สนามต่อสู้หลักในทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออก เป็นสถานที่ของยอดฝีมือจากมหาอำนาจแปดพิภพและเผ่าปีศาจอัคคีที่เข้ามารุกราน และบัดนี้สงครามครั้งใหญ่ก็กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด
แกนไฟใต้ดินระเบิดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปีศาจอัคคีได้เปรียบขึ้นเรื่อยๆ พวกมันโจมตีโต้กลับ ส่งผลคุกคามต่ออาณาเขตด้านนอกทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกอย่างไม่หยุดยั้ง
ยอดฝีมือระดับสุดยอดอย่างพวกหยวนเจิ้งเฟิงในตอนนี้ ต่างก็รู้สึกได้ถึงสถานที่ที่เป็นต้นกำเนิดการปะทุของแก่นแท้แห่งไฟใต้ดิน จึงรีบพากันมาทันที
ยอดฝีมือระดับสุดยอดของเผ่าปีศาจอัคคีก็มารวมตัวกันที่นี่เช่นกัน ทั้งสองฝ่ายต่อสู้ที่น่านน้ำแห่งนี้ด้วยอยากจะตัดสินให้เด็ดขาด
เยี่ยนจ้าวเกอหยุดอยู่ด้านนอก มิได้บุ่มบ่ามเข้าใกล้
จุดศูนย์กลางของสนามรบ มียอดฝีมือระดับศักดิ์สิทธิ์มากกว่าสิบคนลงมือต่อสู้พร้อมกัน อากาศแทบจะถูกทำลายจนหมดสิ้น
ถึงแม้จะเป็นผู้เข้าร่วมสงครามที่อยู่บริเวณรอบๆ อย่างน้อยก็เป็นยอดฝีมือระดับมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณ หากเป็นเผ่าปีศาจอัคคี ต่างก็อยู่ในระดับจ้าวปีศาจอัคคีทั้งสิ้น มิฉะนั้นแค่คลื่นหลงเหลือจากการต่อสู้ของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ก็สามารถกวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่างได้แล้ว
เหมือนกับสถานการณ์ครั้งหายนะของเมืองทะเลมรกตในตอนแรก เพียงแต่สถานการณ์ในตอนนี้กลับตาลปัตรกันทั้งสองฝ่าย
ในตอนนั้นหยวนเจิ้งเฟิงกับอันชิงหลิน ต้องร่วมมือกันป้องกันการโจมตีของราชันปีศาจอัคคีจิ่งจง และต้องแบ่งจิตใจมาปกป้องเมืองทะเลมรกตเพื่อไม่ให้ถูกทำลายด้วย
ตอนนี้กลับตรงข้ามกัน เผ่าพันธุ์ปีศาจอัคคีคิดปกป้องแกนกลางตาข่ายเพลิงแห่งนี้ เพื่อไม่ให้ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ทำลายที่นี่ทิ้งเสีย
ด้วยเหตุนี้เอง ในสถานการณ์ที่พลังฝึกปรือของทั้งสองฝ่ายไม่ต่างกันมาก ฝ่ายโจมตีย่อมได้เปรียบอย่างไม่ต้องสงสัย
หากฝ่ายป้องกันตั้งใจป้องกัน แต่เผยช่องโหว่วออกมา ก็เป็นไปได้ว่าจะเป็นโอกาสให้ฝ่ายโจมตีฉวยโอกาส ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บ
แต่ว่าเมื่อเวลาผ่านไป ปีศาจอัคคีจะพลิกบทบาทจากแขกเป็นเข้าบ้าน เปลี่ยนทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกเป็นทะเลเพลิง ใช้ประโยชน์จากสนามรบได้เหี้ยมหาญขึ้นอีก
หากชะงักงันแบบนี้ต่อไป เผ่าปีศาจอัคคีก็จะยิ่งกำเริบเสิบสาน
พวกมันมุ่งเน้นเฉพาะจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์เผ่ามนุษย์ อย่างพวกหยวนเจิ้งเฟิงและหวงกวงเลี่ยเท่านั้น
สำหรับจอมยุทธ์มหาปรมาจารย์ พวกมันกลับมิได้สนใจ
มีมหาปรมาจารย์เผ่ามนุษย์คิดเข้าใกล้เหวเพลิง แต่กลับมิอาจทำลายเหวเพลิงนั้นได้
พลังงอันแข็งแกร่งพุ่งลงบนเหวเพลิง ทำให้แสงไฟด้านในกระจายไปทั่ว แกนไฟใต้ดินสั่นไหว ไม่เห็นทีท่าสงบลง
หลังจากมหาปรมาจารย์เผ่ามนุษย์ลองอยู่หลายครั้งก็ไม่สำเร็จ จึงหันกลับไปช่วยพวกหยวนเจิ้งเฟิง เพื่อช่วยให้พวกเขาทำลายแนวป้องกันของปีศาจอัคคี
ด้านปีศาจอัคคีเองก็ตามติดจอมยุทธ์ระดับศักดิ์สิทธิ์เผ่านมนุษย์ โดยมีราชันปีศาจอัคคีหลายตัวเป็นผู้นำ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาเข้าใกล้เหวเพลิง
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอสำรวจอย่างละเอียด เขาก็ลองติดต่อกับผู้อาวุโสในสำนักเขากว่างเฉิงที่อยู่ในสนามรบ
หยวนเจิ้งเฟิงรู้สึกได้ถึงชายหนุ่มเป็นคนแรก แต่ว่าเขากำลังสู้กับราชันปีศาจอัคคีจิ่งจงอย่างสูสี จึงปลีกตัวมาไม่ได้
ผ่านไปพักหนึ่ง เงาร่างสายหนึ่งแหวกไฟร้อนแรง มาถึงเบื้องหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ
เป็นผู้อาวุโสระดับหนึ่งจากเขากว่างเฉิงของทะเลตะวันออก ที่ก่อนหน้านี้คอยควบคุมสถานการณ์ในทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออก ราชินีขี่เมฆาฟู่เอินซู
ฟู่เอินซูเป็นสตรีที่มีนิสัยแข็งกร้าวดุดัน ในตอนนี้กอปรด้วยความดุร้ายจากเลือดและอัคคีหลายส่วน
“เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่” ฟู่เอินซูถาม “หรือคนที่ทำลายจุดหนึ่งของตาข่ายเพลิงก่อนหน้านี้จะเป็นเจ้า”
“เป็นข้าเองจอรับ” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ “อาจารย์ป้า ช่วยส่งข้าไปที่ใจกลางตาข่ายเพลิงได้หรือไม่”
“ปีศาจอัคคีพยายามขวางทาง หลักๆ ก็เพื่อสกัดพวกอาจารย์” ฟู่เอินซูกล่าว
นางพิจารณาเยี่ยนจ้าวเกอตั้งแต่หัวจรดเท้า “เจ้ามีความคิดอะไรอีกแล้วใช่หรือไม่ แต่เกรงว่าที่นี่จะแตกต่างกับสภาพจุดเชื่อมที่เจ้าทำลายไปก่อนหน้านัก”
เยี่ยนจ้าวเกอพลันกล่าว “ข้ามีวิธีที่อยากลองดู ไม่กล้าบอกว่ามั่นใจ แต่น่าจะใช้ได้ขอรับ”
ฟู่เอินซูครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจทันที “ได้ ข้าเชื่อเจ้า!”
หลังจากพูดจบ นางก็ยกนิ้วชี้กับนิ้วกลางตั้งตรงประดุจกระบี่ รอบๆ ตัวพลันเกิดประกายกระบี่อันยิ่งใหญ่ขึ้นมา
ประกายกระบี่หลายสายรวมตัวกันเป็นอาคมกระบี่ จากนั้นก็กลายเป็นค่ายกลกระบี่ ม้วนเยี่ยนจ้าเกอพุ่งขึ้นฟ้า บินออกไปไกล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี