“…ความแค้น? มันคือ…อะไรกันแน่?” เหนียนเชินมองเฉินซื่อเฉิงอย่างไม่อยากเชื่อ
สีหน้าของเฉินซื่อเฉิงกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย “เยี่ยนจ้าวเกอผู้นั้นอาจจะตามมาได้ตลอดเวลา คนอื่นในสำนักเราก็อาจจะมาถึงด้วยเช่นกัน”
“ศิษย์ไม่อาจให้ท่านตายโดยกระจ่างได้ ศิษย์ไม่มีความคิดจะเล่าความแค้นในหลายปีมานี้กับท่าน ขอแค่ส่งท่านจากไปดีๆ ได้ ศิษย์ก็พอใจแล้ว”
ขณะที่พูด ห้านิ้วของเฉินซื่อเฉิงก็กลายเป็นกรงเล็บ ปักลึกลงในไปในเลือดเนื้อตรงกลางอก ญาณจริงแท้อันแข็งแกร่งทำลายอวัยวะภานในและพลังชีวิตของเหนียนเชินอย่างต่อเนื่อง
เหนียนเซินครางหนักๆ ก่อนจะกระอักเลือกออกมาอีกคำ ผมขาวที่เปล่งแสงสีเงินตอนนี้ดับลงกลายเป็นสีเทา
ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสำนักมังกรโลหิตในอดีต ใบหน้ายามนี้ปกคลุมด้วยบั้นปลายความตายชั้นหนึ่ง
บางทีอาจเป็นเพราะแรงเฮือกสุดท้าย ในขณะที่ร่างกายยิ่งมายิ่งอ่อนแอ เหนียนเชินกลับรู้สึกว่าความคิดของตนว่องไวเป็นพิเศษ
ชั่วพริบตาก่อนตาย จิตใจของเขาเปิดกว้าง ความคิดพลันกระจ่าง
ปัญหาส่วนหนึ่งที่ไม่เคยสังเกตก่อนหน้านี้ ปรากฏขึ้นในห้วงสมองทั้งหมด
“ทั้งหมด…ทั้งหมดคือหลุมพรางมาตั้งแต่ต้น!” เหนียนเชินมองเฉินซื่อเฉิงด้วยความโมโห “บุตรสาวของเจ้ายังบริสุทธิ์ เดรัจฉานแซ่สือไม่เคยพบนางมาก่อน”
“แม้แต่คนในสำนักก็ยังคิดว่าเหว่ยเอ๋รอ์ที่ชอบเด็ดดอมบุปผาประสงค์ร้ายต่อบุตรสาวของเจ้า แต่ถูกสือจวินผู้นั้นขัดขวาง จึงใส่ร้ายเด็กน้อยนั่น เพียงแต่ทุกคนต่างยืนยันว่าเป็นการกระทำของสือจวินเพราะชื่อเสียงของข้ากับสำนัก เพราะช่วงชิงการสนับสนุนจากสำนักอื่น”
เหนียนเชินพูดอย่างยากเย็น “แต่คนที่เป็นเหยี่ยเหยี่ยอย่างข้าทราบดีว่า เหว่ยเอ๋อร์รักบุตรสาวของเจ้าอย่างแท้จริง นอกจากสาเหตุพิเศษแล้ว เขาไม่มีทางฝืนใจนางเด็ดขาด!”
“เดรัจฉานแซ่สือมิได้ขืนใจ เหว่ยเอ๋อร์เองก็ไม่ทำเหมือนกัน เช่นนั้นปัญหาอยู่ที่ใด?”
เหนียนเชินถลึงตา “หากเป็นในยามปกติ ข้าอาจคิดว่าเหว่ยเอ๋อร์หน้ามืดตามัวไปชั่วขณะ แต่ว่าตอนนี้เป็นเจ้า ยังมีนางแพศยาที่เจ้าให้กำเนิด! ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเจ้า!”
เฉินซื่อเฉิงมองเหนียนเชินด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย คล้ายชมเชยคล้ายถอนใจ “ควรบอกว่าข้าไม่ได้เห็นชอบแผนการของอิ๋งเอ๋อร์ตั้งแต่แรก เพราะว่าอันตรายเกินไป”
“หากไม่สำเร็จ สุดท้ายท่านอาจารย์อาจจะรู้ตัว อย่างน้อยก็อาจจะรู้สึกสงสัย”
“แต่มิอาจไม่ยอมรับว่า สำหรับข้าแล้ว ได้แต่เฝ้าคอยโอกาส หากรอท่านกลายเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ผลลัพธ์ที่ข้ารอมาทั้งชีวิตอาจจะหายไป”
“เมื่อโอกาสมาถึง ข้ามั่นใจว่าจะทำได้ แต่อิ๋งเอ๋อร์เป็นคนสร้างโอกาส ข้ายังสู้บุตรสาวไม่ได้”
หลังจากความกระจ่างช่วงสั้นๆ ห้วงสมองของเหนียนเชินก็ยิ่งมายิ่งพร่าเลือน ชีวิตละทิ้งเขาไปไกลแล้ว
เขาพยายามมองเฉินซื่อเฉิง “พวกเจ้ารู้ได้อย่างไร ว่าเยี่ยนจ้าวเกอผู้นั้นจะเสี่ยงชีวิตช่วยสือจวินจากสำนักเรา…”
เสียงยังไม่ทันขาด เฉินซื่อเฉิงเพิ่มแรงที่มือมากขึ้น ทำลายชีวิตของเหนียนเชินโดยสิ้นเชิง
เหนียนเชินเบิกตาโพลง ในดวงตาไม่มีประกายชีวิตอีกแล้ว
เฉินซื่อเฉิงมองเหนียนเชิน ความรู้สึกมากมายจากการสังหารอาจารย์ด้วยมือตัวเอง และความรู้สึกที่สิ่งที่เฝ้าฝันมานานสำเร็จผสมผสานกัน ทำให้เขาเหม่อลอยอยู่ชั่วขณะ
แต่เขาก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะชักฝ่ามือออกมาจากในอกของเหนียนเชิน จากนั้นก็กวักมือไปทางนิ้วมังกรทั้งเก้า
เฉินซื่อเฉิงทางหนึ่งเตรียมทำลายศพกลบเกลื่อนร่องรอย ทางหนึ่งมองดูนิ้วมังกรทั้งเก้าอันเป็นของวิเศษคุ้มครองสำนัก
ขณะมองดูนิ้วมังกรทั้งเก้าแปดปลอก เฉินซื่อเฉิงที่มีใบหน้าสงบเมื่อครู่ก็ปรากฏความเจ็บปวด
เป็นตามที่เขากล่าว สำนักมังกรโลหิตไม่ต้องมีเหนียนเชิน และไม่ต้องมีเฉินซื่อเฉิง ทว่ามิอาจสูญเสียนิ้วมังกรทั้งเก้าได้
‘อิ๋งเอ๋อร์เฉลียวฉลาด ตอนนี้เหนียนเชินตายแล้ว การปูทางเมื่อครู่นี้อาจจะมีประโยชน์ แต่สุดท้ายแล้วควรจะใช้ได้หรือไม่? ทำลายบารมีของสำนักไปแล้ว ปลอกนิ้วมังกรปลอกนั้นจำเป็นต้องทวงกลับมา’ เฉินซื่อเฉิงถอนใจ ‘ตามหาเยี่ยนจ้าวเกอนั่นคงไม่มีประโยชน์ ต้องใช้เด็กน้อยแซ่สือนั่น’
เฉินซื่อเฉิงกวักมือ มีเพียงปลอกนิ้วมังกรเจ็ดปลอกที่ลอยมาหาเขา อีกปลอกหนึ่งกลับหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ
“หือ?” เฉินซื่อเฉินใจเต้นรัว
ในปลอกนิ้วมังกรปลอกมีเสียงดังมา “ข้าเองก็รู้สึกสงสัย ว่าท่านกับบุตรสาวติดต่อกันในทะเลตาข่ายดาวอย่างไร ทุกอย่างอาศัยการนัดหมายหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี