ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 472

หวงกวงเลี่ยกับอันชิงหลินพุ่งเข้าไปในค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัดพร้อมกัน

การระเบิดอันรุนแรงของค่ายกลก่อนหน้า เหมือนกับเป็นแรงเฮือกสุดท้าย หลังจากความรุนแรงแรกสุดผ่านไปแล้ว พลังก็เริ่มอ่อนแอลงอย่างควบคุมไม่ได้

หลังจากรับหวงกวงเลี่ยกับอันชิงหลินเข้ามาในค่ายกลเสร็จ ก็ทำให้การทำงานของค่ายกลชะงักลง

ยอดฝีมือเผ่าปีศาจอัคคีจำนวนมากคำรามพลางพุ่งลงมา พลังงานอันบ้าคลั่งหยุดค่ายกลเอาไว้ในพริบตา ทำให้รูที่ค่ายกลเปิดออกมิอาจหุบลง

ซ่งอู๋เลี่ยงมองหวงกวงเลี่ยแวบหนึ่ง ก่อนจะชี้นิ้วเป็นกระบี่ ยกนิ้วชี้และนิ้วกลางขึ้น ประกายกระบี่ไร้รูปร่างที่ต่อเนื่องดั่งสายธารพลันพุ่งขึ้นท้องฟ้า

หวงกวงเลี่ยเข้ามาในค่ายกลได้แล้ว เขาไม่รอยืนอย่างมั่นคง ก็หมุนตัวไปผลักฝ่ามือหนึ่งออก

แสงสีทองมากมายรวมตัวกันเป็นพลังที่แข็งสุดขีดและเป็นหยางสุดขีด พุ่งขึ้นไปข้างบน ทะลุท้องนภา

ประกายกระบี่ไร้รูปร่างเหล่านั้น ในตอนนี้แสดงให้เห็นถึงพลังที่อ่อนโยนถึงขีดสุด รวมเป็นหนึ่งกับพลังฝ่ามือของหวงกวงเลี่ย

ถึงแม้จะไม่ได้สอดคล้องกันทั้งหมด แต่พลังอันยิ่งใหญ่หนึ่งแข็งหนึ่งอ่อน หนึ่งหยินหนึ่งหยางก็รวมตัวเข้าด้วยกัน แข็งอ่อนให้กำเนิดซึ่งกันและกัน หยินหยางรวมตัว

ผู้อาวุโสม่อยื่นนิ้วของตนออกมาวาดกลางอากาศ ธารแสงหลายสายสลักกลางอากาศ กลายเป็นม้วนภาพภูเขาลำน้ำมากมาย

การวาดภาพครั้งนี้ไม่มีจิตสังหารแม้แต่น้อย ดูเรียบสงบถึงขีดสุด

ภูเขาและลำน้ำที่อยู่ในภาพวาด ภูเขาสูงแข็งแกร่ง สายน้ำอ่อนโยน เมื่อรวมด้วยกันแล้ว กลับผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

รูปหยินหยางที่ดูเลือนรางคล้ายกับเกิดขึ้นกลางอากาศ

เมื่อถูกภาพภูเขาและลำน้ำนี้ครอบคลุมไว้ การโจมตีของซ่งอู๋เลี่ยงและหวงกวงเลี่ย พลันกลายเป็นผสมผสานกันได้ดีกว่าเดิม เสมือนหยินหยางให้กำเนิดซึ่งกันและกัน

ระหว่างหยินสุดขีดและหยางสุดขีด รวมถึงอ่อนสุดขีดและแข็งสุดขีด บัดนี้ถูกเร่งให้รวมตัวกัน และให้กำเนิดซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้พลังนี้มีสภาวะเพิ่มมากขึ้นขั้นหนึ่ง และมีอานุภาพน่าทึ่งยิ่งขึ้น

อีกด้านหนึ่ง ผู้คุมหอคลื่นโหมอันชิงหลินชี้นิ้วชี้และนิ้วกลางดุจกระบี่เหมือนกับซ่งอู๋เลี่ยง ขณะใช้ท่ามือกระบี่ ควันสีขาวหลายสายก็แผ่พุ่งออกมา

ประกายกระบี่อันยิ่งใหญ่ดูขมุกขมัวไม่แจ่มชัด แต่กลับทอดยาวไม่ขาดสาย ควันเมฆอันอ่อนโยนแตะใส่เปลวเพลิงกลับไม่สลายไป

แสดงให้เห็นถึงความนิ่มนวลและความจริงแท้ของความเปลี่ยนแปลงอันไร้กฎเกณฑ์จากท่ากระบี่อย่างชัดเจน ทั้งยังมีความเป็นหยินและนุ่มนวลถึงขีดสุด

ประกายกระบี่ที่เหมือนกับเมฆหมอกสีขาว ตามมาด้วยวิชาหมัดถึงตะวันของหวงกวงเลี่ย กับพลังของกระบี่ทะเลมรกตไร้รูปร่าง พุ่งขึ้นข้างบนพร้อมกัน

เจ้าสำนักเขาไร้พรมแดนฉู่เหยียนมีสีหน้าเคร่งขรึม เขาชูกลุ่มแสงที่เป็นสีดำไร้สิ้นสุดกลุ่มหนึ่งขึ้นสูง

กลุ่มแสงนั้นดูเหมือนไม่มีรูปร่าง เพียงแต่พลังอันหนาหนักและยิ่งใหญ่ที่ส่งออกมาจากในความมืดไร้สิ้นสุดขณะที่เขายกมือนั้น กลับเหมือนกับกำลังแบกภูเขานับพันอยู่

หลักจากเขาฟันมือลง กลุ่มแสงสีดำนั้นก็ลากผ่าน ที่ว่างตรงหน้าถูกฟันเป็นรอยแตกรอยหนึ่ง!

รอยแตกบิดเบี้ยวอย่างบ้าคลั่ง พลังที่รุนแรงหนาหนักระเบิดจากข้างใน ฉีกกระชากรอยแยกนั้นอีกขั้นหนึ่ง

นี่คือพลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งเขาไร้พรมแดน ขวานจามสวรรค์!

กลุ่มแสงสีดำคือตัวขวาน ใช้แสงเป็นขวาน จามใส่สวรรค์ ทำลายศัตรู บดขยี้ที่ว่างให้กลายเป็นรอยแยก นี่คือประกายคมขวาน!

ไม่ลงมือโดยง่าย แต่ถ้าลงมือก็จะผ่าอีกฝ่ายเป็นสองส่วน

ทว่าในตอนนี้เมื่อได้รับผลกระทบจากภาพวาดภูเขาลำธารของผู้อาวุโสม่อ รอยแยกของที่ว่างซึ่งแตกสลายก็ค่อยๆ หายไป

พลังอันมหาศาลที่น่าพรั่นพรึงนั้นกลายเป็นไร้รูปร่าง แต่กลับมิได้สูญสลาย ถูกการโจมตีร่วมกันของซ่งอู๋เลี่ยงและหวงกวงเลี่ยม้วนพัด

พลังของขวานจามสวรรค์กับกระบี่ลวงกระแสเมฆ คือฝั่งตรงข้ามระหว่างความแข็งสุดขีดและความอ่อนสุดขีด

พลังทั้งสองสายส่งเสริมวิชาหมัดถึงตะวันและกระบี่ทะเลมรกตไร้รูปร่าง

กระแสคลื่นจากการรวมตัวของหยินหยางยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พวกมันกวาดไปทั่วท้องฟ้า ดับเปลวเพลิงมากมายกลางอากาศ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี