ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 169

ในฐานะผู้นำรุ่นเยาว์แห่งเมืองทะเลมรกต ซ่งเฉา คุณชายเจ็ดทะเล หนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุคก็มีความทะนงตนและความมั่นใจในตนเองเช่นกัน เขามีความตั้งใจที่จะประลองวัดฝีมือกับถังหย่งฮ่าวจริงๆ

หากไม่ใช่ถังหย่งฮ่าวกับสวีเฟยจะต้องการประลองเสียให้ได้ ซ่งเฉาจะต้องตัดสินแพ้ชนะกับถังหย่งฮ่าวให้จงได้

ทว่าบัดนี้ เขาเองก็หมดกะจิตกะใจจะเอาเปรียบถังหย่งฮ่าวเช่นกัน

ถ้าหากประมือกับเขาจนพลังสูญสลายมากไป จะส่งผลอย่างหนักต่อการประลองระหว่างถังหย่งฮ่าวกับสวีเฟย เพียงแค่หวั่นเกรงเช่นนี้เท่านั้น ก็อาจทำให้ถังหย่งฮ่าวตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบโดยไม่รู้ตัว

ซ่งเฉาหมดอารมณ์จะเอาเปรียบถังหย่งฮ่าว และยิ่งไม่มีทางใช้กระบวนท่าวารีเทียมฟ้าอย่างที่ศิษย์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์เอ่ยแน่

หลังจากเห็นว่าถังหย่งฮ่าวตอบตกลงแล้ว ซ่งเฉาก็พยักหน้า “โปรดชี้แนะด้วย”

กล่าวจบ เขาก็ฟาดฝ่ามือหนึ่งออกไปทางถังหย่งฮ่าว ปราณจิตราพลันพรั่งพรู กลายสภาพเป็นโลกลวงตา

เพียงแต่ว่าตนในฐานะจอมยุทธ์ขั้นฝ่านภา โลกลวงตาอันกลายสภาพมาจากปราณจิตราของซ่งเฉา เทียบกับจอมยุทธ์ขั้นเคียงนภาแล้ว ต้องกระชับจริงแท้ยิ่งกว่า

ไม่เพียงแต่ถังหย่งฮ่าวที่ประจัญหน้าโดยตรง ต่อให้เป็นเยี่ยนจ้าวเกอและคนอื่นๆ ที่ชมการประลอง เบื้องหน้าของพวกเขาราวกับปรากฏคลื่นยักษ์สูงเทียมฟ้า โจมตีแสกหน้ามาทางตนเช่นกัน

บัดนี้เบื้องหน้าคล้ายกับเป็นมหาสมุทรกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ไร้ขอบไร้เขตจำกัด มีเสียงคลื่นกระทบดังอยู่ข้างหูไม่ขาดสาย พลังที่พุ่งออกมาดุดันว่องไวยิ่ง

ถังหย่งฮ่าวเผชิญหน้ากับฉากนี้ มือขวาตั้งสองนิ้วชูขึ้นประดุจกระบี่ ใช้พลังแหวกสมุทร แทงกระบี่หนึ่งออกไปด้านหน้า

ประกายกระบี่สีทองสายหนึ่งที่เสมือนกับหันหน้าเข้าหาตะวันขึ้นลอยทอดข้ามท้องฟ้า ลมปราณอันร้อนแผดเผาประหนึ่งดวงอาทิตย์ปกคลุมฝูงชนไว้อย่างฉับพลัน

หนึ่งในเจ็ดวิชาสุริยัน วิชาสืบทอดแห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ เพลงกระบี่อรุณเบิกฟ้า!

แววตาเยี่ยนจ้าวเกอทอประกายวับวาบ ก่อนที่เขาจะเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบนเล็กน้อย

ชายหนุ่มเห็นว่าเมฆหมอกทั่วท้องฟ้าด้านบนกระจายตัวออกไป มีแสงอาทิตย์ส่องทะลุออกมารางๆ จากในชั้นเมฆ

บริเวณปลายนิ้วของถังหย่งฮ่าว มีลำแสงออกมาและพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว คล้ายกับว่ามีบางสิ่งที่แข็งแกร่งก่อตัวอยู่ แสงอาทิตย์บนท้องฟ้าเหนือศีรษะก็รวมตัวไปทางปลายนิ้วถังหย่งฮ่าวอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน!

ชั่วเวลาพริบตาเดียว แสงสว่างโชติช่วงมากขึ้นเรื่อยๆ ประหนึ่งกับแปรสภาพเป็นดวงอาทิตย์ยามอรุณรุ่งที่ค่อยๆ ทะยานขึ้นท้องนภาอย่างอย่างช้าๆ

ภายในอาทิตย์อรุณสีทองอ่อนส่งความร้อนกระจายออกมาไม่มีที่สิ้นสุด ในโลกหล้าราวกับปรากฏดวงอาทิตย์สองดวงอยู่กลายๆ ดวงหนึ่งอยู่บนท้องฟ้าเหนือศีรษะ อีกดวงหนึ่งก็อยู่เบื้องหน้าฝูงชนนี่เอง

เดิมทีประกายกระบี่เหมือนกับแสงรุ่งอรุณ อ่อนโยนทว่าไม่อ่อนแอ สว่างจ้าทว่าไม่แผดเผา

กระนั้นในชั่วพริบตาที่แสงอาทิตย์กับมหาสมุทรอันแปรสภาพมาจากปราณจิตราของซ่งเฉาสัมผัสกัน แสงวับวาบนับไม่ถ้วนก็เสียดแทงดวงตาในทันที ประดุจกับคมเข็มและปลายรวงข้าว ประดุจกับลำแสงที่เหมือนกับเข็มบางก็ไม่ปาน ปะทุโครมครามกลายเป็นฝนแสงกลุ่มหนึ่ง กระเจิงออกไปทั่วทั้งสี่ทิศ

แสงเล็กแหลมสีทองทุกเส้นเมื่อปะทะเข้ากับกระแสน้ำทะเลโดยรอบ ก็เกิดการระเบิดอันรุนแรง

ระเบิดอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด! ระเบิดอย่างหาที่สิ้นสุดไม่ได้!

การระเบิดจากการกระทบกันของลำแสงสีทองนับร้อยล้านสายกับมหาสมุทรอันไม่มีที่สิ้นสุด!

มหาสมุทรประหนึ่งกับเมฆดำที่ถูกแสงอาทิตย์ไล่ให้แตกกระจาย พลิกไปมาถอยหลีกลี้ กระจัดกระจายไม่เป็นชิ้นเป็นอัน สุดท้ายกลายเป็นหยดน้ำอันหาขอบเขตไม่ได้ คล้ายกับฝนเทกระหน่ำลงจากฟ้าอย่างไรอย่างนั้น

จากนั้นหยดน้ำทุกหยดก็ถูกแสงเล็กแหลมสีทองเจาะอีกครั้ง ทยอยแตกร้าวต่อเนื่องกันไป จนในที่ก็สุดหายไปอย่างไร้เงา ไร้ร่องรอย!

เหมือนเช่นแอ่งน้ำบนพื้นดิน ระเหยออกไปจนเกลี้ยงทั้งหมด ด้วยแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมา

ถังหย่งฮ่าวเก็บกระบี่พลางลุกขึ้น เขามองซ่งเฉา แล้วเอ่ยด้วยความนอบน้อมจริงใจ “ศิษย์พี่ซ่ง ยอมให้ข้าชนะแล้ว”

ซ่งเฉาไม่ได้เอาเปรียบเขาอย่างแท้จริง ถูกต้องเช่นกล่าวมา พละกำลังและปราณจิตราที่สูญสลายไปของคนทั้งสอง น้อยนิดจนแทบจะไม่ต้องใส่ใจเลยก็ได้ ยิ่งไปว่านั้นคือความเข้าใจบรรลุการแข่งขันชิงชัยในการเปลี่ยนแปลงกระบวนท่าและท่วงทำนองในวิถีวรยุทธ์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี