ธงเหลืองโบ่วกี้ อาจต้านทานความร้ายกาจของมหาวิทยราชมยุรีได้
แต่ว่าได้แต่ถูกกระทำจึงจะปกป้องฝ่ายหนึ่งให้ปลอดภัยได้เท่านั้น มหาวิทยราชมยุรีย่อมยังคงยึดครองฝ่ายบุกที่ได้เปรียบมากอยู่
ทว่าสำหรับสำนักเต๋าสายหลักแล้ว ของล้ำค่าชิ้นนี้ยังคงมีความหมายสำคัญ
ถึงอย่างไรต่อให้ไม่มีมหาเทวะเสมอฟ้า พวกเขาก็ยังมีพวกหยางเจี่ยน สั่วหมิงจาง และเฟิงอวิ๋นเซิง
หลายปีมานี้ผู่ยิ่งใหญ่สำนักเต่าอย่างพวกหยางเจี่ยนและจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ ต่างทดลองค้นหาของวิเศษชิ้นนี้มาโดยตลอด
พวกเฟิงอวิ๋นเซิง จักรพรรดิโกวเฉิน ยังมีคนอื่นๆ ในสำนักเต๋า ก็ออกไปค้นหาเป็นประจำ น่าเสียดายจนถึงวันนี้ยังไร้ผลลัพธ์
“ข้าควบคุมค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ถอนตัวไม่ได้ เรื่องแดนสุขาวดีตะวันตกได้แต่ไหว้วานพวกเจ้าแล้ว” เจ้าแม่อู๋ตังว่า “ถ้าอามิตาภพุทธเจ้ามีการเคลื่อนไหว ข้าจะลองรับมือดู”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “นี่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง รบกวนเจ้าแม่อู๋ตังด้วย”
“จริงด้วย พวกเจ้าทดลองสอดมือเข้าไปในเรื่องสารีริกธาตุศากยมุณี จำเป็นต้องระวังอีกฝ่ายปิดฟ้าข้ามทะเล วางแผนการอื่นไว้ด้วย” เจ้าแม่อู๋ตังพูดเป็นครั้งสุดท้าย
“ข้าเข้าใจ ขอบคุณเจ้าแม่อู๋ตังกล่าวเตือน” เยี่ยนจ้าวเกอประสานมือให้ประกายกระบี่สีเขียวมรกตที่ค่อยๆ ถดถอยไป
ในการชิงค่ายกลลงทัณฑ์เซียนสงครามเมื่อร้อยปีก่อน เยี่ยนจ้าวเกอกับคนในสำนักเต๋าใช้ความสมบูรณ์ในความว่างเปล่า ใช้ความว่างเปล่าในความสมบูรณ์[1] ในสถานการณ์ที่ได้รับธงหกวิญญาณจากวังดุสิต ยังสร้างภาพลวงด้วยการตามหาธงหกวิญญาณ เพื่ออำพรางเจตนาในการชิงค่ายกลลงทัณฑ์เซียน กลับทำให้อีกฝ่ายประมาทเลินเล่อ
ผลคือในช่วงสุดท้าย นางเซียนอวิ๋นเซียวกราบบูชาธงหกวิญญาณ ขัดขวางเหล่าเจ้ามรรคาในพริบตาหนึ่ง ทำให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอล่าถอยได้อย่างปลอดภัยหลังจากชิงค่ายกลลงทัณฑ์เซียนแล้ว
ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนสุดท้ายตกมาอยู่ในการควบคุมของสำนักเต๋า เปลี่ยนสถานการณ์ยากลำบากตั้งแต่มหาภัยพิบัติด้วยมือเดียว
วิธีการเช่นนี้ สำนักเต๋าสายหลักทำได้ ขุมกำลังอื่นๆ อย่างแดนสุขาวดีตะวันตกย่อมทำได้เช่นกัน
การค้นหาแผนการที่แท้จริงของอีกฝ่าย อำพรางแผนการที่แท้จริงของตัวเอง เดิมทีเป็นเรื่องสำคัญในการวางหมากของทุกฝ่าย
พวกเยี่ยนจ้าวเกอนึกเชื่อมโยงถึงพระอานนท์ และสารีริกธาตุศากยมุณีและมหาวิทยราชมยุรี เพราะพระสันนวสะเถระ
แต่ก็ใช่ว่านี่ไม่อาจเป็นกระสุนหมอกควันนที่แดนสุขาวดีตะวันตกปาออกมา เพื่อล่อลวงเยี่ยนจ้าวเกอกับสำนักเต๋า หรือเผ่าปีศาจ และนพยมโลก
ภายใต้การอำพรางของภาพลวง ไม่แน่ว่าแผนการที่แท้จริงของศาสนาพุทธสายหลักจะเป็นภาพอีกแบบหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอถึงขั้นสงสัยว่า นี่จะเป็นหลุมพรางที่แดนสุขาวดีตะวันตกวางไว้แต่แรกอยู่แล้ว รอให้คนเหยียบโดน
‘ต้องคิดหาวิธีเผยข่าวให้แก่มหาวิทยราชมยุรีหรือไม่?’ เยี่ยนจ้าวเกอขบคิด
การปล่อยข่าวให้แก่มหาวิทยราชมยุรี สะดวกในการยืนยันความจริงของเรื่องนี้ ขณะเดียวกันก็ทำให้แดนสุขาวดีตะวันตกปวดศีรษะได้
กระนั้นก็ไม่ใช่ไม่มีข้อเสีย
ระดับมรรคาไม่ออกมา ความแข็งแกร่งของมหาวิทยราชมยุรีก็ไม่มีอะไรต้องสงสัย ถ้าหากว่ามีสารีริกธาตุศากยมุณีจริงๆ ก็เป็นไปได้อย่างยิ่งที่สุดท้ายจะตกไปอยู่ในมือของท่าน
สารีริกธาตุศากยมุณีในมือมหาวิทยราชมยุรีค่อยๆ เพิ่มขึ้น หมายถึงท่านเข้าใกล้ระดับมรรคามากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้ยังไม่ยืนยันเงื่อนไขอย่างเป็นรูปธรรมในการทะลวงสู่ระดับมรรคาของมหาวิทยราชมยุรี แต่ว่าคู่แข่งแบบนี้ ไม่เพียงแต่ทีปังกรพุทธะกับลู่ยาเต้าจวินไม่อยากจะเห็น พระอาจารย์เสวียนตูกับสำนักเต๋าสายหลักก็ไม่ต้องการเห็นเช่นกัน
เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญ แขนเสื้อเขาพลันขยับ
หัวน้อยๆ ที่มีวงตาดำยื่นออกมาจากในแขนเสื้อ
“นอนพอแล้ว?” เยี่ยนจ้าวเกอถาม
สิ่งที่หมอบอยู่ในแขนเสื้อเขาย่อมเป็นพ่านพ่าน ก่อนหน้านี้สหายตัวน้อยแสดงกายทองมหาเทวะ ควบคุมกระบองสารพัดนึก หลังจากคืนร่างเดิมก็หลับปุ๋ยเหมือนที่แล้วมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี