เขากว่างเฉิงเปิดฉากโจมตีโต้ ยึดพื้นที่กลับคืน ภายใต้การนำของหยวนเจิ้งเฟิง
ฉวยโอกาสที่หวงกวงเลี่ยเสียมาตรสุริยันวัดสวรรค์ ขณะเดียวกันก็ได้รับบาดเจ็บ เขากว่างเฉิงได้ทีจึงไม่ยั้งมือ ยังไล่บุกไปตามเส้นทางเข้าสู่อัคคีพิภพอีกครั้ง
ความคืบหน้าของสถานการณ์ ทำให้จอมยุทธ์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์รู้สึกคุ้นเคยอยู่บ้าง…
ในยามสงครามถังตะวันออกตอนแรก คล้ายว่าก็เป็นลักษณะเช่นหนนี้ ชนะก่อนแล้วค่อยแพ้พ่าย
ไม่เพียงขนชัยชนะทั้งปวงก่อนหน้ากลับไป หนำซ้ำกระทั่งทุนเดิมของตนเองล้วนยังขนออกไป
ลำดับเหตุการณ์ที่คุ้นเคย สถานการณ์ที่คุ้นเคย วนกลับมาอีกครั้ง…
ด้วยเหตุนี้แม้แต่ความรู้สึกชนิดคับแค้นใจจนอย่างจะกระอักเลือดนั้น ล้วนเหมือนกันราวกับแม่พิมพ์เดียวกัน ถึงขั้นหนักหนายิ่งกว่าเสียอีก
ครั้นยามรู้ว่าสงครามนี้เสียอาวุธศักดิ์สิทธิ์มาตรสุริยันวัดสวรรค์ของสำนักตนอย่างไม่คาดคิด ทั้งสำนักตั้งแต่เบื้องบนจนเบื้องล่าง ต่างพูดไม่ออกชั่วขณะ
บนยอดเขาเรืองรอง ขณะนี้แสงอาทิตย์ไม่เจิดจ้าอีกต่อไป หากแต่ปรากฏสภาวะเมฆครึ้มอึมครึมออกมาหลายส่วนอย่างพบได้ยาก
ผู้อาวุโสเก่าแก่พานป๋อไท่และผู่จ้าวจวิน ผู้นำเจ็ดสุริยัน ต่างก็สิ้นใจอยู่ภายใต้เขากว่างเฉิงทั้งสิ้น
ซี่จ้าวจวินนั่งอยู่ภายในตำหนักใหญ่ สีหน้าผิดแผกไปอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เขาเองก็ไปนภาพิภพเช่นกัน ทว่าเพียงหยุดปราบปรามพื้นที่เพียงชั่วครู่ ณ เกาะนภาใต้ ไม่ได้ตามเข้าไปยังเขากว่างเฉิงอีก
ไม่เช่นนั้นก็ยากยิ่งจะจินตนาการ ภายใต้สถานการณ์ที่นอกจากหวงกวงเลี่ยแล้ว ทุกผู้คนล้วนพ่ายแพ้ยับเยิน เขากลับโชคดีรอดตายมาได้
ทว่าขณะเดียวกับที่ซี่จ้าวจวินกำลังรู้สึกโชคดีเล็กน้อยอยู่นั้น ยังรู้สึกอัปยศและแค้นใจอย่างยากเอื้อยเอ่ย
สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ยกทัพบุกเขากว่างเฉิงนภาพิภพครั้งนี้ ไม่สามารถใช้สำนวนว่า ‘มาอย่างฮึกเหิมสำราญใจ ผลคือกลับอย่างหมดอาลัยตายอยากยิ่ง’ มาบรรยายได้แล้ว หากแต่คือปะทะหัวร้างข้างแตก จนเกือบสิ้นชีวิตอยู่ภายใต้เขากว่างเฉิง
จิตใจอันฮึกเหิม และความพอใจที่ปณิธานบรรลุก่อนออกเดินทาง ราวกับกลายเป็นเรื่องตลกทั้งสิ้น
ใบหน้าของหวงซวี่ เจ้าสำนักปัจจุบันสุขุมดุจน้ำ สายตามองยังห้องสงบจิตที่อยู่ตรงหน้า
หลังจากหวงกวงเลี่ยกลับสำนักแล้ว เขาก็เข้าไปในห้องสงบจิต บ่มเพาะและบำรุงร่างกาย ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่หยวนเจิ้งเฟิงประเคนให้กับเขา
หลังจากฟื้นฟูอาการเจ็บแล้ว เช่นนั้นหากพบเจอหยวนเจิ้งเฟิงและชุดคลุมนภาที่สถานที่นอกเขากว่างเฉิง หวงกวงเลี่ยยังคงมีพลังความสามารถในการต่อสู้
ถ้าหากหยวนเจิ้งเฟิงรีบเร่งมาเหยียบยอดเขาเรืองรองล่ะก็ กระนั้นสถานการณ์พลิกกลับโดยสิ้นเชิงแล้ว ถึงแม้จะมีกายจะมีอาการเจ็บ หวงกวงเลี่ยก็ไม่เกรงกลัวเช่นกัน
เพียงแต่แม้จะเป็นเช่นนี้ แนวโน้มตอนแรกที่ยามเพิ่งออกฌานปรารถนาจะกวาดล้างใต้หล้าต่อเนื่อง พลันชะงักกึก ถูกตัดตอนกลางคัน
สูญเสียมาตรสุริยันวัดสวรรค์ไป ยิ่งไม่อาจทนรับความเจ็บปวดได้
หวงซวี่มองห้องสงบจิตพักใหญ่ จึงค่อยถอนสายตา ครั้นเหลียวศีรษะกลับ เส้นสายตาของเขากวาดผ่านร่างบรรดาบุคคลระดับสูงของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์เบื้องหน้า
เสียงเขาทุ้มต่ำ “เฝ้ารักษามั่นคอยกำลังหนุน สอดส่องทุกย่างก้าว หลังจากท่านพอหายดีแล้ว อัคคีพิภพยังคงเป็นของสำนักเรา ชายแดนที่ทั้งสองฝ่ายคุมเชิงกันอยู่ ยังคงกั้นนภาพิภพกับอัคคีพิภพเอาไว้”
เหล่าบรรดาผู้อาวุโสระดับสูงสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ล้วนผงกศีรษะ
หวงเจี๋ย บุตรของหวงซวี่ หลานชายของหวงกวงเลี่ย ยืนอยู่ในมุมด้านหลังสุดของกลุ่มคน ไม่มีความรู้สึกว่าดำรงอยู่แม้แต่น้อย
เขามีสีหน้าเรียบเฉย ไม่สะทกสะท้านต่อเรื่องนี้ บนใบหน้าเพียงแค่เผยสีหน้ารวมสมาธิไตร่ตรองออกมาเท่านั้น
หวงซวี่มองหวงเจี๋ยแวบหนึ่ง อีกฝ่ายในขณะนี้กลับคืนเป็นปกติโดยสมบูรณ์แล้ว
ในตอนที่หวงกวงเลี่ยเพิ่งกลับสำนักสักครู่ ข่าวคราวที่น่าเชื่อถือได้สะพัดมา บนใบหน้าหวงเจี๋ยพลันปรากฏสีหน้าตระหนกตกใจ ทำให้ความทรงจำในอดีตเขาเด่นชัดขึ้นมา
แม้หวงซวี่จะมีศักดิ์เป็นบิดา ก็พบเห็นท่าทางหวงเจี๋ยเป็นเช่นนั้นน้อยอย่างยิ่งเช่นกัน กล่าวให้ชัดคือ นานนักแล้วที่เขาไม่ได้เห็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี