วัชรอภิณฑ์พุทธะก่อนจะจากไป มองทีปังกรพุทธะ หลังเว้นช่วงเล็กน้อย ก็เอ่ยว่า “จำเป็นต้องระวังทางมหาวิทยราชมยุรี”
“สารีริกธาตุในมือสหายร่วมเส้นทางข่งซวนยิ่งมายิ่งมาก เขาเริ่มยิ่งมายิ่งอยู่ไม่สุขแล้วเช่นกัน” ทีปังกรพุทธะว่า “ในสถานการณ์ที่เขามีเจตนา การเคลื่อนไหวมากมายใช่ว่าจะปิดเขาได้ ได้แต่พยายามเต็มที่เท่านั้น”
พุทธะเก่าแก่สีหน้าสงบนิ่งไร้อารมณ์ “ทุกท่นขอให้ระวังตัวเป็นหลัก ถ้าหากว่าสหายร่วมเส้นทางข่งเข้าร่วมจริงๆ เช่นนั้นก็ให้ใช้แผนการที่สอง”
“อาตมาทราบแล้ว” วัชรอภิณฑ์พุทธะพยักหน้า ออกจากแดนสุขวดีพุทธเกษตรของทีปังกรพุทธะพร้อมกับนักบวชศาสนาพุทธที่เหลือ กลายเป็นบัวเขียวออกห่างไป
ในพุทธเกษตรอีกแห่งหนึ่ง มหาวิทยราชมยุรีซึ่งร่างส่องแสงศักดิ์สิทธฺ์ห้าสีสีหน้าไร้ความโศกศัลย์หรือยินดี คล้ายกับเรื่องราวไม่เกี่ยวกับตัวเอง
ทว่าสายตาของเขามองไปยังเงาร่างของนักบวชศาสนาพุทธเช่นพวกวัชรอภิณฑ์พุทธะที่กลายเป็นบัวเขียวจากไป อย่างคล้ายมีเจตนาไม่เจตนา
“ดูเหมือนจะจริง…” มหาวิทยราชมยุรีถึงร่างกายยังคงไม่เคลือ่นไหว ทว่ากล่าวพึมพำกับตัวเอง ใบหน้าฉาวยแววครุ่นคิด ไม่ละสายตากลับมาเนิ่นนาน
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงที่เฝ้าอยู่ใกล้ๆ ตอนนี้คอยเห็นว่าในแดนสุขวดีตะวันตกมีบัวเขียวจำนวนมากลอยข้นตามลำดับ
“มีเลศนับจริงๆ” เฟิงอวิ๋นเซิงตาเป็นประกาย
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “และอาจจะเป็นเพราะไปตามหาเป้าหมายอื่น ตอนนี้ยังยากจะสรุป”
“ได้ยินความหมายของเกาหาน สมควรติดต่อมหาวิทยราชมยุรีได้แล้ว แต่ว่ามหาวิทยราชมยุรีตอนนี้ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหว” เฟิงอวิ๋นเซิงมองแดนสุขาวดีตะวันตก
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “ใจเย็นจริงๆ เกรงว่าจะรอพวกเราบอกท่านว่ารายละเอียดอยู่ตรงไหนเพิ่ม”
“การเคลื่อนไหวมากเกินไป ยากจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกแดนสุขาวดีตะวันตกพบ” เฟิงอวิ๋นเซิงมองนักบวชศาสนาพุทธเช่นพวกวัชรอภิณฑ์พุทธะที่กำลังจะหายไป “พวกเราแบ่งกำลังต่อหรือ? ยากจะคาดคำนวณว่าอีกฝ่ายมีคนกลุ่มที่สามหรือไม่”
“ความเป็นไปไได้ไม่บอกว่าไม่มีโดยสมบูรณ์ แต่ค่อนข้างต่ำแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “พวกสมันตภัทรโพธิสัตว์กลับไปได้สักพักแล้ว แดนสุขาวดีตะวันตกยังคงลากถ่วงเวลานานขนาดนี้ค่อยมีการเคลื่อนไหว บ่งบอกว่าพวกเขากำลังค้นหาสารีริกธาตุศากยมุณีไม่ง่ายเช่นกัน ใช้กำลังคนค่อนข้างมาก หนำซ้ำเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะต้องรักษาวิชาลับนั้นต่อ นี่ต้องแบ่งกำลังคนส่วนหนึ่ง หาวิธีจับตาทางมหาวิทยราชมยุรีไม่ง่ายเช่นกัน จำเป็นต้องแบ่งสมาธิส่วนหนึ่งของพวกเขา”
เยี่ยนจ้าวเกอมองแดนสุขาวดีตะวันตกแวบหนึ่งค่อยเอ่ยว่า “พวกเราติดตามไปเถอะ ขณะเดียวกันก็แจ้งใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋กับเกาหานด้วย”
สองคนร่วมทาง ติดตามบัวเขียวหลายดอกนั้นแต่ไกล
พวกเขาสองคนเชี่ยวชาญการลอบเร้นสะกดรอย แต่ว่าไม่กล้าอยู่ติดเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่จะถูกอีกฝ่ายพบเท่าที่จะทำได้
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋กับเกาหานได้รับข่าวที่เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงส่งไป แต่ไม่ได้ผ่อนคลายในทันที แต่จับตาดูนักบวชศาสนาพุทธที่ออกจากแดนสุขาวดีตะวันตกเป็นกลุ่มแรกเช่นพวกพระโพธิสัตว์กวนอิมต่อไป
หลีกเลี่ยงไม่ให้อีกฝ่ายใช้ความสมบูรณ์ในความว่างเปล่า ใช้ความว่างเปล่าในความสมบูรณ์ เปลียนลวงเป็นจริง เปลี่ยนจริงเป็นลวง
รอจนฝ่ายตัวเองมีเบาะแสที่แน่นอนแล้ว ค่อยเป็นจังหวะเวลาของการรวมตัวออกแรงอย่างแท้จริง
เดินทางได้สักพัก เฟิงอวิ๋นเซิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ดูเหมือนไม่ถูกต้องอยู่บ้าง”
“…คล้ายเป็นกลิ่นอายของเผ่าปีศาจ” เยี่ยนจ้าวเกอพบปัญหาแล้วเช่นกัน
ด้านตรงข้ามของการเชี่ยวชาญการลอบเร้น เป็นความสามารถด้านการรับรู้ของทั้งสองต่างโดดเด่นเหนือธรรมดา
“มหาวิทยราชมยุรีคงไม่แจ้งเรื่องนี้กับเผิงท่องเมฆหมื่นลี้กระมัง?” เฟิงอวิ๋นเซิงถาม “พี่ร่วมเส้นทางหนานจี๋กับเกาหานก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้”
เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง “พระอานนท์ครั้งกระโน้นมรณะเพราะพระศรีอริยเมตไตรย ตอนนี้แดนสุขาวดีตะวันตกกับพระสันนวสะเถระมีการเคลื่อนไหวแล้ว ไม่แน่ว่าจะสร้างความตื่นตัวให้แก่ทางแดนสุขาวดีบัวขาว”
“ถึงขั้นที่ทางแดนสุขาวดีบัวขาวมีผลลัพธ์ก่อน ด้านแดนสุขาวดีตะวันตกจึงค่อยมีความก้าวหน้าใหม่ในวันนี้”
หลังจากคาดเดา เยี่ยนจ้าวเกอก็อดยิ้มไม่ได้ “มาถึงขั้นนี้ ทุกคนต่างคอยระวังกันและกัน คิดมีการเคลื่อนไหวในที่ลับยิ่งมายิ่งลำบากแล้ว ผลประโยชน์แต่ละอย่างล้วนจำเป็นต้องผ่านการช่วงชิง”
“นี่คล้ายกับเป็นการพิสูจน์จากอีกด้านว่า คนในแดนสุขาวดีตะวันตกกลุ่มที่สองของพวกเรา เป็นเป้าหมายที่ถูกต้อง” เฟิงอวิ๋นเซิงว่า
“อืม ใช่แล้ว สามารถแจ้งทางพวกใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋แล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี