เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินคำถามของเยี่ยนตี๋ ก็ตอบอย่างจริงจังว่า “โชคดีที่ข้าได้พบลูกศิษย์อารามสูงส่งที่ตามหาท่านแม่ในครั้งนี้โดยบังเอิญ หลี่เฉิงที่หน้าเหมือนศิษย์น้องซือคงผู้นั้นเฝ้าอยู่ด้านนอกทางเชื่อม ไม่ได้เข้าไปในมิติต่างแดน”
ไม่เช่นนั้นอารามสูงส่งอาจจะรู้ว่าพวกซือคงจิงกับหลี่เฉิงมีความเกี่ยวข้องกับเสวี่ยชูฉิง
ชายหนุ่มพูดว่า “ถึงแม้จะไม่อาจยืนยันได้อย่างแน่นอน แต่ข้ารู้ว่าการวินิจฉัยของข้าไม่ผิดแน่”
ลวดลายอาคมที่ถูกซ่อนไว้ในวิญญาณของซือคงจิง อันเป็นความพิเศษของพวกนาง เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเสวี่ยชูฉิงจะเป็นผู้สร้างขึ้น
ในอีกด้านหนึ่ง ที่เสวี่ยชูฉิงถูกคนไล่ล่าในปัจจุบัน ก็น่าจะเป็นเพราะเรื่องนี้เอง
เยี่ยนตี๋พูดขึ้นหลังจากใคร่ครวญครู่หนึ่งว่า “เจ้าบอกเรื่องนี้กับศิษย์หลานซือคงด้วย เรื่องที่เกี่ยวข้องกับมารดาเจ้าไม่ต้องพูดละเอียดนัก ประเด็นสำคัญคือให้ศิษย์หลานซือคงเตรียมตัวไว้ เพื่อเพิ่มความระวังเมื่อเดินทางข้างนอก”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ข้าทราบแล้ว”
สองพ่อลูกคุยกันต่ออีกหลายหัวข้อ ส่วนใหญ่แล้วเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันของโลกซ้อนโลก และการพัฒนาต่อจากนี้ของเขากว่างเฉิง
แม้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะไม่ได้รับตำแหน่งอะไรในสำนัก แต่ก็เป็นสมาชิกระดับกลยุทธ์หลักมาตั้งแต่ต้น
ไม่ว่าจะเป็นเยี่ยนตี๋หรือหยวนเจิ้งเฟิง ต่างยินดีพิจารณาความเห็นของเขาในด้านกลยุทธ์ของสำนัก
เมื่อจบแล้ว เยี่ยนตี๋ก็แย้มยิ้ม เอ่ยว่า “การเดินทางในครั้งนี้ของเจ้าได้รับสิ่งของมามากมาย โอสถเซียนยาวิเศษเหล่านั้นเป็นอันดับหนึ่ง จำนวนแม้จะมีมาก แต่สุดท้ายก็ต้องหมด การได้คัมภีร์พลิกนภาในตำนานมายิ่งไม่ง่าย นี่เป็นฐานศิลาของสำนัก เป็นวิชาแห่งยุคสมัยอย่างแท้จริง”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม เอ่ยว่า “แม้จะไม่สมบูรณ์ แต่ก็อาจจะมีการเสริมเข้าไป ถึงเวลานั้นค่อยศึกษาร่วมกับอาจารย์ปู่อีกที
“ฝ่ามือนภากว่างเฉิงของเราเดิมทีเกิดจากรอยตราพลิกนภาอยู่แล้ว”
เขาถอนใจคำหนึ่ง “น่าเสียดายที่ชิ้นส่วนที่อาจารย์ปู่ชิว ผู้ก่อตั้งสำนักได้มาในตอนนั้นสาปสูญไปแล้ว”
อาจารย์ปู่ผู้ก่อตั้งเขาว่างเฉิงในโลกแปดพิภพเฒ่าเบิกฟ้าชิวหยวน เคยได้รับชิ้นส่วนประหลาดมาชิ้นหนึ่ง และอาศัยสิ่งนี้ทำความเข้าใจฝ่ามือนภากว่างเฉิง สร้างรากฐานแรกของเขากว่างเฉิงขึ้นมา
ชิ้นส่วนชิ้นนี้กลายเป็นหนึ่งในสมบัติที่สืบทอดกันมาของเขากว่างเฉิง ที่แล้วมาถูกเก็บรักษาโดยเจ้าสำนัก สืบทอดให้กันรุ่นสู่รุ่น คนอื่นๆ ในสำนักไม่อาจแตะต้องได้
เยี่ยนจ้าวเกอเดิมทีรู้สึกสนใจมาก
เขาสงสัยว่า ชิ้นส่วนชิ้นนี้ตกลงมาจากตราพลิกนภาซึ่งเป็นของวิเศษของเทวกษัตริย์กว่างเฉิง บุคคลที่ยิ่งใหญ่แห่งสำนักเต๋าที่มีชื่อเสียงสะท้านมาแต่โบราณ
หลังจากเยี่ยนตี๋รับตำแหน่งเจ้าสำนักเขากว่างเฉิง เยี่ยนจ้าวเกอยังคิดจะใช้เส้นสาย นำชิ้นส่วนนั้นจากบิดาของตนมาศึกษา
มิคาดเยี่ยนตี๋กลับทราบจากหยวนเจิ้งเฟิง ว่าชิ้นส่วนชิ้นนี้หายไปนานหลายปีแล้ว
ตามที่หยวนเจิ้งเฟิงบอก มันหายไปและไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ตั้งแต่ตอนที่เจ้าสำนักรุ่นก่อนผู้สะเทือนสวรรค์จ่านตงเก๋อจะรับตำแหน่งเสียอีก
สิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือ ชิ้นส่วนหายไปได้อย่างไร ตกไปอยู่ในมือใคร ยังเป็นปริศนาที่วันนี้ยังไม่ได้รับการไขกระจ่าง
ต่อมาจ่านตงเก๋อ จ่านซีโหลว และหยวนเจิ้งเฟิงที่ได้รับตำแหน่งเจ้าสำนักเคยพยายามตามหาอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่ได้ผลลัพธ์อะไร
ด้วยพลังของเขากว่างเฉิงในโลกแปดพิภพ ต่อให้เป็นยุคที่ตกต่ำที่สุด ของวิเศษเช่นนี้ก็ไม่อาจถูกคนนอกขโมยไปได้
ต่อให้ถูกคนนอกชิงไป ก็คงจะไม่ได้หายไปเฉยๆ เช่นนี้ อย่างน้อยก็ต้องรู้ว่าใครเป็นคนทำ และหายไปได้อย่างไร
ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ตามหาต่อในภายหลังอย่างพวกจ่านตงเก๋อและหยวนเจิ้งเฟิง จึงตัดสินว่าปัญหาเกิดจากภายใน
น่าเสียดายที่สุดท้ายก็ตรวจไม่พบผลลัพธ์อะไร
เป็นเพราะคุณสมบัติพิเศษของชิ้นส่วน ข่าวจึงถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา แต่ว่านี่ก็เป็นปริศนาที่ใหญ่ที่สุดที่ของเขากว่างเฉิงมาร้อยกว่าปีแล้ว
ทว่าเมื่อทราบถึงการดำรงอยู่ของโลกซ้อนโลก ได้เห็นของวิเศษเช่นตราประทับตะวันกับมงกุฎจันทรา และได้ทราบว่าราชันพระอาทิตย์กับราชินีพระจันทร์เคยไปยังโลกแปดพิภพมาก่อน พวกเยี่ยนจ้าวเกอ เยี่ยนตี๋ และหยวนเจิ้งเฟิงก็เริ่มสงสัยว่าปัญหาอาจไม่ได้อยู่ภายสำนักก็ได้
โดยเฉพาะนอกจากจะได้ศึกษาความน่าอัศจรรย์ที่แฝงอยู่ในคัมภีร์เทพพระอาทิตย์ และได้พิจารณาหลักการของคัมภีร์พลิกนภาและคัมภีร์นภาหยินหยางแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกว่าคนที่น่าสงสัยที่สุดก็คือเกาหาน ราชันพระอาทิตย์ที่เป็นเทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง และได้ทิ้งตราประทับตะวันเอาไว้ในเหวลึกของปฐพีพิภพ ใช้แผนต้นหลี่ตายแตนต้นท้อผู้นั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี