พอเกิดจิตชั่วร้าย นันทิเกศวรกวงติ้งดวงตาปรากฏประกายดุร้าย
ท่านมองที่ไกลตรงนั้น หมาป่าขุยมู่ เซียนหัวมังกร และจอมปีศาจตอนอื่นกำลังพัวพันกับนักบวชศาสนาพุทธจากแดนสุขาวดีตะวันตก
ขณะพวกเขาป้องกันผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธกลุ่มนั้น ตนเองไหนเลยไม่ใช่ถูกผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธเหล่านี้หยุดไว้!
ทางนันทิเกศวรติ้งกวงแสงพุทธส่องระยิบระยับไม่มั่นคง หมาป่าขุยมู่ที่เป็นห่วงไป๋ฮวาซิวมาโดยตลอดสัมผัสได้ทันที
ถึงจะไม่เข้าในสภาพการณ์ แต่หมาป่าขุยมู่ก็ยังเกิดความกังวลนับหมื่น
จนปัญญาที่นักบวชศาสนาพุทธกลุ่มหนึ่งคอยพัวพัน ทำให้หมาป่าขุยมู่มิอาจฝ่าวงล้อมกลับมาทางนี้ได้
พอเห็นภาพนี้ ความกังวลสุดท้ายของนันทิเกศวรติ้งกวงก็หายไป หันมามองสตรีอาภรณ์น้ำเงินนางนั้นทันที
อีกด้านหนึ่ง กลางความว่างเปล่าพลันปรากฏเงาคนสายหนึ่ง เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ คล้ายมีกลับสู่ไม่มี
เงาคนสายนั้นเข้าใกล้แสงพุทธที่ส่องระยิบระยับไม่มั่นคงอย่างเงียบงัน
ในตอนนั้นเอง ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกโผล่ขึ้นมา ขวางอยู่ตรงหน้าเงาคนสายนี้
เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งตามองไป เห็นอีกฝ่ายเป็นนักพรตสวชุดคลุมสีแดงตัวใหญ่ผู้หนึ่ง ใบหน้าดุจคราม ผมเหมือนผงชาด หน้าผากมีดวงตาที่สาม ขี่อูฐเนตรทองตัวหนึ่ง
นักพรตผู้นี้ถือกระบี่วิเศษ มีความสามารถสามเศียรหกกร ร่างละหม้ายคล้ายอินเจียวจักรพรรดิไท่ส่วยประจำปีในตอนนั้น
เห็นรูปร่างของเขา เยี่ยนจ้าวเกอก็กระจ่างแจ้ง “ที่แท้เป็นจักรพรรดิอัมพรโรคา นับถือมานานแล้ว”
นักพรตผู้นั้นชื่อหลี่ว์เยว่ เป็นผู้ยิ่งใหญ่สายข้างแห่งเหนือพิสุทธิ์ในยุคโบราณตอนต้น สร้างจวนขึ้นบนเกาะเก้ามังกร ชื่อเสียงค่อนข้างเลื่องลือ มีของวิเศษมากมายเช่นตราปั้นฟ้า กระดิ่งโรคา ธงสร้างโรคภัย กระบี่ชี้โรค เต็มไปด้วยอิทธิฤทธิ์แปลกประหลาด ร้ายกาจยิ่ง สร้างชื่อขึ้นในยุคโบราณตอนต้น
หลี่ว์เยว่ประสบภัยในสงครามสนาปนาเทพ ภายหลังขึ้นทำเนียบเซียน เข้าสู่วังเทพ เป็นผู้ปกครองฝ่ายโรคระบาด ฉายาจักรพรริอัมพรโรคา
ตอนเกิดมหาภัยพิบัติ เขาก็หลุดจากทำเนียบสถาปนาเทพเช่นกัน
ภายหลังโถงเซียนถูกตั้งขึ้น หลี่ว์เยว่์เข้าสู่โถงเซียนพร้อมกับอวี่ฮว่าหลงเทพฝ่ายฝีดาษแห่งวังเทพ เป็นหนึ่งในฐานศิลาแรกสุดของวังเทพ ปัจจุบันยังเป็นเซียนสวรรค์มหาชาลที่โชกโชนที่สุดของโถงเซียนเส้นทางนอกรีต ผ่านศึกใหญ่กับแดนสุขาวดีบัวขาวมามากมาย ผลการรบกึกก้อง
เขาปรากฏตัวที่นี่ เยี่ยนจ้าวเกอจะมากจะน้อยก็ประหลาดใจอยู่บ้าง ถึงอย่างไรตอนนี้โถงเซียนก็เผชิญแรงกดดันจากแดนสุขาวดีตะวันตกหนักยิ่ง
แดนสุขาวดีบัวขาวมีเวลาว่างส่งนันทิเกศวรติ้งกวงมาทางนี้ โถงเซียนคิดส่งหลี่ว์เยว่มา มีความยากมากมายนัก พวกเขาที่สุดแล้วก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ตอนนี้ไม่ฉวยโอกาสทวงความได้เปรียบ กลับติดตามทัพแยก หลี่ว์เยว่มายังที่นี่ด้วยตัวเอง เห็นได้ว่าเรื่องไป๋ฮวาซิวมีคนวางแผนมานานแล้วจริงๆ คนผู้นี้เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นตัวหลี่ว์เยว่นั่นเอง
ทว่าพอถูกเยี่ยนจ้าวเกอขวางไว้ ใบหน้าเป็นประกายน้ำเงินของหลี่ว์เยว่ตอนนี้ก็ย่ำแย่เช่นกัน
ขณะนี้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไม่ได้เปลี่ยนเป็นร่างปีศาจ แต่แสดงหน้าตาในตอนแรก ถึงจะไม่ได้มีชื่อเท่าเยี่ยนจ้าวเกอตัวจริง แต่ลักษณะท่าทางแบบนี้วันนี้ก็มีคนรู้จักไปทั่วเช่นกัน
หลี่ว์เยว่เห็นรูปร่างของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ย่อมจดจำความเป็นมาได้
เห็นร่างแยกของเยี่ยนจ้าวเกอ หลี่ว์เยว่ทราบในใจทราบว่าแย่แล้ว แต่ตอนนี้พาดลูกเกาทัณฑ์บนสาย มิอาจไม่ปล่อย
เขากระโดดลงจากหลังอูฐเนตรทองข้างใต้ ควบคุมให้อูฐเนตรทองพ่นเพลิงสายฟ้า หมายจะหยุดร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก
หลี่ว์เยว่รุดไปทางนันทิเกศวรกวงติ้งกับไป๋ฮวาซิวต่อ
แต่ว่าอูฐเนตรทองมิอาจต้านทานร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกได้แม้แต่น้อย ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกโน้มตัว รอยสักรูปวานรปีศาจบนบ่าด้านขวาสาดแสงเจิดจ้า กลายเป็นร่างวานรปีศาจขนาดมหึมาในพริบตาเดียว
กายทองมหาเทวะอยู่ในระดับสุญญตา แต่ยังคงรักษาความน่าอัศจรรย์มากมายไว้
โดยเฉพาะมหาเทวะเสมอฟ้าตัวจริงเดิมเชี่ยวชาญการเปลี่ยนแปลงวิชาเคลื่อนที่อยู่แล้ว
ถึงแม้ปกติยากจะทำได้ถึงขั้นคงอยู่ที่อย่างเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาล แต่กับคู่ต่อสู้ระดับมหาชาล สามารถใช้ออกตามการกระตุ้น ร่างไม่ตกอยู่ด้านหลัง ต้านลดความแปลกพิสดารมากมายของศัตรูระดับมหาชาลได้ในระดับสูงยิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี