สถานการณ์ของสำนักเต๋าเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง แต่ว่ายังไม่ใช่เวลาได้ดีแล้วลืมตน
คิดจะทำให้โลกอันรุ่งเรืองเหมือนที่สำนักเต๋าเคยสยบฟ้าดินมาแล้วในอดีตปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ยังมีเส้นทางอันยาวไกลต้องเดิน
หาาก้าวพลาดบนเส้นทาง สภาพอันรุ่งเรืองในวันนี้อาจกลายเป็นสายน้ำได้ตลอดเวลา
พวกเยี่ยนจ้าวเกอรู้เรื่องนี้ดี ไม่สูญเสียความฮึกเหิมและความระวัง
หลังจากเซ่นไหว้ปลอบประโลมผู้วายชนม์เสร็จ ทุกคนก็ออกจากหุบเขาเจิดจรัส
“เมื่อก่อนข้าได้สาบานกับกงจักรมหาประกายกาฬใต้ต้นผมขาวต้นนั้นว่า ต้องการให้คนที่เคยกลุ้มรุมอิ่นประกายกาฬตายด้วยกงจักรมหาประกายกาฬ ให้กงจักรมหาประกายกาฬแก้แค้นด้วยตัวเอง” เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งเดินทางหนึ่งพูด “น่าเสียดายตอนไปพื้นที่ของเส้นทางนอกรีตเพื่อตามหาเฮ่อเหมี่ยนในครั้งนั้น เวลาฉุกละหุก มาไปรีบเร่ง ไม่ทันได้ตามหาคนในตอนนั้นเพื่อคิดบัญชี”
เขาก้มหน้ามองวงแสงสีที่ส่องแสงระยิบระยับในมือ “อนาครจะต้องเพิ่มเรื่องนี้เข้าไปด้วย”
“เรื่องที่สมควรกระทำย่อมต้องกระทำ แต่ว่าอย่าได้เร่งรีบเกินเหตุ” เสวี่ยชูชิงกล่าว
“ท่านวางใจ ข้าทราบดี” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า
ขณะที่ภายในสำนักเต๋ายุ่งกับการสร้างสวรรค์ ขยับขยายดินแดน ดึงดูดความสนใจของขมุกำลังอื่นๆ ก็ให้ความสนใจกับทิศทางของโลกภายนอกอย่างต่อเนื่องด้วย
แดนสุขาวดีตะวันตกกับเขาดาราทะเลดวงดาวสงบศึกกันแล้ว
ทางโถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาว เทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์ต่างไม่ปรากฏตัวขขึ้นอีก มีแต่ยอดฝีมือเส้นทางนอกรีตซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของแต่ละฝ่ายยังคงสู้กันอยู่
ทว่าระดับความรุนแรงของสงครามใหญ่เริ่มลดลงแล้วเช่นกัน
ในที่สุดพระศรีอาริย์ก็สามารถหลอมเปลี่ยนเศษศิลามนุษย์กำเนิดได้อย่างเรียบร้อย สงครามที่เส้นทางนอกรีตสองฝ่ายพัวพันมาร้อยปีในครั้งนี้ ในที่สุดก็จบลง เริ่มเข้าสู่ช่วงสงบศึกรอบใหม่
ระหว่างกันและกันถึงแม้จะมีการกระทบกระทั่งกันอยู่ ความขัดแย้งและการต่อสู้ขนาดเล็กบังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การศึกขนาดใหญ่ต้องรอรอบต่อไป
ความรุ่งเรืองของสำนักเต๋าย่อมดึงดูดความระวังและความหวั่นเกรงของเส้นทางนอกรีตสองเส้นทาง คอยป้องกันตลอดเวลา
การปะทุของสงครามครั้งต่อไป จำเป็นต้องมีจังหวะเวลาใหม่ ไม่อย่างนั้น ยากจะเกิดขึ้นอีกครั้งในเวลาไม่กี่ปี
แต่สำหรับสำนักเต๋าสายหลักในปัจจุบันแล้ว ไม่จำเป็นต้องอาศัยการต่อสู้ระหว่างสองฝ่าย ค่อยกล้าเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยอีก
แน่นอนว่าสำหรับพวกเยี่ยนจ้าวเกอ ตนเองสามารถมองดูเสือสู้กันบนภูในการต่อสู้ระหว่างกันเองของคู่ต่อสู้ได้ ย่อมประเสริฐสุด
“ถ้าเผ่าปีศาจกับศาสนาพุทธสาสยหลักล้วนไม่สอดมือ ความได้เปรียบของแดนสุขาวดีบัวขาวในที่สุดยังมากกว่าโถงเซียน” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “โถงเซียนรุกคืบไม่ได้ แต่ถ้าหากว่าจะป้องกันอย่างเดียว ก็ไม่ถึงกับเสียท่า อย่างมากสุดทิ้งแดนเซียนอีกส่วนหนึ่ง แล้วหุบอาณาเขตก็ใช้ได้”
“พวกเราปล่อยให้เป็นไปกระมัง?” สวีเฟยพูดพลางใคร่ครวญ
ด้านหนึ่งสำนักเต๋าสายหลักเพิ่งได้ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนมา เหล่าคู่ต่อสู้คนอื่นๆ อยู่ในช่วงเวลาที่หวั่นเกรงที่สุด พากันเก็บเขี้ยวเล็บ คอยระวังการเคลื่อนไหวทางสำนักเต๋าสายหลัก
เวลานี้หากสำนักเต๋าสายหลักกดดันต่อไม่ยอมเลิกรา แม้นพวกคู่ต่อสู้จะไม่ยินยอม ก็เป็นไปได้ว่าจะถูกกระตุ้นจนยอมทุ่มเทกำลัง
สถานการณ์อีกด้านหนึ่งตอนนี้อยู่ในสมดุลที่แยบคาย
หากว่าตอนนี้ผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์ช่วยแดนสุขาวดีบัวขาวเสี่ยงอันตรายทุบตีโถงเซียน แดนสุขาวดีบัวขาวย่อมยินดี โถงเซียนจะล่มสลายอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อเป็นแบบนั้น เทวกษัตริย์ไร้ประมาณก็ไม่มีอะไรต้องหวาดกลัวอีก ไม่กริ่งเกรงค่ายกลลงทัณฑ์เซียนอีกต่อไป
ถึงเวลาจะมีแต่แดนสุขาวดีบัวขาวที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี