ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 586

หลังจากสังหารหวงเจี๋ยเสร็จ เยี่ยนจ้าวเกอก็เงยหน้ามองท้องฟ้าด้วยสีหน้าไม่ยินดียินร้าย

ลำแสงวิญญาณกำลังจะสลายไป ความโกรธเกรี้ยวโชติช่วงนั้นเหมือนกับยังเหลือค้างอยู่บนฟากฟ้า

เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยเรียบๆ “สุดท้ายเราจะได้เจอกัน ถึงพวกท่านไม่ตามหาข้า ข้าก็จะตามหาพวกท่าน”

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกปรากฏตัวด้านข้างเยี่ยนจ้าวเกอ ยืนอยู่บนยอดยอดเขาเรืองรอง ครั้นสองเท้าของเขากระทบพื้น ยอดเขาเรืองรองพลันพังทลายลง กลายเป็นเศษหินร่วงลงไปเบื้องล่าง

ต่อจากตำหนักอัสนีสวรรค์แห่งอัสนีพิภพก่อนหน้านี้ สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่เคยปีนป่ายไปยังตำแหน่งแดนศักดิ์สิทธิ์วรยุทธ์อันดับหนึ่งของโลกแปดพิภพ ก่อตั้งสำนักมานานปี ในวันนี้ยอดเขาเรืองรองอันเป็นที่อยู่ของสำนักถูกเยี่ยนจ้าวเกอแห่งเขากว่างเฉิงทำลายทิ้งจนหมดสิ้น!

เหมือนกับเล่นเหตุการณ์ที่จ่านตงเก๋อ ผู้สะเทือนสวรรค์ทำลายเขานิมิตทมิฬซ้ำ สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่ในตอนนั้นรอดพ้นภัยพิบัติ วันนี้ถึงคราวพินาศย่อยยับ

เงาร่างของเยี่ยนจ้าวเกอคล้ายกับแผ่คลุมโลกแปดพิภพ บดบังท้องฟ้า

นอกจากหวงเจี๋ย คุณชายจรัสแสงแล้ว ยอดฝีมือระดับสูงที่คอยเฝ้าสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ล้วนถูกชายหนุ่มสังหารทิ้ง

หลังจากยอดเขาเรืองรองพังทลาย จอมยุทธ์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนสำนักจำนวนมากหนีไม่ทัน ถูกฝังทั้งเป็น

ในขณะที่ยอดเขาแตกร้าว คนในสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์นอกจากความหวาดกลัวและความสิ้นหวังแล้ว ยังมีความรู้สึกตกตะลึงและงงงัน

เติ้งเซินเลือดเนื้อเลอะเลือน ทำให้ผู้คนแยกแยะรูปร่างหน้าตาของเขาไม่ออก ทว่าจอมยุทธ์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่รู้เรื่องลำแสงสว่างที่กระจายออกมาบนร่างก่อนหน้านี้ได้ว่า นั่นคือสัญลักษณ์กระบวนท่าสายตรงของสำนักแสงสว่าง

ถึงแม้จะจำไม่ได้ว่าเติ้งเซินเป็นยอดฝีมือจากโลกเบื้องบนคนไหน แต่จอมยุทธ์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงแยกแยะสถานะของเขาได้

เมื่อเป็นเช่นนี้ ยิ่งทำให้พวกเขาปั่นป่วนยิ่งกว่าเดิม

ไหนว่าเป็นยอดฝีมือจากโลกเบื้องบน?

ไหนว่าจะสยบแปดพิภพ?

ไหนว่าเป็นเซียนมายังโลก เทพเจ้าเสด็จสู่ผืนดิน?

ที่นี่ถึงแม้จะมีเติ้งเซินเพียงคนเดียว ไม่เห็นจอมยุทธ์สำนักแสงสว่างที่ลงมาคนอื่น ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอมาถึงสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ สังหารเติ้งเซินทิ้ง ยอดฝีมือสำนักแสงสว่างถ้าหากยังอยู่ ย่อมไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น

กระนั้นเรื่องในตอนนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆ แล้ว นั่นจึงมีเพียงคำอธิบายเดียว

ยอดฝีมือสำนักแสงสว่างคนอื่นพบเรื่องร้ายมากกว่าเรื่องดี

“แต่…แต่นั่นเป็นยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามสามคน กับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสองสองคนนะ!”

“ไม่นับยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสองสองคนนั้น แค่เพียงสามคนก็เท่ากับมหาราชันปีศาจอัคคีสามตัวแล้ว!”

“พลังแบบไหนกันที่เอาชนะพวกเขาได้ เยี่ยนจ้าวเกอนั่นทำได้อย่างไร?”

ไม่มีคนตอบคำถามของพวกเขาได้ มีเพียงแต่ความมืดมิดชั่วนิรันดรให้พวกเขาเท่านั้น

ยอดเขาเรืองรองที่ส่องแสงชั่วนาตาปีเหมือนดวงอาทิตย์ไม่มีวันตก ในตอนนี้ประกายแสงดับสิ้น กลับคืนสู่ความเสื่อมสลาย

ขณะเยี่ยนจ้าวเกอไล่ตามสังหารเติ้งเซิน ณ เกาะนภากลางบนนภาพิภพ จอมยุทธ์เขากว่างเฉิงก็เริ่มกวาดล้างจอมยุทธ์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่เหลืออยู่

ก่อนหน้านี้พวกเขากังวลที่เยี่ยนจ้าวเกอสังหารคนของสำนักแสงสว่าง ทว่าเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ต่อให้กังวลไปก็ไร้ประโยชน์ ไม่สู้กระทำอย่างสบายใจ

ผู้อาวุโสสูงสุดจางคุนพาทุกคนไล่เข่นฆ่าจอมยุทธ์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่มายังเขากว่างเฉิงก่อนหน้า

อีกฝ่ายในตอนนี้หมดอาลัยตายอยาก ไม่มีความคิดจะต่อสู้ด้วย ได้แต่เตลิดหนีด้วยความหวาดกลัว ถูกคนของเขากว่างเฉิงขับไล่และสังหาร

พวกเขาเห็นเยี่ยนจ้าวเกอสังหารยอดฝีมือจากสำนักแสงสว่างหมดสิ้น จึงมีความรู้สึกลึกล้ำกว่าทุกคน

ในตอนนี้จิตใจของพวกเขาสั่นสะเทือนจนชินชา หลังจากหวาดผวาจนไม่รู้สึกอะไรอย่างอื่นแล้ว ก็เหลือแต่ความรู้สึกเดียว นั่นคือความสิ้นหวังที่ซึมลึกเข้าไปในกระดูก

จอมยุทธ์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า เยี่ยนจ้าวเกอเอาชนะยอดฝีมือจากสำนักแสงสว่างได้อย่างไร ยิ่งจินตนาการไม่ออกว่า พวกเขาเขาจะรับมือชายหนุ่มที่เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร

ผู้อาวุโสสูงสุดเหอหนิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่ได้เข้าร่วมการไล่ล่า รั้งอยู่บนสำนักเพื่อพักฟื้น

หลังจากกลับสำนัก ฟู่เอินซูและผู้อาวุโสฉินคำนับเหอหนิง ถึงได้ทราบว่าฉางเจิ้นเมื่อครู่กลับมาแล้วเพิ่งออกไป

ในใจของฟู่เอินซูพลันเกิดความคิดประหลาด

โดยสัญชาตญาณ นางไม่ได้ไปยังวิหารอาญาหรือวิหารปฏิบัติกิจ แต่กลับไปยังที่พักของตน เฟิงอวิ๋นเซิง และอิ่นหลิวหัว

เมื่อเข้าใกล้ จิตใจของฟู่เอินซูก็สั่นไหว เห็นเงาคนคนหนึ่งยืนอยู่ด้านนอกประตูที่พักของเฟิงอวิ๋นเซิงและอิ่นหลิวหัว

คนผู้นั้นรู้สึกได้ถึงการมาของฟู่เอินซู จึงหมุนกายมา เป็นฉางเจิ้นนั่นเอง

ฉางเจิ้นมองฟู่เอินซูโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง

“ศิษย์พี่ฉางมาทำอะไรที่นี่? ข้าทราบเรื่องของศิษย์ข้าแล้ว แต่ว่าปัจจุบันทั่วทั้งสำนักได้รับความเสียหายหนัก ศิษย์พี่ฉางแม้จะเป็นผู้อาวุโสระดับหนึ่งแห่งวิหารอาญา ก็ไม่สมควรเป็นห่วงคนเพียงไม่กี่คนเกินไปกระมัง?” ฟู่เอินซูมองฉางเจิ้นตรงๆ

“เมื่อครู่คนของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์และสำนักแสงสว่างจากโลกซ้อนโลกโจมตีสำนัก ถึงแม้จะได้รับการแก้ไขทันเวลา แต่ว่าก็ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสำนักเราไม่น้อย ค่ายกลนภาเสียหายเพราะการ่วมมือกันของทั้งสองฝ่าย แค่คลื่นหลงเหลือก็ทำให้เกิดการทำลายล้างแล้ว ข้าตรวจสอบรอบบริเวณ แล้วมาถึงที่นี่พอดี” ฉางเจิ้นกล่าวเรียบๆ

“ศิษย์น้องฟู่รอดกลับมาได้โดยปลอดภัยเป็นเรื่องน่ายินดีจริงๆ ช่วยให้พวกเราหายกังวล”

ฟู่เอินซูมองฉางเจิ้นด้วยความสงสัย “ข้ากลับมีข้อกังขา เหตุใดจนถึงวันนี้เรื่องนี้ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข”

ฉางเจิ้นดวงตากลายเป็นเคร่งขรึม ผู้อาวุโสฉินคล้ายมีความคิด

เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย ได้แต่มองกันและกันไม่วางตา

ทว่าในตอนนี้เอง ขอบฟ้าด้านนอกสำนักไกลออกไป เงาแสงของคุนเผิงยักษ์ตัวหนึ่งทะยานมาใกล้เขากว่างเฉิงในชั่วพริบตา!

ทุกคนต่างตกใจ ‘กลับมาเร็วถึงเพียงนี้เลยหรือ?’

บนหลังของเงาแสงคุนเผิง เยี่ยนจ้าวเกอยืนเอามือไพล่หลัง ก้มหน้ามองเขากว่างเฉิงเบื้องล่าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี