ผู้อาวุโสหลิวมองดูท่าทีสบายๆ ของเยี่ยนจ้าวเกอ พลันรู้สึกว่าเพลิงโทสะสุมขึ้นในอก
เป็นเด็กหนุ่มตรงหน้าผู้นี้เอง ที่ทำให้เรื่องดีๆ ของเขากับภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตพังลง แล่ะก็ดับความหวังสุดท้ายของเขาเช่นกัน
คนหนุ่มผู้นี้เคยทำให้เขาชื่นชมว่า ‘บิดาพยัคฆ์ไม่มีบุตรสุนัข’ ประโยคหนึ่ง
ทว่าบัดนี้ คนหนุ่มผู้นี้กลับชี้ขาดชะตากรรมของเขา
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างเงียบสงบ “ท่านจะเอาความเป็นความตายของสรรพชีวิตมาเป็นเดิมพัน แลกมาซึ่งความก้าวหน้าขึ้นขั้นหนึ่งของตัวท่าน ความถูกผิดของการกระทำนี้ ไม่ถูกประเมินค่าที่นี่ ถึงอย่างไรในสายตาท่าน ชีวิตคนเป็นพันเป็นหมื่นก็สู้ชีวิตท่านคนเดียวไม่ได้ ท่านพอใจที่จะคิดเช่นนี้ก็เป็นอิสระของท่าน”
“แต่กลับกัน แผนการของท่านล้มเหลว กระนั้นท่านก็ต้องรับผิดชอบราคาตอบแทนที่เหมาะสมเป็นธรรมดา จุดนี้ ผู้อาวุโสหลิวน่าจะเตรียมใจเอาไว้แล้วกระมัง?”
“ท่านจะตอกย้ำความเจ็บปวดทรมานและจำใจ ความไม่ยินยอมและดิ้นรนของตนอีกเช่นไร ล้วนเปลี่ยนแปลงจุดนี้ไม่ได้แล้ว”
เขายิ้มเย็นชา “ท่านน่าจะไม่คิดจะบอกกล่าวพวกเรา ท่านคิดว่าสิ่งของที่ท่านอยากได้หลังจากท่านประสบความสำเร็จแล้วนั้นสมเหตุสมผล แต่ท่านล้มเหลวแล้ว ไม่ว่าเรื่องใดกลับล้วนจะไม่มีกระมัง?”
ผู้อาวุโสหลิวหอบหายใจหนัก สายตาจดจ้องเยี่ยนจ้าวเกอไม่วางตา
เยี่ยนจ้าวเกอสบตาเขาอย่างเงียบสงบ สีหน้าท่าทางสุขุมมั่นคง เปี่ยมด้วยแววครุ่นคิด
หยวนเจิ้งเฟิงโบกมือเบาๆ “จ้าวเกอ”
ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ ผงกศีรษะให้หยวนเจิ้งเฟิง ถอยลงก้าวหนึ่ง ไม่ปริปากพูดจาใดๆ อีก
ผู้อาวุโสหลิวเพ่งมองเยี่ยนจ้าวเกอ เส้นสายตากวาดผ่านรอยประทับมารหลังมือซ้ายของชายหนุ่ม ฉับพลันนั้นเขาตกตะลึงเล็กน้อย หลังใคร่ครวญเล็กน้อยสักครู่ ก็เข้าใจสถานการณ์คร่าวๆ
อารมณ์เขาไม่พลุ่งพล่านต่อไปอีก หากแต่ประกายตาทวีความเย็นเยือก มองทางเยี่ยนจ้าวเกอ “ไอ้หัวขโมย เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจเร็วไป”
เยี่ยนจ้าวเกอเลิกคิ้วเล็กน้อย เผยเห็นสีหน้าคล้ายจะยิ้มทว่าไม่ยิ้ม พลางเพ่งมองผู้อาวุโสหลิวไม่พูดจา
หยวนเจิ้งเฟิงถอนใจครั้งหนึ่ง มองผู้อาวุโสหลิวพลางกล่าว “ศิษย์น้องหลิว มาถึงขั้นนี้แล้ว พูดมากไปก็เปล่าประโยชน์ ดั่งเช่นศิษย์พี่หวัง เกี่ยวกับนพยมโลก เกี่ยวกับภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขต ล่วงรู้อะไรบ้างก็พูดมาเถิด หากสือเถี่ยลงมือแล้ว ใบหน้าทุกคนล้วนไม่น่ามองนัก”
ผู้อาวุโสหลิวเปล่งเสียงอัดอั้นครั้งหนึ่ง
สำหรับการไต่สวนของผู้อาวุโสหลิว ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างแน่นอน เรื่องเล่าลือเกี่ยวกับภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขต สำนักเขากว่างเฉิงมีความเข้าใจที่มากยิ่งขึ้น
กระนั้นคำถามที่ทำให้ทั่วทั้งเขากว่างเฉิงสนใจ ก็คือในบรรดายอดฝีมือระดับสูงสายกว่างเฉิงคนอื่นๆ ยังคงมีคนถูกภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตและนพยมโลกกัดกร่อนแทรกซึมเช่นกันหรือไม่
น่าเสียดายที่คำถามนี้ไม่ได้คำตาบจากผู้อาวุโสหลิวเช่นกัน
เหมือนเช่นผู้อาวุโสหวังในตอนนั้น ยอดฝีมือที่ถึงระดับขั้นพวกเขาระดับนี้แล้ว ถูกภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตกัดกร่อนดึงมาเป็นพวก ล้วนดำเนินการลำพังทั้งสิ้น
นอกเสียจากว่ามีเรื่องใหญ่เช่นเหตุที่ทะเลสาบปิดนภาเช่นนั้น ต้องการยอดฝีมือจำนวนมากร่วมมือปฏิบัติการ หาไม่แล้ว ระหว่างพวกเขาก็ยากจะยืนยันว่าใช่คนของภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตหรือไม่เช่นกัน
กลับเป็นเพราะการเปิดโปงของผู้อาวุโสหลิว ดึงหัวไชเท้าออกจากโคลน[1] ในเครือข่ายบรรดาเหล่าจอมยุทธ์ระดับกลางและล่างที่ถูกเขาขยับขยายกัดกร่อน ครั้งนี้ล้วนถูกเปิดโปงต่อเนื่องกันทั้งสิ้นเช่นกัน
ออกจากตำหนักอาญาแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอตามหลังกลุ่มหยวนเจิ้งเฟิง บรรยากาศล้วนหนักอึ้งอยู่บ้าง
ฟางจุ่นเอื้อนเอ่ยเสียงเบา “เป็นความผิดพลาดของข้า ช่วงนี้ผู้อาวุโสหลิวออกจากสำนักและเวียนใช้ทรัพยากรบางอย่างหลายครั้ง ล้วนอยู่ในหนังสือตอบรายงานข้านี้ หลังจากผ่านเหตุที่ทะเลสาบปิดนภา ใจระแวงระวังของข้ายังคงไม่เพียงพอ”
หยวนเจิ้งเฟิงโบกมือ “ไม่มีใครรู้ว่าตั้งมหาค่ายกลแดนมารท้ายที่สุดแล้วต้องการสิ่งใดกันแน่ เรื่องไม่อาจโทษเจ้าได้ ทรัพยากรที่เจ้าเขียนหนังสือตอบรายงานเวียนใช้ ล้วนเป็นของที่ศิษย์น้องหลิวมีอำนาจจัดสรรได้ปกติ”
เขาเดินหน้าไปอีกไม่กี่ก้าว ก็เหลียวกลับมองทางเยี่ยนจ้าวเกอและสือเถี่ย อมยิ้มกล่าว “ครานี้พวกเจ้าทำได้ดีเยี่ยม โชคดีที่มีพวกเจ้าอยู่ ไม่เช่นนั้นแล้วพื้นที่ใจกลางของเกาะนภาใต้เปิดประตูนพยมโลกออกโดยไม่ได้เตรียมป้องกันแม้แต่น้อย ผลลัพธ์ย่อมสุดจะจินตนาการได้”
สือเถี่ยเอ่ย “เป็นวิธีการที่เยี่ยนจ้าวเกอคิด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี