ตอนพูดว่า ‘ตัวแปรหมดสิ้น จังหวะเวลามาถึงแล้ว’ ทีปังกรพุทธะมองเหล่าจวินในค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์แวบหนึ่ง
ตรงนั้นเจ้ามรรคาห้าคนสู้รบกัน กำลังสะกดตรึงกันพอดี
“พระพุทธองค์เมตตา” พุทธะเก่าแก่ละสายตา พนมมือเปล่งคำสรรเสริญคุณ “สหายร่วมเส้นทางขออภัยที่ล่วงเกิน”
วินาทีถัดมา ร่างของมหาวิทยราชมยุรีที่ตอนแรกกำลังสู้รบกับสั่วหมิงจางสั่นน้อยๆ
กลุ่มแสงห้ากลุ่ม หนึ่งใหญ่สี่เล็กลอยออกมาจากบนร่างเขา
ทุกคนเพ่งตามองไป เห็นในกลุ่มแสงห้ากลุ่มนั้น คือวัชระปลุกเสกท่อนหนึ่ง และสารีริกธาตุสี่ชิ้น
‘วัชระปลุกเสกที่เจ้ามรรคาจุ่นถีเคยใช้ปราบมยุรี ยังมีสารีริกธาตุศากยมุณีที่ท่านทิ้งไว้ก่อนหลุดพ้นไป!’ เยี่ยนจ้าวเกอมองกลุ่มแสงห้ากลุ่ม ตาเป็นประกาย
สารีริกธาตุศากยมุณีมีทั้งหมดห้า ชิ้นหนึ่งชิ้นอยู่ในมือมหาวิทยราชมยุรี ชิ้นหนึ่งอยู่ในมือทีปังกรพุทธะ ชิ้นหนึ่งอยู่ในมือพระอานนท์ ชิ้นหนึ่งอยู่ที่วังดุสิต ชิ้นหนึ่งอยู่ในมือพระศรีอริยเมตไตรย
หลายปีมานี้เกิดการพลิกกลับไปกลับมา มหาวิทยราชมยุรีได้สารีริกธาตุสี่ชิ้น เหลือชิ้นสุดท้ายในมือพระศรีอาริย์
พระศรีอาริย์ก็เห็นด้วยว่า หลังจากการวางหมากบนนพยมโลกในวันนี้จบลง จะมอบสารีริกธาตุศากยมุณีชิ้นนี้ให้แก่มหาวิทยราชมยุรีเป็นการชดเชย
วัชระปลุกเสกท่อนนั้นเป็นของวิเศษที่เจ้ามรรคาจุ่นถีเคยใช้ปราบมหาวิทยราชมยุรีในยุคโบราณตอนต้น
ในตอนแย่งชิงธงเหลืองโบ่วกี้ก่อนหน้านี้ ถูกแดนสุขาวดีตะวันตกนำมาต้านทานอานุภาพของมหาวิทยราชมยุรี
แต่ว่าวัชระปลุกเสกใช้ได้แค่ครั้งเดียว ภายหลังตกไปอยู่ในมือข่งซวน
สูญเสียธงวิเศษบัวเขียว ไม่มีวัชระปลุกเสก แย่งธงเหลืองโบ่วกี้ไม่ได้ ในมือก็ไม่มีสารีริกธาตุศากยมุณีมากกว่านี้
ดังนั้นการวางหมากบนนพยมโลกในวันนี้ แดนสุขาวดีตะวันตกไม่อาจไม่เผชิญผลลัพธ์ที่มหาวิทยราชมยุรีช่วยเหลือเผ่าปีศาจ หันหอกแทงใส่
การแย่งชิงรองจากระดับมรรคา ผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์สำนักเต๋าคล้ายกิ่งเดี่ยวงดงาม ใช้พลังของตัวเองรับมือการร่วมมือกันของฝั่งปีศาจ พุทธ มาร
มาตรว่าในสำนักเต๋า ระหว่างพระอาจารย์เสวียนตูกับจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋จะบังเกิดความบาดหมาง แต่ว่าสำนักเต๋าใช้หนึ่งสู้สอง ยังคงสะกดพุทธและปีศาจไว้ได้
ก่อนที่สำนักเต๋าจะเข้าร่วม ลู่ยาเต้าจวินที่ได้รับการช่วยเหลือจากมหาวิทยราชมยุรี เอาชนะทีปังกรพุทธะได้
แดนสุขาวดีตะวันตกต้านทานมาถึงตอนนี้ เหมือนได้แต่อดทนเคลื่อนไหวอยู่รอบนอก ดูว่าจะมีโอกาสประสบโชคคว้าช่องโหว่วหรือไม่
การวางหมากบนนพยมโลก ทีปังกรพุทธะมองไปเป็นเป็นผู้ที่ใกล้เคียงกับผู้ที่ออกจากกระดานเป็นคนแรก
แต่ว่าพุทธะผู้เก่าแก่ท่านนี้ตอนนี้พลันสร้างความลำบาก
มหาวิทยราชมยุรีเงยหน้ามองไป เห็นบนวัชระปลุกเสกท่อนนั้นมีตัว 卍 ลอยขึ้นเลือนราง
ตัว 卍 หมุนวน แสงเคลือบบริสุทธิ์สาดลง
กลางแสงสว่าง บัวเขียวหลายดอกเหมือนกับมาตุภูมิในแดนสุขสันต์ เหมือนแดนสุขาวดีที่ไร้กังวลในอีกฟากฝั่ง
เงาแสงพุทธะขนาดมหึมาองค์หนึ่งเดี๋ยวสูญเดี๋ยวโผล่ด้านใน
มองไปเห็นร่างของอามิตาภพุทธเจ้า!
‘อามิตาภพุทธเจ้าชิงหมากตานี้ หลักๆ คือชิงโอกาสกลุ้มรุมสังหารพระศรีอริยเมตไตรย แต่ถ้าท่านหลุดพ้นได้ ให้ดีที่สุดแดนสุขาวดีตะวันตกได้พระพุทธเจ้าองค์ใหม่มาเฝ้า’
ทุกคนเห็นดังนั้นก็ทราบกระจ่าง
แดนสุขาวดีตะวันตกที่เหมือนกับถูกคัดออกไปนอกกระดาน ความจริงอามิตาภพุทธเจ้ากับทีปังกรพุทธะมีแผนการแต่แรก รอจังหวะเวลาสุดท้ายมาโดยตลอด เพื่อให้โจมตีครั้งเดียวประสบผล!
สารีริกธาตุศากยมุณีสี่ชิ้นถูกแสงบริสุทธิ์จากวัชระปลุกเสกเชื่อมต่อ ปล่อยแสงทองออกมา สาดส่องสี่ทิศ
พุทธรูปขนาดยักษ์สี่องค์นูนขึ้นในแสงสว่างสีทอง แยกกันยึดครองสี่ด้าน ปกป้องวัชระปลุกเสกไว้ตรงกลาง
พุทธะสีทองสี่องค์สะกดลงมา มหาจักรวาลกับเขตมารนพยมโลกเหมือนกับกำลังหยุดนิ่ง สิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านในต่างขยับเขยื้อนไม่ได้
วินาทีนี้คล้ายกับพระศรีศากยุมณีพุทธเจ้ามายังโลกมนุษย์!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี