ปีศาจอัคคีล้มเหลวในการรุกรานมหาอำนาจแปดพิภพ ถูกยอดฝีมือมากมายตีโต้จนต้องล่าถอย คลื่นลมบนทะเลตะวันออกในที่สุดก็ค่อยๆ สงบลง
แต่ตามที่เยี่ยนจ้าวเกอเห็น สำหรับสถานการณ์ของมหาอำนาจแปดพิภพหลังจากนี้ ผลกระทบจากการรุกรานในครั้งนี้ของปีศาจอัคคีเพิ่งจะเริ่มสำแดงผลเท่านั้น
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เมืองทะเลมรกตก็มีกระบี่สัตยาทะเลมรกต อาวุธศักดิ์สิทธิ์เป็นของตัวเองแล้ว ทำให้พลังของเมืองทะเลมรกตพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
ถ้าหากไม่ใช่เพราะภัยพิบัติซึ่งเกิดจากปีศาจอัคคีในครั้งนี้ ทำให้เมืองทะเลมรกตได้รับความเสียหายนักและสูญเสียทรัพยากรไปมาก เมืองทะเลมรกตคงจะอยู่เขาไร้พรมแดน หอคลื่นโหม และตำหนักอัสนีสวรรค์ทันที
อาจจะยังไม่เหนือกว่างเฉิงและสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็อยู่ในระดับเดียวกัน
การรุกรานของปีศาจอัคคีทำให้เมืองทะเลมรกตประสบหายนะ ถึงแม้จะสร้างกระบี่สัตยาทะเลมรกตสำเร็จ แต่ว่าเจ้าเมืองซ่งอู่เลี่ยงได้รับบาดเจ็บ ค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัดที่คอยปกป้องสำนักก็พังลงโดยสิ้นเชิง จำเป็นต้องสร้างใหม่
นอกจากนี้ ลูกศิษย์ของสำนักก็เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส ทะเลชั้นในของทะเลตะวันออกที่เป็นถิ่นของตัวเองมีปีศาจอัคคีบุกรุก ทำให้เกิดความเสียหายรอบด้าน
พื้นฐานและศักยภาพมีพร้อมอยู่แล้ว หากประคับประคองผ่านช่วงเวลายากลำบากในตอนนี้ไปได้ และคืนพลังกลับมาดังเดิม ครั้งต่อไปเมื่อเมืองทะเลมรกตปรากฏต่อหน้าคนทั่วทั้งใต้หล้าด้วยความพร้อม ทุกคนจะจับตาดูมากกว่าก่อนหายนะครั้งนี้
แต่ว่าจะประคับประคองช่วงเวลาลำบากนี้อย่างไร เป็นปัญหาที่เมืองทะเลมรกตต้องเผชิญ
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าปีศาจอัคคีจะรุกรานอีกครั้งหรือไม่ แค่ในมหาอำนาจแปดพิภพ เมืองทะเลมรกตก็จำเป็นต้องระวังตัวมากเช่นกัน
ยากจะจินตานาการว่า สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับตำหนักอัสนีสวรรค์ จะรอดูเมืองทะเลมรกตพักรักษาตัวหรือไม่
หลังจากสงครามกว่างเฉิง เขากว่างเฉิง เมืองทะเลมรกต เขาไร้พรมแดนร่วมมือกันต่อสู้กับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์และตำหนักอัสนีสวรรค์ และได้เปรียบไปในตอนแรก
ถ้าหากเมืองทะเลมรกตมีพลังเพิ่มขึ้น สถานการณ์เลวร้ายของพันธมิตรอัคคีพิภพและอัสนีพิภพย่อมย่ำแย่มากกว่าเดิม
ตอนนี้ในสงครามต้านทานปีศาจอัคคี หวงกวงเลี่ยแห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ กับเฉินลี่แห่งตำหนักอัสนีสวรรค์ ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย
ซ่งอู๋เลี่ยงรีบร้อนกลับไปเฝ้าเมืองทะเลมรกต เป็นเพราะไตร่ตรองถึงความปลอดภัย
เขาคิดจะรักษาอาการบาดเจ็บ ยังต้องระวังตัวไว้ตลอดเวลา ป้องกันไม่ให้สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับตำหนักอัสนีสวรรค์เหยียบย่ำสำนัก
หลังจากการต่อสู้ในครั้งนี้ หยวนเจิ้งเฟิงยังมีสภาพค่อนข้างดี ในฐานะพันธมิตรเป็นผู้สนับสนุนที่เชื่อถือได้ของเมืองทะเลมรกต
เพียงแต่เพราะการรุกรานของปีศาจอัคคีในครั้งนี้ เมืองทะเลมรกตจึงติดหนี้บุญคุณเขากว่างเฉิงมากเกินไป ทำให้พวกซ่งอู๋เลี่ยงเกิดแรงกดดันในใจ
เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตนเอง ‘หอคลื่นโหมน่าจะไม่มีปัญหากระมัง’
ในฐานะเสาหลักของหอคลื่นโหม ผู้คุมหออันชิงหลินได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ครั้งนี้ อีกทั้งอาจจะเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บหนักที่สุดในหมู่ยอดฝีมือระดับศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของมหาอำนาจแปดพิภพด้วย
ที่นางกลับสำนักในครั้งนี้ เพราะต้องการเข้าฌานเพิ่มพลังฝึกปรือและรักษาอาการบอบช้ำ มิเช่นนี้จะเหลืออาการบาดเจ็บติดตัวตลอดไป อย่าว่าแต่เส้นทางในการเพิ่มพลังฝึกปรือถูกปิดตาย แค่ระดับฝึกปรือไม่ลดลงก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว
อันชิงหลินเข้าฌาน พลังของหอคลื่นโหมย่อมอ่อนแอลง
ถึงแม้จะรักษาความเป็นกลางมาโดยตลอด แต่หอคลื่นโหมที่ควบคุมดินแดนไร้ขอบเขตหกสายในบึงพิภพ และมีทรัพยากรเหลือเฟือย่อมมีคนหมายตา
‘น่าจะไม่มีปัญหา’ เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดในใจ ‘ในสถานการณ์เช่นนี้ หากมีใครไปหาเรื่องหอคลื่นโหม เกรงว่าจะสะกิดโทสะของส่วนรวมขึ้น
‘ต่อให้ยึดครองดินแดนของบึงพิภพ การใช้ทรัพยากรมาเพิ่มพลังอย่างเหมาะสมก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในวันสองวัน’
ทุกคนกลับถึงเขากว่างเฉิงที่เกาะนภากลาง ระหว่างทางมีรายงายข่าวจากทั่วทั้งสารทิศส่งมาถึงมือหยวนเจิ้งเฟิง กับเยี่ยนจ้าวเกออย่างไม่ขาดสาย
หลังจากการเปลี่ยนแปลงของแกนไฟใต้ดินสงบลง ทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกก็ค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพเดิม ผลกระทบที่เกิดต่อน่านน้ำบริเวณอื่น เช่น คลื่นยักษ์ กระแสน้ำ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ก็ค่อยๆ สงบลงเช่นกัน
ผลกระทบที่ส่งผลเป็นบริเวณกว้างก่อนหน้านี้กระทบถึงแผ่นดินที่อยู่ติดทะเลด้วย
แต่สิ่งที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดก็คือการหมุนเวียนของปราณวิญญาณใต้ดิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี