หลังจากผู่เจี๋ย หยางจ่านหัวก็ถูกเยี่ยนจ้าวเกอฟาดไม้ไผ่ใส่จนสับสนอีกคน
ในตอนที่พบว่าร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสอง หยางจ่านหัวในที่สุดก็จริงจังขึ้นมา
พลังของอีกฝ่ายโดดเด่นในหมู่จอมยุทธ์ระดับเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นศัตรูยอดฝีมือเลยทีเดียว
ทว่าในตอนที่หยางจ่านหัวเตรียมจะต่อสู้กับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกนั่นเอง ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกก็ง้างกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้หม้าขึ้น แล้วฟาดใส่หน้าของเขาทันที
อาวุธศักดิ์สิทธิ์มงกุฎตะวันฟ้าสางสั่นไหวเหมือนกับเรือน้อยกลางคลื่นกระหน่ำ
ตีหนึ่งครั้ง มงกุฎตะวันฟ้าสางรับไว้ได้
ตีสองครั้ง มงกุฎตะวันฟ้าสางยังคงรับไหว
แต่ว่าพายุฝนห่าแล้วห่าเล่าเหมือนกับไร้สิ้นสุด ฟาดใส่มงกุฎตะวันฟ้าสางจนแสงดับไป ประกายแสงนั้นเหมือนกับแสงเทียนท่ามกลางลมกรรโชก สามารถดับได้ตลอดเวลา
หยางจ่านหัวเจ็บใจถึงขีดสุด แต่ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
สิ่งที่ทำให้เขาคับข้องใจสุดขีดก็คือ หลังจากแสงของมงกุฎตะวันฟ้าสางดับลงแล้ว พลังปราณของมันก็ค่อยๆ สลายไป เขาไม่อาจนำพลังอาวุธศักดิ์สิทธิ์มาเพิ่มให้ตัวเองได้อีก
เรื่องนี้ทำให้เขาที่เผชิญร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ซึ่งสวมเกราะเหมันต์ทระนงถูกกดดันและโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว
สภาวะพลังของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกดุดันขึ้นอีกครั้ง มันแทงหอกอย่างรวดเร็วและรุนแรง ไล่ต้อนอีกฝ่าย ก่อให้เกิดอันตรายรอบด้าน
เพลิงโทสะลุกไหม้ขึ้นในใจของหยางจ่านหัว เขายื่นสองมือออกมาผสานกัน หนีบหอกเกล็ดมังกรในมือของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไว้ได้พอดิบพอดี
“ข้าจะทำลายหอกที่มีดีแค่เปลือกนอกของเจ้าก่อน!” หยางจ่านหัวตวาด ประกายแสงนับไม่ถ้วนพรั่งพรูขึ้น โจมตีใส่หอกสีทองทำจากเกล็ดมังกรในมือของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก
พลังที่ยิ่งใหญ่และแข็งกร้าวกำลังจะสะบั้นหอกยาวที่ยังไม่ใช่อาวุธศักดิ์สิทธิ์ทิ้ง
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกใช้มือหนึ่งกำหอก ไม่แสดงสภาวะอ่อนแอแม้แต่น้อย พลังอันยิ่งใหญ่ของคุนเผิงแหวกฟ้าผ่าทะเล เพิ่มพลังให้กับหอก และพลังนั้นรุนแรงยิ่งกว่าหยางจ่านหัวเสียอีก
พลังไร้ขอบเขตเหมือนกับคุนเผิงออกทะเล ปะทะเสาสวรรค์ คิดกระแทกเสาสวรรค์นั้นให้พังทลาย
หยางจ่านหัวสีหน้าเคร่งขรึมถึงขีดสุด สองฝ่ามือถูกกดดันให้ถอยหลังอย่างช้าๆ
เปรียบเทียบพลังเพียงอย่างเดียว ถึงแม้วิชารัศมีสาดส่องจะแข็งกร้าว แต่กลับสู้ความยิ่งใหญ่ของพลังแห่งคุนเผิงไม่ได้
กระนั้นหยางจ่านหัวก็ไม่ร้อนรน ร่างของเขาค่อยๆ ถอยหลัง ลดทอนแรงกดดันที่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกมอบให้อย่างต่อเนื่อง กลับต้องการยื้อการต่อสู้กับมัน
วิชารัศมีสาดส่องของเขาแสดงความสามารถ สาดส่องแสงสว่างอันไร้วันดับไปทั่วมหาจักรวาล
ท่าฝ่ามือของเขา ฝ่ามือแสงไร้สิ้นสุด จุดเด่นอยู่ที่แสงสว่างสาดแสงอย่างต่อเนื่อง พลังงานมากมายไร้สิ้นสุด เหมือนกับไม่มีจุดจบ
หากเปรียบความอดทน เปรียบการต่อสู้ยืดเยื้อ เปรียบการต่อสู้ตัดกำลัง หยางจ่านหัวมั่นใจว่าสู้กับจอมยุทธ์ในระดับเดียวกันคนไหนก็ได้
ขอแค่ไม่พ่ายแพ้อีกฝ่ายในระยะเวลาสั้นๆ หยางจ่านหัวมั่นใจว่าจะเอาชนะคู่ต่อสู้ ถ่วงเวลาจนอีกฝ่ายตายได้
ทว่าเมื่อเห็นทะเลน้ำแข็งรอบๆ ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกลอยขึ้น มังกรน้ำแข็งหลายตัวพุ่งออกมาจากทะเลน้ำแข็ง จากนั้นก็พันบนหอกเกล็ดมังกรพร้อมกับพุ่งเข้ามาหา หยางจ่านพลันหัวพลันเบิกตากว้าง มองปราณน้ำแข็งทำลายแสงสว่างบนสองมือของตัวเองไม่หยุดยั้ง
คล้ายกับจักรวาลถึงจุดจบ ทุกสิ่งกลับคืนสู่ความมืดมิดและความเย็นยะเยือก ไร้แสงและไม่มีความร้อนอีกต่อไป
พลังของท่าฝ่ามือแสงไร้สิ้นสุดของหยางจ่านหัวพลันลดลง ไม่อาจป้องกันหอกเทพสมุทรสุดขอบโลกของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกได้อีกต่อไป
มังกรที่ปลายหอกร้องคำราม ทะลุเข้าไปในร่างของหยางจ่านหัว!
หยางจ่านหัวแค่นเสียงอย่างไม่ยอมรับ ได้แต่เปลี่ยนมาป้องกันด้วยพลังทั้งหมด
เขาใช้ร่างนิภาไม่อับแสง กระบวนท่าวรยุทธ์ที่มีพลังป้องกันแข็งแกร่งที่สุดของสำนักแสงสว่างอีกครั้ง
แสงสว่างโชติช่วงสาดจากร่างของเขาออกมาด้านนอก คล้ายกับต่อให้อยู่ในความมืดไร้สิ้นสุดก็ไม่มีวันดับตลอดกาล
ประกายแสงรวมตัวกันบนร่างกายของเขา ทำให้เขากลายเป็นมนุษย์แสงโปร่งใส ประกายแสงกลายเป็นของแข็งที่แข็งแกร่งไม่อาจทำลาย
คมหอกของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเสียบเข้าไปในร่างของเขา ยามนี้สภาวะการเคลื่อนที่ไปด้านหน้าเชื่องช้าลง
แต่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไม่สนใจ ยกกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าในมือขึ้น ฟาดลงติดต่อกันอีกรอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี