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย
เวลาเว้นช่วงในการทำพิธีตามหากระบี่ทุกๆ ครั้งของเยี่ยนจ้าวเกอ มิใช่ความลับในหมู่ยอดฝีมือระดับสูงขั้นสุดยอด แต่คนส่วนใหญ่ล้วนไม่ทราบ
ในฟ้าเหนือฟ้า ผู้คนใช้ชีวิต จอมยุทธ์ตั้งใจฝึกฝน สนใจเรื่องรอบๆ ตัวมากกว่าเดิม
ตอนนี้เขาหลังด้านบนเขากว่างเฉิงพลันมีแสงอัสดงลอยขึ้น ปราณเซียนหลายสายหมุนเวียน
ด้านนอกนิวาสถานแห่งหนึ่งยืนไว้ด้วยบุรุษองอาจภายนอกมีอายุสามสี่สิบปี จอนสองข้างเป็นสีขาวประปราย ใบหน้าหล่อเหลาถึงขีดสุด
เขายืนอยู่ที่นั่น ไม่ได้สร้างสภาวะอันใด กลับมีความรู้สึกการดำรงอยู่ที่โดดเด่น เหมือนกับใจกลางฟ้าดิน
เป็นในนิวาสสถานด้านข้างบุรุษผู้นี้ ตอนนี้มีแสงอัสดงพุ่งสู่ฟากฟ้า มิได้เจิดจ้าเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
ทว่าขณะนี้บุรุษมีสีหน้ายินดี ดวงตาเต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม คารวะนิวาสสถานอย่างจริงจัง “ยินดีกับอาจารย์ที่ฝ่าภัยพิบัติมนุษย์เซียน ผลักเปิดประตูเซียน สำเร็จร่างไร้ช่องโหว่วได้อย่างราบรื่น”
ด้านหลังบุรุษยังยืนไว้ด้วยคนหลายคน ระดับพลังฝึกปรือมีสูงมีต่ำ คนที่อยู่ด้านหน้าเป็นสตรีผู้งดงามที่สูงชะลูดยิ่งคนหนึ่ง
ผู้คนมีสีหน้ายินดีเช่นกัน ต่างคารวะไปทางนิวาสถานอย่างจริงจัง “ยินดีกับท่านอาจารย์ที่ฝ่าภัยพิบัติมนุษย์เซียน ผลักเปิดประตูเซียน สำเร็จร่างไร้ช่องโหว่วได้อย่างราบรื่น”
ประตูนิวาสสถานเปิดออก ชายแก่ที่ร่างกายผอมซูบผู้หนึ่งเดินออกมา กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ปล่อยให้พวกเจ้ารอนานแล้ว”
เป็นเจ้าสำนักคนเก่าของเขากว่างเฉิง หยวนเจิ้งเฟิง
เขามองบุรุษผู้องอาจ ทอดถอนใจพลางกล่าว “เยี่ยนตี๋เอ๋ย จ้าวสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่มาคุ้มกันการฝ่าภัยพิบัติของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งได้อย่างไร? พวกเราล้วนทราบว่า ภัยพิบัติมนุษย์เซียนได้แต่ต้องพึ่งตัวเอง คนอื่นช่วยเหลือไม่ได้ เจ้าไม่จำเป็นต้องรออยู่ที่นี่”
เยี่ยนตี๋ยิ้มเรียบเฉย “ศิษย์คุ้มครองอาจารย์ผู้มีพระคุณ ปกติยิ่ง”
“เจ้านี่…” หยวนเจิ้งเฟิงมิใช่คนไร้เหตุผล อดยิ้มพลางส่ายหน้าไม่ได้ “แค่เจ้านึกถึงก็พอแล้ว ใยต้องยึดมั่นในพิธีรีตองอีก? พวกเจ้าคนรุ่นหนุ่มสาวจึงเป็นเสาค้ำสำนักเราและฟ้าเหนือฟ้า อย่าได้เสียการใหญ่เพราะเรื่องเล็กน้อย นับวันดูแล้วใกล้จะครบสี่สิบเก้าปีแล้วกระมัง?”
“วันที่จะครบสี่สิบเก้าปีกำลังมาแล้ว” เยี่ยนตี๋ตอบคำถามของหยวนเจิ้งเฟิงก่อน จากนั้นก็ค่อยพูดว่า “การเปลี่ยนจากมนุษย์เป็นเซียนแตกต่างกัน ครั้งนี้ศิษย์ย่อมต้องมา”
หยวนเจิ้งเฟิงโบกมือ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “คลื่นลูกหลังกลบคลื่นลูกหน้า สืบทอดอดีตพัฒนาต่อไปในอนาคต สามารถเห็นสภาพรุ่งเรืองในวันนี้ได้ ข้าสมปรารถนาแล้ว”
“ข้าผู้เฒ่าสามารถถอดกายมนุษย์ สำเร็จร่างเซียน จะว่าไปล้วนอาศัยพวกเจ้าคนหนุ่มสาว อาศัยสภาพในตอนนี้บนฟ้าเหนือฟ้าและความแข็งแกร่งของสำนักเรา ตัวข้ามิอาจชมเชยตัวเองได้”
เยี่ยนตี๋ยิ้ม “อาจารย์ ด้วยระดับและอายุขัยในตอนนี้ของท่าน อายุของท่านยังน้อยยิ่ง บอกว่าเป็นคนหนุ่มไม่ถือว่าเกินเลย แต่มิใช่ชายชราแล้ว ยิ่งไม่ต้องบอกว่าเป็นผู้เฒ่า”
“เคยชินไปแล้ว เป็นการบ่งบอกว่าจิตใจข้าแก่แล้ว” หยวนเจิ้งเฟิงหัวเราะเยาะตนเอง “ถ้าหากมิใช่พวกเจ้าพูดจนข้าฮึดขึ้นมา เกิดความคิดขึ้น อายุขัยมากไป ก็เป็นแค่การใช้ชีวิตไปวันๆ เท่านั้น”
สตรีร่างสูงข้างเยี่ยนตี๋ยามนี้เอ่ยขึ้น “อาจารย์เป็นเพราะท่านยังมีปณิธาน ดังนั้นจึงวันนี้จึงพัฒนาขึ้นไม่หยุดยั้ง อนาคตมีความสำเร็จมากกว่าเดิม สามารถเฝ้าคอยได้แล้ว”
สตรีนางนี้ย่อมเป็นฟู่เอินซูที่เป็นศิษย์พี่ของเยี่ยนตี๋ และเป็นลูกศิษย์ของหยวนเจิ้งเฟิง
พวกเฟิงฉือยืนอยู่ด้านข้างเยี่ยนตี๋กับนาง แม้นพลังฝึกปรือจะมีสูงมีต่ำ แต่ล้วนเป็นศิษย์ที่หยวนเจิ้งเฟิงสอนสั่งด้วยตัวเอง วันนี้จึงมาแสดงยินดีกับการออกฌานของอาจารย์ผู้มีพระคุณ
กล่าวโดยมองจากภายนอก หยวนเจิ้งเฟิงมีพรสวรรค์ด้านวรยุทธ์สูงมาก ถ้าหากว่าเติบโตขึ้นในเงื่อนไขสภาพแวดล้อม ณ ตอนนี้ของเขากว่างเฉิง ความสำเร็นของเขาจะโดดเด่นกว่าตอนนี้
สภาพแวดล้อมกับประสบการณ์บนโลกแปดพิภพในอดีต ได้ฉุดรั้งหยวนเจิ้งเฟิงระดับหนึ่ง
เขาอาจจะไม่บรรลุถึงขีดจำกัดศักยภาพของตัวเองได้อีก
ตามปกติแล้ว เรื่องน่ายินดีแบบนี้ไม่ประกาศออกไปยังพอว่า ถ้าหากประกาศทั่วใต้หล้า ขุมกำลังอื่นๆ ที่ไม่มีความแค้นกัน มักจะส่งคนมาแสดงความยินดี
แต่สมมติว่ายอดฝีมือที่เลื่อนขอบเขตของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีระดับสูงกกว่า อย่างเช่นจักรพรรดิแพรกลายเป็นกษัตริย์ ตามหลักเกณฑ์ที่เห็นพ้องกันแล้ว จะเป็นหยวนเจิ้งเฟิงที่กลายเป็นเซียน ถูกเรียกว่าจักรพรรดิแห่งเขากว่างเฉิง กับตัวแทนของขุมกำลังอื่นๆ มุ่งหน้าไปที่ผาบัวแดง ขณะที่หยวนเจิ้งเฟิงแสดงความยินดีกับฟู่อวิ๋นฉือ ก็รับพิธีแสดงความยินดีของคนอื่นๆ พร้อมกับฟู่อวิ๋นฉือด้วย
สถานการณ์แบบนี้มีให้เห็นน้อยสุดขีด แต่มิใช่ว่าไม่เคยมีตัวอย่าง ดังนั้นทุกคนเพียงดำเนินการตามธรรมเนียมใช้ได้แล้ว
แต่ตอนนี้คำพูดของฟู่เอินซูทำให้หยวนเจิ้งเฟิงงุนงงอยู่บ้าง
ถึงแม้ปัจจุบันเขากว่างเฉิงจะมีตำแหน่งและขุมกำลังเหนือกว่าผาบัวแดง แต่ว่ารูปแบบบนฟ้าเหนือฟ้าของเขากว่างเฉิงมิใช่ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ เรื่องราวแบบนี้ไม่ถึงกับทำลายกฎเกณฑ์ที่ตกลงกันจนกลายเป็นธรรมเนียม
สามารถทำให้ฟู่อวิ๋นฉือกับผาบัวแดงมายังเขากว่างเฉิง เช่นนั้นก็มีเพียงความเป็นไปได้เดียว
ในเขากว่างเฉิงมียอดฝีมือระดับสูงกว่าเซียนลี้ลับถือกำเนิดขึ้น!
“หรือว่าจ้าวเกอ...” หยวนเจิ้งเฟิงไตร่ตรองเล็กน้อย สีหน้าฉายแววยินดีทันที
ในตอนนั้นเอง เสียงเขายังไม่ทันขาดลง ก็เห็นในนิวาสสถานอีกแห่งบนเขาหลังของเขากว่างเฉิง มีแสงอัสดงห้าสีพุ่งสู่ฟากฟ้า!
รุ้งแผ่พุ่งทั่วฟ้าดิน ขยายออกไปรอบๆ ไม่หยุด
สายลมก้อนเมฆเคลื่อนตัว ถึงกับครอบคลุมฟ้าเหนือฟ้า ถึงขั้นม้วนออกไปด้านนอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี