ผู้วิเศษเซิงที่เคยสยบทะเลหวงเจีย กลับมากวาดล้างหอกระบี่ทะเลเหนือ เกาะมนุษย์สำริด และสำนักความมืด ใช้อำนาจบาตรใหญ่ในทะเลหวงเจียดุจดั่งภัยพิบัติสวรรค์ในไม่กี่ปีมานี้ วันนี้ถูกเยี่ยนจ้าวเกอฆ่าทิ้งที่เขากว่างเฉิง!
ท่ามกลางเสียงกู่ร้อง การเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอไม่หยุดลง ชายหนุ่มยกมือขึ้นใช้รอยตราพลิกนภากระแทกใส่นักพรตสือ
บนร่างของนักพรตสือมีแสงสว่างขึ้น ค่ายกลค่ายแล้วค่ายเล่าปรากฏขึ้นมา
ลวดลายค่ายกลขยายออกกลางอากาศอย่างรวดเร็ว ปกคลุมแผ่นฟ้า จากนั้นก็ทับซ้อนกัน ปกป้องเขาไว้เบื้องล่าง
กระบองไม้ไผ่ของเยี่ยนจ้าวเกอไปถึงทั่วทุกที่ สภาวะกระบี่แปรเปลี่ยนครั้งหนึ่ง สับไปมาระหว่างกระบี่ลวงเซียนและกระบี่สังหารเซียนอย่างอิสระ
กระบี่ลวงเซียนที่ทำลายมิติกลายเป็นกระบี่สังหารเซียนที่ทำลายทุกสรรพสิ่งได้ในอึดใจเดียว
ประกายสีแดงสูญสลาย ปราณสีขาวปรากฏแวบขึ้น
ปราณกระบี่สังหารเซียนสีขาวโพลนกระจัดกระจาย สภาวะดุจทำลายไม้ไผ่ ค่ายกลมากมายที่ทับซ้อนกันหลายชั้นเริ่มพังทลายลง
เยี่ยนจ้าวเกอเอียงฝ่ามือ พลันกระแทกลวดลายค่ายกลที่แหลกสลายเหล่านั้นให้สลายราวฝุ่นควัน
เต่าปูลูที่อยู่ด้านล่างนักพรตสือแม้จะรู้สึกได้ถึงความหวาดกลัว ทว่าก็ยังลอยขึ้นมา ใช้กระดองอันหนาหนักของตัวเองช่วยปรมาจารย์ค่ายกลป้องกัน
ลำแสงสีดำแดงส่องระยิบระยับ กลายเป็นกำแพงแสงมากมาย กอปรกันเป็นข่ายอาคมกระดองเต่าอันใหญ่ยักษ์ผืนหนึ่ง มีพลังน่าทึ่งยิ่ง
ทว่าฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอฟาดลง ข่ายอาคมกระดองเต่าก็ปรากฏรอยร้าวถี่ยิบในทันที
“เปิด!” เยี่ยนจ้าวเกอตวาด เพิ่มแรงฝ่ามือ พลังอันยิ่งใหญ่ที่พลิกเปลี่ยนทิศทางพลิกคว่ำฟ้าดิน กดดันให้ข่ายอาคมกระดองเต่าค่อยๆ แหลกสลาย
รอยตราพลิกนภาซึ่งน่าพรั่นพรึงสุดเปรียบปาน ระเบิดบนหลังเต่าปูลูอย่างหักโหม
กระดองเต่าที่แข็งแกร่งสั่นไหวครั้งหนึ่ง ทว่าก็ไม่ได้แตกร้าวในทันที
ทว่าเต่าปูลูตัวนั้นส่งเสียงร้องโหยหวน เลือดพุ่งออกมาจากทวารทั้งเจ็ด!
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะฮ่าๆ บินขึ้นด้านบน ไม่สนใจเต่าตัวนั้นอีก
เสวียนเฉิงอ๋องยามนี้ทรงรวบรวมสมาธิ ติดตามมาอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเกราะห้าอัคคีเจ็ดวิหคจะได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ไม่อาจใช้ต่อสู้ได้อีก ทว่าพระองค์ก็ยังบากพระพักตร์พุ่งเข้ามาช่วยนักพรตสือ
เมื่อไม่มีความได้เปรียบจากชัยภูมิ พลังของนักพรตสือก็ยิ่งมีจำกัด แม้แต่พวกเฮ่อตงเฉิงกับกู้จางก็ยังเทียบไม่ติด
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะอย่างประหลาดพิกล ไม่ได้ปะทะกับเสวียนเฉิงอ๋อง เขาชักกระบี่ลวงเซียนออกมา ก่อนจะมีแสงสีแดงกะพริบ แล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น
ส่วนสภาวะดาบอันน่าพรั่นพรึงชนิดฟันฟ้าขยี้ดินของเยี่ยนตี๋ ก็พุ่งใส่พวกเสวียนเฉิงอ๋องและนักพรตสือดุจดั่งภูเขาไท่ซานกดทับศีรษะ
ชายหนุ่มวูบไหวร่าง ขวางฆราวาสเด็ดดาวกวนลี่เต๋อแทนเยี่ยนตี๋
“อาวุธเซียนตอนนี้ไม่มีแล้ว แต่ข้ามีของอย่างอื่นจะมอบให้ท่าน” เยี่ยนจ้าวเกอมองฆราวาสเด็ดดาวกวนลี่เต๋อที่อยู่ด้านหน้า พร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้มผ่าเผย
กวนลี่เต๋อมองเยี่ยนจ้าวเกอ “ท่านคือเยี่ยนจ้าวเกอ? ไม่ธรรมดาจริงๆ แต่คิดจะครอบครองอาวุธเซียนที่จักรพรรดิประกายกาฬทิ้้งเอาไว้ ข้าท่านยังห่างชั้นนัก”
เขากางมือออก แล้วสะบัดนิ้วทั้งห้า เหมือนกับดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งผ่านท้องฟ้า
ดาวแต่ละดวงต่างมีแบบแผนและเส้นทางเป็นของตัวเอง งดงามเหลือประมาณ
ตอนแรกแม้ว่ากวนลี่เต๋อจะอาศัยความได้เปรียบของระดับพลังฝึกปรือ ใช้สภาวะกดดันคน ทว่าวิถีวรยุทธ์ก็ไม่ได้หยาบกระด้างขนาดนั้น
หัตถ์เด็ดดาววรยุทธ์ของเขา มีพร้อมทั้งความยิ่งใหญ่และความปราดเปรียว
ในตอนนี้ดาวตกกลุ่มนั้นบันดาลให้มิติที่กวนลี่เต๋ออยู่ดูราวกับกลายเป็นมิติจักรวาล
“คนที่ฝึกฝนคัมภีร์นภากาลเวลาผู้นั้นมีพลังไม่ธรรมดาจริงๆ แม้ข้าอยากเอาชนะเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย”
กวนลี่เต๋อกล่าวอย่างเย็นชา “แต่ถ้าหากท่านคิดว่า ท่านสามารถฆ่าเขาได้ จึงสามารถเอาชนะข้าได้เช่นกัน ข้าว่าท่านออกจะได้ใจมากเกินไปแล้ว”
“ข้าไม่มีทางถูกกระบี่ลวงเซียนของท่านกดข่มหรอก”
เยี่ยนจ้าวเกอฟาดกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าในมือใส่มงกุฎดาวรุ่งเกิดตะวันที่อยู่บนศีรษะของเขา ทว่าก็ยากจะจับเงาร่างของกวนลี่เต๋อ
ประกายกระบี่สีแดงของกระบี่ลวงเซียนสาดไปทั่วบริเวณ กระนั้นแสงของดวงดาวเต็มท้องฟ้าก็รวมกัน กั้นเยี่ยนจ้าวเกอไว้ด้านนอก
ด้านในทะเลดาวยิ่งมีดาวตกร่วงหล่น พุ่งใส่เยี่ยนจ้าวเกออย่างหักโหม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี