ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 60

ผู้อาวุโสฉินนั่งนิ่งไม่ขยับ ดวงตาทั้งสองข้างมองเยี่ยนจ้าวเกอ แล้วเปลี่ยนไปมองเฟิงอวิ๋นเซิง

แววตาของท่านผู้นี้ แข็งกร้าวราวกับจะหลอมเป็นวัตถุ เขาจ้องมองไปที่ข้อมือของเฟิงอวิ๋นเซิง คล้ายกำลังตรวจจับชีพจรด้วยแววตา

เฟิงอวิ๋นเซิงยืนอยู่ที่เดิมอย่างเงียบเชียบ หลังจากชั่วครู่หนึ่งผู้อาวุโสฉินก็เก็บสายตากลับคืน

“ชีพจรของนางเคยเป็นจันทรากายอย่างแท้จริง แต่บัดนี้พลังหยินสะท้อนกลับอย่างรุนแรง จนสลายหายไปหมดสิ้นแล้ว เพียงแต่ว่าเก่งกาจกว่าคนปกตินิดหน่อยเท่านั้น”

ผู้อาวุโสฉินมองไปที่เยี่ยนจ้าวเกอ แล้วพยักหน้าช้าๆ “อย่างไรก็ต้องตรวจสอบคนของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ให้ถี่ถ้วนก่อน แล้วถึงจะตัดสินได้ในท้ายที่สุด”

เหยียนซวี่และคนอื่นก็พยักหน้าด้วยเช่นกัน นี่เป็นเหตุผลที่ถูกต้อง ไม่ได้เหนือความคาดหมายของพวกเขาแต่อย่าใด

ทว่าหลังจากนั้นผู้อาวุโสฉินชะงักไปเล็กน้อย สายตาที่มองไปยังเฟิงอวิ๋นเกอมีความเสียดายปะปนอยู่ “พรสวรรค์ของนางโดดเด่นกว่าคนทั่วไป ไม่รู้ว่าการทำความเข้าใจและนิสัยของนางเป็นอย่างไร”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มครั้งหนึ่ง “ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะนางประสบกับอุบัติเหตุ ผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมการทดสอบแห่งจันทราของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์เป็นอันดับแรก แท้จริงแล้วก็คือนางขอรับ”

“เหตุผลหนึ่งในนั้นก็คือนางได้เข้าเป็นศิษย์ในสำนักก่อน แต่อย่างน้อยๆ ที่ทราบได้ก็คือ นางไม่ได้ด้อยไปกว่าเมิ่งหว่านแน่นอน”

เมิ่งหว่านไม่ได้เป็นเพียงสตรีจันทรา พรสวรรค์ด้านวรยุทธ์ติดตัวนางก็ไม่ธรรมดา นับว่ามีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มคนรุ่นเดียวกัน

พลังของนางแข็งแกร่งขึ้นทุกวี่วัน แม้กระทั่งมีโอกาสได้เป็นรุ่งอรุณทั้งสี่อยู่รางๆ

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวว่า “เพียงแต่หากตอนนั้นศิษย์น้องเฟิงทำให้เซียวเซิงบาดเจ็บบริเวณอื่น ที่ไม่ใช่การตัดตอนเป็นขันทีเช่นนี้แล้วล่ะก็ อาจจะไม่ต้องถึงขั้นต้องหลบหนีเช่นนี้ก็เป็นได้”

ผู้อาวุโสฉินพยักหน้า แล้วไตร่ตรองอีกครั้ง

หากพรสวรรค์ของเฟิงอวิ๋นเซิงนั้นธรรมดาสามัญ เช่นนั้นแล้วรับตัวนางไว้เพียงแค่เพราะเกลียดชังสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ สำหรับเขากว่างเฉิงแล้วไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด

ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้สมานฉันท์กัน ทว่าก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะไม่ยอมซึ่งกันและกันด้วยเรื่องเพียงเท่านี้

ถ้าเป็นเมืองทะเลมรกต ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งวารีพิภพ กับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสัมพันธ์เสมือนน้ำกับไฟ เช่นนั้นอาจจะมีความเป็นไปได้

ลองคิดดูจากมุมอื่นแล้ว ที่นั่นคงดีที่สุดสำหรับเฟิงอวิ๋นเซิง

เพียงแต่ว่าวารีพิภพอยู่ไกลจากนภาพิภพและอัคคีพิภพเกินไป การที่เฟิงอวิ๋นเซิงจะหลบหนีจากการไล่ล่าไปยังวารีพิภพเพียงลำพังนั้นเป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างยิ่ง

ดังนั้นเขากว่างเฉิงจึงกลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับนางที่สุด

หากในตอนนั้นเยี่ยนจ้าวเกอไม่รั้งนางเอาไว้ และไม่จับนางส่งให้เซียวเซิงแล้วล่ะก็ เฟิงอวิ๋นเซิงก็เตรียมตัวที่จะเสี่ยงอันตรายมุ่งหน้าไปวารีพิภพเพียงลำพัง

ทว่าบัดนี้ หลังจากที่ผู้อาวุโสฉินตรวจสอบพบแล้วว่าแม้นางจะสูญเสียจันทรากายไป ถึงกระนั้นตัวนางก็ยังเป็นอัจฉริยะเหนืออัจฉริยะ และเป็นสตรีที่คุ้มค่าแก่การบ่มเพาะ

นี่จึงทำให้ผู้อาวุโสฉินและเขากว่างเฉิงสับสนอยู่บ้าง

ผลพวงที่จะได้รับกับราคาที่ต้องจ่าย จำเป็นต้องชั่งน้ำหนักให้ดี

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย “ที่จริงแล้วมีวิธีที่จะฟื้นฟูจันทรากายของศิษย์น้องเฟิงกลับคืนมาได้ขอรับ”

ผู้อาวุโสฉินขมวดคิ้ว ทว่าก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา เพียงมองไปที่เฟิงอวิ๋นเซิงอีกครั้ง

ครั้งนี้เขายกมือขึ้นชี้นิ้วไปในอากาศ แสงสายหนึ่งก็พุ่งออกจากนิ้วมือของเขา ก่อนจะตกลงบนข้อมือของเฟิงอวิ๋นเซิง

หลังจากตรวจสอบสภาพของเฟิงอวิ๋นเซิงอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้งแล้ว ผู้อาวุโสฉินก็มองเยี่ยนจ้าวเกอพลางถามเสียงต่ำว่า “เจ้าพูดเช่นนี้จะยืนยันด้วยอะไร”

เหยียนซวี่ก็มองเฟิงอวิ๋นเซิงแวบหนึ่งเช่นกัน พลางจ้องมองบนข้อมือของเฟิงอวิ๋นเซิง

ชั่วขณะหนึ่ง เหยียนซวี่ก็ละสายตากลับมา แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “พูดว่าได้รับความเสียหายนั่นยังน้อยไป ไม่ใช่แค่เพียงได้รับความเสียหายแล้ว แต่หายไปอย่างสิ้นเชิงแล้วต่างหาก”

“การจะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ความยากก็ไม่ต่างอะไรกับการคืนชีพให้กับคนที่ตายไปแล้ว”

“อีกทั้งยังไม่ใช่เพิ่งสิ้นลมหายใจไป แต่เป็นคนที่ตายไปแล้วสองปีต่างหาก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี