“พี่เขย พี่กลับบ้านดึกขนาดนี้ไม่ใช่ว่าพี่ไปทำอะไรให้ฉันต้องผิดหวังรึ… แค่ก ๆ ไม่ใช่ ๆ ฉันหมายถึงว่าพี่ไปทำอะไรให้พี่สาวของฉันผิดหวังมารึเปล่า?”
ด้วยความร้อนใจ หลี่หรงจึงพูดแบบลืมตัวไปหน่อย
“วันนี้พี่แค่ไปงานเลี้ยงมาก็แค่นั้น ที่นั่นมีคนตั้งเยอะแยะดังนั้นมันไม่แปลกหรอกที่เธอจะได้กลิ่นน้ำหอมของคนอื่นจากตัวของพี่”
เพื่อไม่ให้ถูกเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ อวี้ฮ่าวหรานจึงอธิบายอย่างคร่าว ๆ ให้กับหลี่หรงที่ระยะหลัง ๆ นี้ทำตัวแปลกขึ้นเรื่อย ๆ ฟัง
“ไม่ใช่แน่ ๆ! ฉันจำกลิ่นน้ำหอมอันนี้ได้ มันเป็นน้ำหอมแบรนด์ทิฟฟานี่ที่สุดแสนจะแพงจนแม้แต่ฉันเองก็ยังตัดใจซื้อไม่ลง! ฉันมั่นใจว่าคนที่ใช้น้ำหอมนี้จะต้องเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ๆ สักคนหนึ่งแน่นอน!”
หลี่หรงดมตามร่างกายของอวี้ฮ่าวหรานอีกรอบเพื่อยืนยันข้อสงสัยของตัวเอง
“นี่เธอจำกลิ่นน้ำหอมได้หมดเลยงั้นเหรอ?”
อวี้ฮ่าวหรานรู้สึกทึ่งเป็นอย่างมากกับประสาทการรับกลิ่นของหลี่หรง
“ใช่สิ! แล้วฉันรู้ด้วยอีกว่าผู้หญิงคนนั้นเอาตัวมาซบอกพี่ด้วย! ไม่ได้การละ เมื่อไหร่ที่พี่เม่ยกลับมาฉันจะฟ้องเรื่องนี้แน่นอน!”
“เฮ้! อย่าพูดอะไรมั่ว ๆ ออกไปเชียวนะ เรื่องมันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดสักหน่อย!”
อวี้ฮ่าวหรานรู้สึกปวดหัวจี้ดเมื่อเผชิญกับการถูกหลี่หรงจับผิดแบบนี้ เขาไม่ได้มีอะไรเกินเลยกับเฉิงชิวอวี้สักหน่อย!
“อุบ! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“พี่เขย พี่นี่หลอกง่ายจริง ๆ เลยรู้ไหม ฉันแค่ล้อพี่เล่นเท่านั้นเอง จมูกของฉันจะไปดีถึงขนาดดมแล้วรู้ทุกอย่างขนาดนั้นได้ยังไง”
เมื่อเห็นสีหน้าหนักอกหนักใจของอวี้ฮ่าวหราน หลี่หรงอดไม่ได้ที่จะระเบิดหัวเราะออกมา
ตามปกติไม่ว่าจะเผชิญกับสถานการณ์อะไร พี่เขยของเธอก็เอาแต่ทำหน้านิ่งเป็นรูปปั้นอย่างเดียว ดังนั้นสีหน้าเมื่อครู่ของพี่เขยเธอจึงเป็นอะไรที่หาดูยากมาก ๆ
“ฮึ่ม! งั้นพี่ไปอาบน้ำก่อนดีกว่า!”
อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจจากนั้นเขาเดินตรงไปที่ห้องตัวเองแล้วถอดเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำทันที
หมดกัน!
นี่เขาโดนมนุษย์ธรรมดาหลอก!
จักรพรรดิเทพอย่างเขาที่ปกครองสวรรค์ชั้น 33 มาเป็นหมื่น ๆ ปีวันนี้กลับถูกน้องภรรยาหลอกเอาง่าย ๆ เนี่ยนะ?
บ้าเอ๊ย!
อย่างไรก็ตาม อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอะไร กลับกันเขารู้สึกมีความสุขอีกต่างหากที่เห็นว่าน้องภรรยาของเขายังคงเป็นคนมีอารมณ์ขันเหมือนเดิม
…
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว…
หลายวันต่อมา บริษัทของอวี้ฮ่าวหรานขณะนี้กำลังดำเนินงานไปได้สวยทุกอย่าง โดยเฉพาะเจิ้งเหวยกัวที่ระยะหลังนี้ไม่โผล่หน้ามาก่อกวนเขาเลยสักครั้ง
พอถึงเวลาเกือบ 4 โมงเย็น อวี้ฮ่าวหรานก็ขับรถไปรับถวนถวนตามปกติ
“คุณอวี้ เดี๋ยวอีกไม่กี่วันนี้ทางโรงเรียนจะมีการจัดแข่งขันความสามารถสัตว์เลี้ยงของนักเรียนทุกคนที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ที่บ้าน”
ในระหว่างที่สวีรุ่ยส่งตัวถวนถวนให้อวี้ฮ่าวหราน เธอก็พลันเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“แข่งสัตว์เลี้ยง?” อวี้ฮ่าวหรานถามกลับด้วยสีหน้างุนงง
“ใช่แล้ว เกณฑ์การแข่งขันก็คือพวกเราจะดูว่าสัตว์เลี้ยงของนักเรียนคนไหนที่เชื่อฟังคำสั่งเจ้าของมากที่สุดและสามารถฝ่าด่านอุปสรรคต่าง ๆ ได้ดีที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะ ฉันได้ยินถวนถวนเล่าว่าก่อนหน้านี้คุณเพิ่งซื้อหมาให้เธอใช่ไหม? ถ้าเป็นแบบนั้นคุณสามารถให้ถวนถวนร่วมสนุกกับการแข่งครั้งนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา!”
เมื่อเห็นอวี้ฮ่าวหรานแสดงสีหน้างุนงง สวีรุ่ยจึงอธิบายทุกอย่างแบบคร่าว ๆ
“ฉันเชื่อว่าหากถวนถวนชนะเป็นที่หนึ่ง มันจะส่งผลให้เธอมีความมั่นใจมากขึ้นในอนาคตแน่นอน แต่ว่าคุณคงต้องช่วยเธอฝึกลูกหมาที่เพิ่งซื้อมาให้ดีด้วยเช่นกัน”
“ผมเข้าใจแล้ว!”
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าเข้าใจ ในตอนแรกเขาไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับงานแข่งแบบนี้มากนัก แต่เมื่อเขาได้ยินว่าสิ่งนี้มันจะส่งผลต่อความมั่นใจของลูกสาวของเขาในอนาคต เขาจึงเริ่มคิดแผนการทำให้ลูกสาวของเขาชนะทันที
อะไรก็ตามที่ทำแล้วเป็นผลดีต่อลูกสาวของเขา เขาจะทำมันทั้งหมดอย่างจริงจัง!
“คุณจะขอบคุณฉันทำไม? มันควรเป็นฉันมากกว่าที่ต้องขอบคุณที่คุณคอยช่วยเหลือฉันมาตลอด”
จากนั้นเมื่อคุยกันไปได้อีกครู่หนึ่ง อวี้ฮ่าวหรานก็ขอตัวกลับ
เมื่อกลับไปถึงห้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]