สายตาของทุกคนที่อยู่รอบๆ ตกลงบนร่างของเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอมองรอบๆ ยิ้มเล็กน้อย อาหู่ที่อยู่ด้านหลังส่งถุงย่อส่วนใบหนึ่งมา
หลังจากเปิดถุงย่อส่วนแล้ว ศพหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน เป็นผู้อาวุโสที่อยู่ในเก้ากระบี่ผู้วิเศษ ซึ่งรับหน้าที่ส่งของวิเศษชนิดต่างๆ เช่นเครื่องหอมบรรุจฟ้าอย่างลับๆ นั่นเอง
เขาเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ถึงแม้จะตายไปนาน ลมปราณเสื่อมสลาย แต่ร่างกายยังคงไม่เน่าเปื่อย
นอกจากผิวพรรณที่เป็นสีเขียวและไม่เห็นสีเลือดแล้ว ก็ไม่ต่างจากตอนมีชีวิตอยู่เท่าไรนัก
หลังจากเห็นใบหน้าของชายชราผู้นั้นชัดแล้ว ในกลุ่มคนที่อยู่รอบๆ ก็มีบางคนสายตาเคร่งขรึมลง “เลี่ยวเจิง คนในเก้ากระบี่ผู้วิเศษ”
เยี่ยนจ้าวเกอว่า “เพราะความบังเอิญ ข้าได้พบคนผู้นี้ จากนั้นก็ฆ่าทิ้ง ได้ของวิเศษต่างๆ เช่น เครื่องหอมบรรุจฟ้า ผลึกปอดแดนทะเล และดินกำเนิดจักรภพที่เขาพกติดตัวมาอย่างเหนือความคาดหมาย”
“ของวิเศษเหล่านี้ ล้วนใช้สำหรับวางค่ายกลบูชาฟ้าทั้งสิ้น ข้าพอดีรู้จัก จึงทำลายแผนร้ายที่พวกเขาปิดบังอยู่”
เยี่ยนจ้าวเกออมยิ้ม “ต่อมา เมื่อได้เจอกับลูกศิษย์ของประมุขอาคเนย์ จึงถือโอกาสเล่าให้ฟัง”
คนที่อยู่รอบๆ มองศพเบื้องหน้า ต่างเงียบเสียงลง
กงซุนอู่ ผู้ปกครองเกาะมนุษย์สำริดหันไปมองผู้อาวุโสเกาะมนุษย์สำริดคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้าง ส่งกระแสเสียงถามว่า “ได้ยินมาว่าเยี่ยนจ้าวเกอผู้นี้มีไข่มุกมองฟ้าอยู่ด้วย?”
อีกฝ่ายตอบ “ถูกต้อง”
กงซุนหมิงลอบพยักหน้า ส่งสายตาให้พวกกู้หง โจวฮ่าวเซิง และหลัวจื้อเทา โดยที่ผู้อื่นแทบจะไม่ทันสังเกต
เหล่าผู้นำยามนี้ต่างเงียบงันลง
หลัวจื้อเทายังคงมองเยี่ยนจ้าวเกอ สายตายิ่งมายิ่งล้ำลึก
เยี่ยนจ้าวเกอแอบหัวเราะในใจ การสนทนาก่อนหน้านี้ของพวกหลัวจื้อเทาและกู้หง ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขารู้เรื่องที่หนงอวี่ซวนสวมรอยตนในตอนนั้นแล้ว
ดูเหมือนสงครามที่เกาะเทียนอิ้นละเกาะชินเหอ พวกฉีเหว่ยและคังฮูหยินจะหมายหัวเขาเยี่ยนจ้าวเกอเพียงคนเดียวจริงๆ ไม่ได้สนใจพวกจางเชา ผู้อาวุโสชี และเยว่เป่าฉี
ในตอนนั้นคนจากแต่ละสำนักที่อยู่รอบๆ ต่างรอดชีวิต สำนักแสงสว่างไม่อาจปิดข่าว ผู้ใดทำลายค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติ ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป
หลังจากได้ฟังพวกผู้อาวุโสชีเล่าเรื่องในตอนนั้น พวกกู้หงที่เป็นเหล่าผู้นำต่างทราบว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีไข่มุกมองฟ้า
ด้วยเหตุนี้ ตอนนี้คนของสำนักแสงสว่างจึงไม่คิดเปลืองน้ำลายซักถามเยี่ยนจ้าวเกอต่ออีก
ทว่าความจริงแล้ว…ในหุบเขาที่ใช้วางค่ายกลบูชาฟ้าเมื่อก่อนหน้านี้ เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ใช้ไข่มุกมองฟ้าบันทึกภาพในตอนนั้น
ประการแรก คังผิงมีพลังแข็งแกร่ง มีความสามารถพิสดารและแข็งกร้าว หากสัมผัสกลิ่นอายได้ แล้วปล่อยญาณจริงแท้ออกมา สามารถขัดขวางการมองของไข่มุกมองฟ้าได้
ประการที่สอง ตอนนั้นเพื่อป้องกันคังผิง พวกเจิ้งหมิงและเฉินจื้อเหลียงจึงเพิ่มการปกป้องของเรือนภาร่อนวายุถึงขีดสุด
แสงอัสดงเข้มข้นปกคลุม เกิดเป็นแสงเจิดจ้า ไข่มุกมองฟ้าไม่มีทางบันทึกอะไรได้
แค่ปล่อยไข่มุกเม็ดหนึ่งไปด้านนอก คังผิงจะสัมผัสได้ทันที และสามารถบดขยี้ได้แต่ไกล
เพียงแต่เรื่องเหล่านี้ เยี่ยนจ้าวเกอย่อมไม่บอกพวกกงซุนอู่
อีกฝ่ายอยากจะคาดเดาในทางใด ก็ปล่อยให้พวกเขาคาดเดาไป นี่ส่งผลดีต่อเยี่ยนจ้าวเกอมากกว่า
ถึงอย่างไรพวกเจิ้งหมิงก็ยังอยู่ที่ทะเลเหวงเจีย หากอยากพิสูจน์จริงๆ เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ใช่ไม่มีวิธี
หลังจากไตร่ครองครู่หนึ่ง กู้หงก็มองเยี่ยนจ้าวเกอ ประสานมืออย่างจริงใจ “จะว่าไป เรื่องของค่ายกลอัคคีสวรรค์อัสนีวิบัติในตอนนั้น หอกระบี่ทะเลเหนือของเราก็ได้รับบุญคุณจากสหายน้อยเยี่ยน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี