ถึงแม้ว่าผู้วิเศษเซิงกับคังผิงจะผละไปพร้อมกัน แต่คนในราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็ไม่ได้คัดค้าน
เนื่องจากยังมีเสวียนเฉิงอ๋องอยู่ที่นี่
แม้จะด้อยกว่าผู้วิเศษเซิง แต่ว่าเสวียนเฉิงอ๋องก็ทรงเป็นยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลาง
ครั้งก่อนเขากว่างเฉิงใช้ค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายต้านทานผู้วิเศษเซิง ครั้งนี้กลับไม่แน่ว่าจะราบรื่นเหมือนเดิมแล้ว
‘นักพรตสือ’ ชื่อนี้คือคำตอบ
แม้ว่าจะเป็นแค่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้น แต่อย่าว่าแต่ทะเลหวงเจีย อย่าว่าแต่เขตหยางเทียนตะวันออกเลย
หากพูดถึงด้านค่ายกล ในบรรดาจอมยุทธ์ระดับสะพานเซียนทั่วทั้งโลกซ้อน นักพรตสือเป็นตัวตนที่อยู่ในชั้นแถวหน้า
เมื่อไม่มีค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลาย เขากว่างเฉิงจะอาศัยอะไรมาหยุดยั้งเสวียนเฉิงอ๋องและจอมยุทธ์ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องคนอื่นๆ
จอมยุทธ์ที่สามารถเดินมาถึงขั้นสะพานเซียนได้ ยามยังอยู่ในระดับต่ำ ล้วนเป็นอัจฉริยะสะท้านโลกที่ใช้หนึ่งสู้มาก ใช้ล่างสยบบนได้ วรยุทธ์ที่ฝึกฝนต่างเป็นวรยุทธ์หายาก
ระดับยิ่งสูง ความแตกต่างระหว่างจอมยุทธ์ในระดับเดียวกันก็ยิ่งมีน้อย จอมยุทธ์ที่อยู่คนละระดับมีความห่างชั้นกันมาก
การต่อสู้ข้ามระดับ กลายเป็นยากเหลือประมาณแล้ว
จริงอยู่ที่ในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน มักจะมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สร้างปาฏิหาริย์ได้
ผู้วิเศษเซิงสามารถข้ามช่องว่างระหว่างขั้นสะพานเซียนกับขั้นเทวะสำแดง ใช้ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์้หาญสู้กับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ดได้
ทว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ต่อให้มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงคอยคุ้มครอง เขาก็ได้แต่ต้องถอย ถ้าหากว่าไร้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ จะต้องแพ้แน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นอันตรายถึงชีวิต
นี่เป็นปาฏิหาริย์ที่คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างต้องการแต่ไม่อาจได้มา
ที่ปาฏิหาริย์ถูกเรียกว่าปาฏิหาริย์ เป็นเพราะความหายากของมัน
นักพรตสือโบกมืออย่างเรียบง่าย กู้จางกับเฮ่อตงเฉิงโน้มตัวคำนับก่อน จากนั้นก็พุ่งไปยังเขากว่างเฉิงที่อยู่ด้านล่าง
ประกายกระบี่ที่เหมือนกับกระแสเวลาสองสายพุ่งลง กลายเป็นข่ายอาคมประกายกระบี่สายหนึ่งในชั่วพริบตา ก่อนจะครอบคลุมเขากว่างเฉิงเอาไว้
แสงสว่างกระจายไปทั่ว การไหลของเวลาที่อยู่รอบๆ เขากว่างเฉิงพลันเชื่องช้าลง
เวลาในตอนนี้ราวกับถูกหยุดนิ่ง
แม้นจะสู้ความแข็งแกร่งของผู้วิเศษเซิงไม่ได้ แต่ว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนสองคนร่วมมือกันโจมตี ก็เหมือนกับภูเขาไท่ซานกดทับศีรษะแล้ว
ทว่าในตอนนี้เอง ฟ้าดินกลับสั่นสะเทือนขึ้น
ประกายดาบสว่างไสวสายหนึ่งพุ่งขึ้นจากยอดเขานภากาศของเขากว่างเฉิงด้วยสภาวะผ่าท้องนภา
ครั้นประกายดาบพุ่งผ่าน กระแสประกายกระบี่จากกระบี่กาลเคลื่อนคล้อยที่กู้จางและเฮ่อตงเฉิงร่วมมือกันปล่อยออกมาพลันถูกผ่าออก!
ประกายดาบที่ยิ่งใหญ่ราวฟ้าดินเคลื่อนที่ไปด้านหน้าเหมือนกระแสคลื่นแห่งยุคสมัย ไม่อาจหยุดยั้งและไร้เทียมทาน แม้แต่การไหลผ่านของกาลเวลาก็ดูเหมือนจะต้องถูกสยบต่อหน้าความแน่วแน่อันยิ่งใหญ่นี้
เงาร่างสายหนึ่งลอยขึ้นด้านบนยอดเขานภากาศ รูปลักษณ์ภายนอกมีอายุราวสามสี่สิบปี หน้าตาองอาจ จอนผมเป็นสีขาว
บนดาบแสงสีม่วงเล่มหนึ่งในมือ มีเงาแสงของมังกรแท้หลายตัวบินวนเวียน ส่งเสียงคำรามสนั่นแก้วหูพร้อมกัน
เป็นเจ้าสำนักคนปัจจุบันของเขากว่างเฉิง เยี่ยนตี๋!
ทั่วทั้งร่างของเยี่ยนตี๋ในตอนนี้เปล่งประกาย ปราณดาบสั่นสะท้าน
นักพรตสือขมวดคิ้ว ‘จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้าย? ตามคำพูดพวกคนรุ่นหลัง เด็กน้อยผู้นี้น่าจะลอยขึ้นมายังโลกซ้อนโลกไม่ถึงห้าปี….’
เขายังไม่ทันใคร่ครวญให้เสร็จดี ก็เห็นเหตุการณ์ที่สร้างความแตกตื่นให้แก่ผู้คน
ประกายดาบที่น่ากลัวของเยี่ยนตี๋ หลังจากผ่ากระแสประกายกระบี่ของกระบี่กาลเคลื่อนคล้อยแล้ว สภาวะของมันก็ไม่หยุดลง ฟันใส่กู้จางกับเฮ่อตงเฉิงทันที!
ยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ปีนขึ้นสะพานเซียนแล้วสองคน สู้คู่ต่อสู้ที่ยังอยู่ในขั้นเทวะสำแดงไม่ได้!
คู่ต่อสู้ที่่อ่อนเยาว์ตรงหน้าเขาไม่เพียงแต่มีความเร็วในการพัฒนาพลังฝึกปรือเหนือจินตนาการเท่านั้น ยังมีพลังกล้าแข็งถึงขีดสุดด้วย!
เสวียนเฉิงอ๋องที่อยู่ด้านข้างนักพรตสือไม่ตรัสคำ เพียงทอดพระเนตรมองเยี่ยนตี๋อย่างเย็นชา
เยี่ยนตี๋ตั้งแต่ลอยขึ้นมายังโลกซ้อนโลก ได้ต่อสู้เข่นฆ่ากันอย่างเป็นจริงเป็นจังกับคนอื่นแค่ในการต่อสู้เดียวเท่านั้น
และในการต่อสู้นั้น ก็ได้ทำให้การมายังโลกซ้อนโลกเป็นครั้งแรกของเยี่ยนตี๋โด่งดังไปทั่วสี่ทะเล มีชื่อเสียงขึ้นมาเพราะการต่อสู้เพียงครั้งเดียวอย่างแท้จริง
เยี่ยนตี๋สังหารเสวียนมู่อ๋อง ผู้ปกครองรุ่นที่สามของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องอย่างเหี้ยมหาญในการต่อสู้ครั้งนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี