แม้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะสนใจเรื่องราชันพระอาทิตย์เกาหานอยู่ แต่ว่าข้อมูลที่รู้ในตอนนี้มีน้อยเกินไป เขาจึงไม่ไปคิดถึงอีก
สิ่งที่จำเป็นต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกในตอนนี้ก็คือ จะกลับโลกซ้อนโลกให้เร็วที่สุดได้อย่างไร
เยี่ยนจ้าวเกอถามคำถามนี้กับฟู่ถิง แต่นางกลับยิ้มอย่างหนักใจ
นางชี้หน้าผากของตัวเอง “ตอนนี้ข้ายังไม่มีวิธีการดีๆ ได้แต่ค่อยๆ หาทางกลับไป”
ชายหนุ่มเข้าใจ และรู้ว่าผนึกในสถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยที่ฟู่ถิงกระตุ้นก่อนหน้านี้ ได้ผลาญการเตรียมตัวจำนวนหนึ่งของตัวนางไป
ไม่อย่างนั้นด้วยความรักใคร่ที่จักรพรรดิแพรมีต่อนาง จะต้องทิ้งความสามารถไว้บนตัวนาง เพื่อให้ในยามที่นางพบสถานการณ์ซึ่งต้องติดอยู่ในกระแสปั่นป่วนของมิติ ได้กลับเขาคุนหลุนบนโลกซ้อนโลกโดยไว
แต่ความสามารถที่ว่าเหล่านี้ บัดนี้กลับไม่อาจใช้ได้
ถ้าหากว่าเมื่อครู่ทางเชื่อมมิติไม่ได้ถูกฟันทำลาย ทุกคนอาจจะยังกลับโลกซ้อนโลกด้วยกันได้
น่าเสียดายที่ทวนพระอังคารถึงอย่างไรก็เป็นอาวุธเซียน ทั้งยังเป็นอาวุธเซียนที่แสดงพลังได้เองชิ้นหนึ่ง
พอคิดถึงทวนพระอังคาร เยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิงพลันสบตากัน ต่างก็ยิ้มอย่างขื่นขม
ดูจากท่าทีเมื่อครู่ อีกฝ่ายหลังจากทำลายสถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยเสร็จ กลับไม่คิดจะจากไป ถึงกับรั้งอยู่ที่เดิม คล้ายรอจักรพรรดิแพรกลับมาโดยเฉพาะ
ช่างเขื่องโขและหยิ่งทะนงจริงๆ
เยี่ยนจ้าวเกอส่ายศีรษะ แยกแยะทิศทางในมิติตรงหน้า “ช่างเถอะ อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องเหล่านี้ ทำความเข้าใจว่าตอนนี้อยู่ไหนก่อนค่อยว่ากล่าว”
ฟู่ถิงเองก็ปลุกปลอบจิตใจ พลางสำรวจสถานการณ์รอบๆ เช่นกัน
แม้จะทำลายสถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยในตอนท้าย แต่ก็ยังปกป้องยอดฝีมือเผ่ามังกรสามตนนั้นไว้ไม่ได้ ได้แต่มองพวกเขาถูกสังหารต่อหน้าตนตาปริบๆ
สำหรับฟู่ถิงที่เป็นสตรีอัจฉริยะ นางไม่เคยเสียท่าใครมาก่อน เรื่องในวันนี้นับว่าส่งผลกระทบกระเทือนอยู่บ้าง
หลายปีมานี้ เรื่องที่ทำให้ฟู่ถิงอัปยศถึงเพียงนี้ มีแต่เรื่องที่เตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับบินหนีไปโดยไร้ปีก และผู้อาวุโสในสำนักของตนพลัดหลงไปในหลุมดำไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน
และสิ่งที่ทำให้ฟู่ถิงทั้งขุ่นเคืองและขบขันก็คือ เรื่องที่ทำให้ตนต้องเสียท่าถึงสองครั้งใหญ่ๆ ซึ่งไม่ค่อยพบเจอนักนี้ เยี่ยนจ้าวเกอถึงกับมีส่วนอยู่ด้วย
แต่นางมีจิตใจแน่วแน่ ไม่ทันไรก็ปรับสภาพจิตใจของตัวเองได้
ไม่ทราบว่าคนทั้งสองลอยอยู่ในมิตินานเท่าไร ก่อนที่มิติตรงหน้าจะเกิดเปลี่ยนแปลง ปรากฏเค้าโครงของโลกใบหนึ่งให้เห็นรางๆ
เยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิงสบตากัน ต่างพุ่งร่างเข้าไปในโลกใบนั้น
เมื่อเข้ามาในนี้ อาณาเขตฟ้าดินพลันบิดเบี้ยวส่ายไหวครั้งหนึ่ง คล้ายกับต้องการกีดกันเยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิงออกไป
คนทั้งสองบรรลุพลังหยินหยาง ปราณสองสายหมุนเวียน ประสานกับฟ้าดินตรงหน้า พลังกีดกันพลันลดน้อยลง
หลังจากเข้ามาด้านใน ก็เห็นป่ากว้างใหญ่สีเขียวชอุ่มผืนหนึ่งปรากฏในครรลองสายตา
เยี่ยนจ้าวเกอหยุดท่าร่าง ทอดสายตามองไกลออกไป ‘การเคลื่อนไหวของปราณวิญญาณในที่แห่งนี้ผิดปกติยิ่ง…’
พวกตนต่างเป็นยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ในขั้นเทวะสำแดง แต่กลับอยู่ในโลกใบนี้ได้อย่างเป็นปกติ
ไม่เหมือนกับโลกเบื้องล่างอย่างโลกแปดพิภพ โลกผืนสมุทร และโลกยมทะยาน
แต่ก็ไม่เหมือนว่าได้กลับมาถึงโลกซ้อนโลก
พอสัมผัสได้ถึงจุดนี้ เยี่ยนจ้าวเกอก็อดแยกเขี้ยวยิงฟันไม่ได้ “หวังว่าที่นี่จะไม่ใช่มรกตท่องฟ้า ไม่อย่างนั้น…คงเป็นโลกของศาสนาพุทธอีกใบหนึ่งหรือ”
“คุณชายเยี่ยนทราบถึงการดำรงอยู่ของโลกศาสนาพุทธเช่นกันหรือ” ฟู่ถิงในฐานะบุตรีของจักรพรรดิแพร จึงทราบเรื่องราวที่จอมยุทธ์ในระดับเดียวกันมากมายไม่รู้
นางกลับรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เยี่ยนจ้าวเกอรู้เรื่อง “ท่านอาเฉาแม้แต่เรื่องนี้ก็บอกท่านด้วยหรือนี่”
เยี่ยนจ้าวเกอเงียบงันครู่หนึ่ง ค่อยกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่ประมุขอาคเนย์บอกข้า ขอไม่ปิดบัง ครั้งก่อนตอนตามหาเตาวิเศษเตานั้น ขณะมิติปั่นป่วน ข้ากับพวกเกาฉิง แม่นางเกาแห่งมรกตท่องฟ้า ได้เข้าไปในโลกศาสนาพุทธใบหนึ่งโดยบังเอิญ จึงค่อยทราบเรื่องราวอยู่บ้าง”
ฟู่ถิงพยักหน้า ถอนใจเอ่ยว่า “นี่ไม่อาจโทษว่าได้”
นางมองเยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกับกล่าวว่า “ท่านพ่อและผู้ปกครองท่านอื่น เพราะพิจารณาถึงความปลอดภัยของโลกซ้อนโลกและโลกเบื้องล่างมากมาย ดังนั้นจึงเก็บเป็นความลับไม่ป่าวประกาศ”
“ในนี้คล้ายมีความลับที่ข้าไม่ทราบอยู่ด้วย ท่านพ่อไม่ได้บอกให้ฟัง ทว่าเรื่องราวคล้ายซับซ้อนยิ่ง”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินดังนั้นก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “แม่นางฟู่วางใจ ข้ากลับมาจากโลกศาสนาพุทธใบนั้นก็ไม่ได้ป่าวประกาศ ที่แล้วมาปากข้าล้วนปิดสนิท”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี